10 บุคคลที่เชื่อว่าทำสัญญากับปีศาจ

 10 บุคคลที่เชื่อว่าทำสัญญากับปีศาจ

src=http://board.postjung.com/data/583/583228-topic-ix-1.jpg



บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด





ทุก วันนี้ยังมีหลายๆ คนเรายังหาวิธีง่ายๆ ในการแสวงหาความมั่งคงหรืออำนาจ การทีจะบรรลุจุดประสงค์เหล่านี้เราจะต้องฉลาด มีความสามารถ แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ เรียนเรอะโครตน่าเบื่อ ใช้เส้นเรอะก็ไม่ค่อยมี ดังนั้นมีอีกวิธีหนึ่งที่ทำง่ายที่สุดคือการทำสัญญากับปีศาจ

Deal with the Devil มีความ หมายว่า การขายวิญญาณให้กับปีศาจ (แต่ผมจะเรียกว่า บุคคลที่ทำสัญญาปีศาจดีกว่า เพราะหลายอันดับไม่ใช่คนชั่วร้าย) การทำสัญญาของปีศาจ ปรากฏในวัฒนธรรมและพื้นบ้านของยุโรปเป็นเวลานาน มีความหมายว่าการทำสัญญาบุคคลระหว่างคนธรรมดากับซาตานหรือปีศาจตัวอื่นๆ โดยแลกเปลี่ยนจิตวิญญาณของตน(เช่น เด็กทารก เหยื่อสังเวย, การร่วมเพศ, ดวงวิญญาณของตน) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้,ทรัพย์สินหรืออำนาจ ทำให้บุคคลธรรมดาเหล่านั้นมีมันสมองและพละกำลังเก่งกาจเกินมนุษย์ทั่วไป

การทำสัญญานั้นอาจใช้ได้วาจาและ ลายลักษณ์อักษร โดนจะมีพิธีกรรม โดยใช้เครื่องหมายในการเรียกปีศาจ โดยใช้เลือกหรือหมึกในการวาด ดังที่ปรากฏในหนังสือ กุญแจย่อยของโซโลมอน (Lesser Key of Solomon) หรือ คลาวิคิวลา ซาโลมอนิส (Clavicula Salomonis) ซึ่ง เป็นตำราเวทย์ซึ่งไม่ปรากฏชื่อผู้แต่งในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 และเป็นหนังสือที่แพร่หลายที่สุดในปิศาจวิทยา รายละเอียดของภูตและการอัญเชิญเพื่อใช้งาน

นอกจากนี้คำว่า “Deal with the Devil” ยังถูกใช้ในการประณามบุคคลที่ชั่วร้ายหรือระบอบการปกครอง เช่น ฮิตเลอร์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เป็นต้น และ10 อันดับต่อไปเป็นบุคคลที่หลายคนเชื่อว่าเป็นบุคคลที่ทำสัญญากับปีศาจ



 


 





อันดับ 10 Pope Sylvester IIsrc=http://image.dek-d.com/23/604393/104820376
สมเด็จพระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์ที่  2 (เกิด ค.ศ.945-ตาย 5/12/1003)เป็นพระสัมตะปาปาที่ดำรงตำแหน่งใน ค.ศ.999 ถึง ค.ศ.1003 นอกจากนี้ท่านยังมีความรู้ความสามารถเก่งกาจเกินมนุษย์ทั่วไป เป็นผู้เชี่ยวชาญในคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ กลศาสตร์ เป็นคนถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีจากโลกมุสลิมขนานใหญ่สู่ยุโรป เขายังเขียนหนังสือเกี่ยวกับคณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ, ดนตรีและปรัชญา ด้วยความเก่งทำให้มีข่าวลือว่าที่ท่านมีสติปัญญาและนักประดิษฐ์นี้เป็นผลมา จากการทำสัญญากับปีศาจ

 





 


 


 





อันดับ 9 Nicolo Paganini          src=http://image.dek-d.com/23/604393/104820404
นิคโคโล ปากานินี(เกิด 27/10/1782-ตาย 27/5/1840)เป็นนักดนตรีชาวอิตาลีที่มีพรสวรรค์ในการเล่น ดนตรี ตอนเป้นเด็ก เขาถูกเลี้ยงดูโดยบิดาที่เจ้าอารมณ์และบังคับเขาเล่นไวโอลิน เขาเคยป่วยหนักด้วยโรคหัดจนใครๆ นึกว่าเขาตายแล้ว ร่างของเขาถูกห่อด้วยผ้าพันศพแต่ยังโชคดีที่ไม่ได้ฝังเขาไปเสียก่อน และหลังจากนั้นเป้นต้นมาเขาก็แสดงพรสวรรค์ด้านไวโอลินตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และแสดงต่อหน้าสาธารณะขณะอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น และเริ่มชื่อเสียง และ ได้รับการยอมรับถึงฝีมือการเล่นว่าเป็นที่หนึ่งในยุคนั้น ด้วยวิธีการเล่นที่เหนือมนุษย์ เทคนิคการเล่นไวโอลินแบบแปลก ๆ เช่นปรับสายไวโอลินสายใดสายหนึ่งให้สูงกว่าครึ่งเสียง เทคนิคดับเบิ้ลสต็อป การเล่นพิซซิคาโตด้วยมือซ้ายและการเล่นไวโอลินด้วยสายน้อยกว่า 4 สายด้วยเทคนิคฮาร์โมนิคและยังได้แต่งเพลงโซนาต้าโดยใช้สาย G เพียงสายเดียวอีกด้วย

ด้วย ภาพลักษณ์ของปากานินี ที่หน้าตาที่ซีดขาวคล้ายศพเดินได้ รอยยิ้มที่คล้ายกับรอยยิ้มของซาตาน แววตาที่ยิ้มของเขาคล้ายกับถ่านไฟที่ลุกโชน ทำให้มีเรื่องราวเกี่ยวกับปีศาจเกี่ยวกับตัวเขา สาธารณชนเริ่ม รู้จักปากานินี่ในฉายาว่า Hexensohn” หรือทายาทปีศาจ ว่ากันว่า พรสวรรค์และความสามารถของเขาได้รับมาจากซาตาน  โดย ทำสัญญาในขณะที่ใกล้ตายด้วยโรคหัดตอนเด็ก ทำให้หลายๆ คนหวาดกลัวเขา ถึงขนาดถ้าใครบังเอิญไปถูกตัวเขาเข้าจะต้องทำสัญลักษณ์ไม้กางเขนทันทีเพราะ ความกลัวอาถรรพ์ร้าย ในฮอลแลนด์ผู้คนกล่าวกันว่าเขาเดินทางมาถึงที่นั่นด้วยเรือเหาะในตำนานชาว ดัทช์คือ Flying Dutchman

ด้วยข่าวลือนี้ทำให้ประชาชนเข้าไป ดูงานคอนเสิร์ตของปากานินีเต็มทุกรอบ เพลงของเขาสามารถตรึงผู้ชมให้อยู่ กับที่โดยไม่มีใครกล้าลุกไปไหน กวีบางคนถึงกับบรรยายว่าบทเพลงของทำให้เห็นสวรรค์และนรกปานนั้น ปากานินี เสียชีวิตในวันที่ 27 พฤษภาคม 1840 แต่โบสถ์ปฏิเสธจะนำศพประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เนื่องจาก เขาปฏิเสธพิธีรับศีลครั้งสุดท้าย  ศพของเขาถูกเก็บ ไว้ในห้องใต้ดินนานถึง 5 ปีจนกระทั่งครอบครัวเขาได้ ยื่นคำร้องต่อทางโบสถ์เพื่อขอประกอบพิธีทางศาสนาให้แก่เขา ผู้คนต่างโจษจันถึงเหตุผลในการปฏิเสธของทางศาสนจักร บ้างก็เชื่อว่าเขายังไม่ตายและมีคนเชื่อว่าเขาเป็นพวกนอกรีต จนกระทั่ง 5 ปีต่อมา บุตรชายของเขาจึงได้ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อองค์พระสันตปาปาเพื่อขอให้มีพิธี ฝังศพเขาที่โบสถ์แห่งหนึ่งใกล้ ๆ กับเมืองเจนัว

 








อันดับ 8 Gilles de Rais


src=http://image.dek-d.com/23/604393/104820410


กิลล์ เดอ เรยส์(เกิด 1404—ตาย1440)อดีตคนสนิทของ แจนน์ ดาร์ค (โจน ออฟ อาร์ค) เขาเป็นขุนนางที่เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะและกล้าหาฯเจ้าของฉายาเคราสี น้ำเงิน เขาเกิดในครอบครัวที่มีชื่อเสียงมั่งคั่งในมณฑลฝรั่งเศส หลังจากแจนน์ ดาร์คก็ถูกทหารฝ่ายศัตรูจับ และถูกเผาทั้งเป็นในฐานะแม่มดเมื่อปี 1431 กิลส์ก็เริ่มบ้า เขาเริ่มใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือยและหลงไหลในการเล่นแปรธาตุ เปลี่ยนโลหะเป็นทองคำ จนกระทั้งเขาไปรู้จักชายคนหนึ่งชื่อฟรานคอยส์ เปรลาติ(Francesco Prelati)  ที่ บอกเขาว่าให้สังเวยเด็กเพื่อบูชาปีศาจที่ชื่อ “บารอน” จนเป็นเหตุทำให้เขาต้องกลายเป็นฆาตกรฆ่าข่มขืนเด็กเพื่อเป็นเครื่องสังเวย ให้กับปีศาจในระหว่างปี 80 และ 200  ว่าเหยื่อของเขา น่าจะมีมากกว่า 1500 ราย และผลสุดท้าย กิลส์ ถูกตัดสินให้ประหารโดยการแขวนคอและเผา ในวันที่ 26 ตุลาคม  1440





อันดับ 7 General Jonathan Moulton


src=http://listverse.files.wordpress.com/2010/05/moulton06-tm.jpg?w=400&h=260


โจนา ธาน(เกิด 21/7/1726 – ตาย 18-9-1787) เริ่มต้นเป็นแค่เด็กฝึกงานช่างทำตู้ แต่ในปี 1745 เขาไปเริ่มต้นอาชีพใหม่ในนิวอิงแลนด์ เขาเข้าร่วมการต่อสู้ใน King George ในสงครามฝรั่งเศสและอินเดีย เขาแต่งงานในปี 1749 มีลูก 11 คน และเขาก็เป็นหนึ่งคนร่ำรวยใน New Hampshire ตามตำ นานโจนาธานก็เริ่มขึ้นเมื่อ 1769 เมื่อเขาสร้างคฤหาสน์ขึ้น มีหลายคนเล่าว่าโจนาธานเคยบอกภรรยาว่าเขาจะขายวิญญาณของเขาปีศาจเพื่อให้พวก เขามีทรัพย์สมบัติที่เขาต้องการ โดยเขาจะใส่รองเท้าบู๊ตเดือนละครั้งและวางรองเท้าเขาให้ปีศาจ แล้วปีศาจนั้นจะเติมเงินทองในรองเท้าบู๊ดจนเต็ม เชื่อว่าหลังจากที่โจนาธานตายร่างกายของเขาหายไปจากโรงและถูกแทนที่กล่องใส่ เหรียญกับตรามาร โลงของโจนาธานเลยถูกฝังโดยไม่มีเครื่องหมายและฝังในสถานที่ที่คนไม่รู้จัก





อันดับ 6 Father Urbain Grandier


src=http://listverse.files.wordpress.com/2010/05/urbainpact2-tm.jpg?w=247&h=350


เออร์ เบน กรานเดียร์(เกิด 1590-ตาย16/8/1634) บาทหลวงผู้อื้อฉาวพระคาทอลิกฝรั่งเศสที่ถูกตัดสินโดยการประหารโดยการเผา โดยข้อหาก่ออาชญากรรมด้วยมนต์คาถา เขาทำหน้าที่เป็นพระในโบสถ์ Sainte Croix ใน Loudun เขาเป็นที่รู้จักกันในเรื่องมักมากในกาม มีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิงและมีชื่อเสียงในเรื่องเจ้าชู้ ในปี 1632 แม่ชีหลายคนกล่าวหาว่า เขามีเวทมนต์จากการทำสัญญากับปีศาจเพื่อให้ได้ผู้หญิงที่ตนต้องการ หลังจากนั้นเขาก็ถูกจับและถูกนำตัวมาทรมาน จนได้พบหลักฐานใบสัญญาที่เขาทำไว้กับปีศาจ เป็นภาษาลาตินและรวมถึงลายเซ็นที่เชื่อว่าเป็นของซาตาน โดยเนื้อหาเขียนเป็นภาษาอังกฤษดังต่อไปนี้

We, the influential Lucifer, the young Satan, Beelzebub, Leviathan, Elimi,

(พวกเรา...ลูซิเฟอร์ผู้ทรงอำนาจ ซาตานผู้เยาว์ เบลเซบับ เลเวียธาน อีไลมิ)

and Astaroth, together with others, have today accepted the covenant pact

(และแอสทารอธ พร้อมพรั่งด้วยตนอื่น พร้อมรับข้อสัญญาร่วมกัน)

of Urbain Grandier, who is ours. And him do we promise

(แห่งเออร์เบน แกรนเดียร์ ผู้ที่เป็นของพวกเรา และทำสัญญาแก่พวกเรา)

the love of women, the flower of virgins, the respect of monarchs, honors, lusts and powers

(ความรักของ อิสตรี บุปยาแห่งพรหมจารีย์ ความยำเกรงแห่งบัลลังก์ เกียรติยศ กามราคะ และอำนาจ)

He will go whoring three days long; the carousal will be dear to him. He offers us once

(เขาจะเพลิด เพลินไปกับกามกิจกว่าสามทิวา การร่ำสุราเฉลิมฉลองคือความรื่นรมย์แก่เขา เขาจะขอ

แก่พวกเราเป็น ครั้งหนึ่งใน)

in the year a seal of blood, under the feet he will trample the holy things of the church and

(ปีแห่งตรา ประทับโลหิต เขาจะเหยียบย่ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวลแห่งศาสนจักรภายใต้ฝ่าเท้า)

he will ask us many questions; with this pact he will live twenty years happy

(เขาจะถามคำ ถามพวกเรามากมาย ด้วยข้อสัญญานี้ เขาจะดำรงชีวิตแสนสุขเป็นเวลายี่สิบปีบริบูรณ์)

on the earth of men, and will later join us to sin against God.

(ในแผ่นดิน แห่งมนุษย์ และต่อมาจักต้องร่วมกับพวกเราในบาปตรงข้ามพระผู้เป็นเจ้า)

Bound in hell, in the council of demons.

(ตราผูกมัดในนรกภูมิ ในสภาแห่งอสูร)

Lucifer Beelzebub Satan

(ลูซิเฟอร์ เบลเซบับ ซาตาน)

Astaroth Leviathan Elimi

(แอสทารอธ เลเวียธาน อีไลมิ)

The seals placed the Devil, the master, and the demons, princes of the lord.

(ตราทั้งหลายประทับว่า ปีศาจ ผู้เป็นนาย และเหล่าอสูร เจ้าชายแห่งผู้ปกครอง)

Baalberith, writer.

(บาอัล เบริธ...ผู้ร่าง)





อันดับ 5 Giuseppe Tartini


src=http://image.dek-d.com/23/604393/104820417


ตา ร์ตินี่(เกิด 8/4/1692- ตาย 26/2/1770) เป็นนักแต่งเพลงและนักไวโอลินชาวอิตาเลียนในศตวรรษที่ 18 เขาเป็นหนึ่งในนักประพันธ์ที่มีผลงานมากกว่า 400 ผลงาน ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่ใช้ในโบสถ์ไม่ก็โอเปร่า และผลงานที่เด่นที่สุดคือ เพลงที่ชื่อ the Devil's Trill Sonata ที่มีท่วง ทำนองร้อนแรง โดยเขาอ้างว่าเขาแต่งบทเพลงนี้จากความฝันว่าได้ทำสัญญากับซาตาน ซึ่งบรรเลงไวโอลินโซนาต้าที่มีความไพเราะมากบทหนึ่งให้แก่เขา แต่เมื่อตื่นขึ้นมาเขาไม่สามารถจดจำบทเพลงนั้นได้เลย ตาร์ตินี่จึงลองแต่งโซนาต้าเพื่อเลียนแบบเพลงในฝันของซาตาน ความพิเศษของ Devil’s Trill sonata อยู่ในท่อนสุดท้าย นักไวโอลินต้องเล่นรัวสาย (Trill) บนสายหนึ่ง ในขณะนิ้วอื่นๆ ต้องเล่นบนสายที่เหลืออย่างรวดเร็ว

ตาร์ ตินี่บอกว่า ซาตานตนนั้นบรรเลงเพลงด้วยฝีมือชั้นยอด ด้วยจินตนาการในแบบที่ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีใครทำได้ เขาฟังอย่างหมดเรี่ยวแรงแทบจะลืมหายใจ พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ เขาเริ่มจับไวโอลินทันทีโดยหวังว่าจะจดจำบางเสี้ยวของสิ่งที่พึ่งได้ยินมา ได้ แต่กลับจำไม่ได้เลย นั่นคือเพลง Devil's Sonata แต่มันยัง ห่างไกลจากสิ่งที่ทำให้เขาตะลึงงัน ตาร์ตินี่กล่าวว่า เขายอมพังไวโอลินทิ้งและเลิกเล่นดนตรีอย่างเด็ดขาดหากได้เป็นเจ้าของเพลงนี้

คุณสามารถฟังบทเพลงนี้ได้   
http://www.youtube.com/watch?v=LnvUS0QxDYo&feature=player_embedded#at=167
[/media]





อันดับ 4 Cornelius Agrippa


src=http://listverse.files.wordpress.com/2010/05/agrippa_c8_cr-tm.jpg?w=400&h=311


คอร์เน ลิอุส อะกริบป้า (เกิด  9-14-1486- ตาย 2-18-1535) เป็นนักเขียนแห่งยุคยุคเรอเนอซอซ์ (ประมาณคริสตศตวรรษที่14 ถึง 16) เขามีความรู้ด้านกฎหมาย และยา  รวม ทั้งเป็นหมอผี, ทนายความ, หมอดู และนักล่นแร่แปรธาตุ ทั้งๆ ที่ไม่เคยได้รับปริญญาเขายังเป็นผู้นำสิทธิสตรีที่มักออกตัวปกป้องผู้หญิง ที่กล่าวหาว่าเป็นแม่มด เขาเขียนหนังสือลึกลับ 3 เล่มและยังคงใช้จนถึงทุกวันนี้ หนึ่งในนั้นคือหนังสือชื่อ On Occult Philosophy ตำรานี้มีทั้งตัวอักษรภาษาฮิบรูและภาษากรีก เขายืนยันว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้จักกับพระเจ้าคือการเรียนรู้อำนาจวิเศษ ในปี 1535 เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นคนนอกรีตและพิพากษาให้ตาย เขาหนีและล้มป่วยจนเสียชีวิต หลังจากการตายของเขามีข่าวลื่อว่า ปีศาจได้ปลุกเขาให้คืนชีพ และมีเพื่อนเป็นสุนัขสีดำขนาดใหญ่ท่องไปแดน ต่างๆ





อันดับ 3 Robert Johnson


src=http://listverse.files.wordpress.com/2010/05/robert_johnson1-tm.jpg?w=400&h=312


โรเบิร์ต จอห์นสัน(เกิด 8/5/1911 – ตาย 16/9/1938) เขาเป็นดนตรีผิวสี ชาวอเมริกัน เจ้าแห่งดนตรีบูลส์ เจ้าแห่งกีตาร์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่สร้างชื่อทั้งๆ ที่อายุยังน้อย เขาบันทึกผลงานในช่วงปี 1936-1937รวมผลงานเพลง จำนวน 29 เพลง แต่ละเพลงล้วนชั้นยอดทั้งสิ้น

ในช่วงแรกๆ นั้นโรเบิร์ต จอห์นสันเป็นเพียงนักดนตรีธรรมดาที่ได้แต่เดินตามและลอกเทคนิคนักดนตรีดังๆ เท่านั้น เขาไม่ประสบผลสำเร็จอะไรเลย  แต่หลังจากไม่ กี่เดือน เขาหายตัวไปและกลับมาพร่อมเทคนิคและการเล่นที่เหนือชั้นที่ไม่รู้ว่าเขา ฝึกฝนมาจากที่ไหนหรือใครเป็นผู้ถ่ายทอดให้กับเขา จนหลายคนต่างซุบซิบเป็นที่กล่าวขานว่า เขาขายวิญญาณให้กับซาตาน(ในร่างของชายผิวดำร่างยักษ์ ณ บริเวณสี่แยกที่เรียกว่า เดลต้ามิสซิสซิปปีเพื่อแลกกับฝีมืออันสุดยอดนี้!

แต่ มันก็เป็นเรื่องที่ร่ำลือที่ปราศจากการพิสูจน์หรือค้นหาข้อเท็จจริง หลายฝ่ายแค่เดาแค่หลายบทเพลงที่โรเบิร์ตแต่งและร้องนั้นมักจะเกี่ยวข้องกับ ซาตานเสมอ รวมไปถึงพฤติกรรมประหลาดที่เขามักหันหน้าเข้าผนังเวลาเล่นกีตาร์ร้องเพลงใน ห้องอัด และที่สำคัญเขาจากโลกนี้ไปทั้งๆ ที่อายุยังน้อย เพียง 27 ปีเท่านั้น ด้วยอาการเจ็บป่วย บางมีคำเล่าขานว่า เขาโดนวางยาในแก้วเหล้าจากผู้ชายลึกลับคนหนึ่ง





อันดับ 2 Johann Georg Faust


src=http://listverse.files.wordpress.com/2010/05/idealportracc88t_joannes_faustus-tm.jpg?w=267&h=350


ดร. เฟาสท์(เกิด c. 1480- ตาย c. 1540) เป็นนักเล่นแปรธาตุพรเนจร โหราจารย์และหมอผีชาวเยอรมัน ในศตวรรษที่ 16 เป็นคนขี้ โอ่อวดอ้างว่าสามารถบันดาลสิ่งมหัศจรรย์เพราะมีพญามารเป็นพวก เขาได้รับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัย Krakow ชีวิตของเขามี เรื่องเล่ามากมายทำให้ยากที่จะหาข้อเท็จจริงในประวัติชีวิตของเขาได้  ตำนาน มีอยู่ว่าเขาต้องการมีชีวิตที่มีแต่ความเป็นหนุ่ม ความรู้และอำนาจเลยเรียนเรื่องไสยและวิธีการเรียก ปีศาจ  โดยสองเพื่อนสนิทของเขา Martin Luther และ Philip Melachton ได้เป็นพยานในพิธีสัญญาผูกพันเฟาสท์และซาตาน

เรื่องของเขายังถูกนำมาเล่าเป็น นิยายในเรื่อง The Tragical History of Doctor Faustus (1604) and Goethe's Faust (1808) ที่เป็นเรื่องราวของชายผู้มีความ รู้ท่วมตัว และทะเยอทะยานที่ไม่มีที่สิ้นสุด วันหนึ่งโชคชะตาชักนำให้เขาพบ กับเมมฟิสโต้ (Mephistopheles) ปีศาจ ผู้สงสัยในอำนาจของพระเจ้า และเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ หากไม่หลงเชื่อในภาพลวงตาแห่งสวรรค์ ที่พระเจ้าเสกสรรค์ปั้นแต่งขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์คับขันที่ต่างฝ่ายต่างมีภารกิจ ที่จะต้องสนองตัณหาของตนเอง เฟาสท์จึงยอมขายวิญญาณให้แก่เมฟิสโต้เพื่อ แลกกับความเป็นหนุ่มอีกครั้งและมีความสัมพันธ์กับมาร์กาเร็ตเต้สาวบริสุทธิ์ และทำให้เธอท้องแต่ว่าเธอก็ต้องถูกประหารเพราะฆ่าลูกของตัวเอง เลยทำให้แผนการของเมมฟิสโต้ ที่จะทำให้เฟาสท์รู้สึกสมประสงค์ก็ต้องผิดพลาดไป จากนั้นเฟาทส์ก็ถูกพาย้อนเวลาไปสมัยโรมัน โดยให้เจอกับทั้งจักรพรรดิโรม และสาวงามอย่างเฮเลน แต่เฟาทส์ก็ไม่รู้สึกพอใจแต่อย่างใดเมมฟิสโต้เลยพาเฟาสท์กลับมาที่เยอรมัน และที่นั้นก็ทำให้เฟาสท์พอใจเขาสิ่งที่เขาต้องการ เมมฟิสโต้ เลยจะเอาวิญญาณของเขาไป แต่ก็ต้องถูกฑูตสวรรค์มาขัดขวาง และนำดวงวิญญาณของเขาไปหาพระแม่มารีย์แทน

อันดับ 1 St. Theophilus of Adana


src=http://listverse.files.wordpress.com/2010/05/michael_pacher_004-tm.jpg?w=305&h=350



นักบุญทีโอฟิลุสผู้สำนึกผิดหรือ ทีโอฟิลุสแห่งเอดานา (died c. 538) เป็นพระในศริสตจักรเมื่อ ที่ได้รับการกล่าวว่าได้ทำสัญญากับปีศาจเพื่อได้รับตำแหน่งของสงฆ์ เนื่องจากเขาไม่พอใจในไม่ได้รับเลือกในตำแหน่งใหญ่ๆ เขาทำสัญญาเลือดแก่ซาตาน จนได้ดำรงตำแหน่งอธิการ แต่ภายหลังเขาสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำขอร้องขอให้อภัยโทษต่อหน้าพระแม่มารีย์ จนเขาได้เห็นประจักษ์พระแม่มารีย์และให้อภัยโทษต่อเขา   เรื่อง ราวของท่านได้กลายเป็นเรื่องที่เก่าแก่ที่สุดในการทำสัญญากับปีศาจ และยังเป็นแรงบันดาลใจเรื่อง Faust  ส่วน ภาพวาดด้านบทเป็นของ Michael Pacher

ข้อมูลจาก
http://atcloud.com/stories/84791


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์