แมตช์ห้าดาว! เรือหักปีกหงส์ 2-1 หยุดสถิติไร้พ่าย

เรือใบสีฟ้ากลายเป็นทีมแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้หงส์แดงในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และทำคะแนนไล่จี้เหลือ 4 แต้มแล้ว

พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2018-2019 คู่ส่งท้ายสัปดาห์ที่ 21 เป็นศึกบิ๊กแมตช์การพบกันของสองทีมลุ้นแชมป์หัวตารางอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเหย้า เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล

เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือเจ้าบ้าน เปลี่ยนนักเตะจากเกมสุดท้ายของปี 2018 ที่บุกชนะเซาแธมป์ตัน 3-1 เพียงแค่ 2 รายเท่านั้น ได้แก่ จอห์น สโตนส์ กับ เลรอย ซาเน ซึ่งได้ลงตัวจริงแทน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ ริดยาด มาห์เรซด้านทีมเยือนของ เยอร์เก็น คล็อปป์ ปรับทัพจากเกมส่งท้ายปีเก่าซึ่งถล่มอาร์เซนอล 5-1 จำนวน 2 คนเช่นกันคือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์ ที่ได้ลงเป็น 11 คนแรกแทน ฟาบินโญ กับ เซอร์ดาน ชากิรี

เริ่มเกมมาจนถึงนาทีที่ 17 เป็นฝั่งของลิเวอร์พูลที่เกือบจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน หลุดเดี่ยวไปยิงด้วยขวาชนเสาแล้วบอลไหลมาโดน สโตนส์ เตะอัด เอแดร์สัน จนลูกเกือบจะทะลักเข้าประตูตัวเองอยู่แล้ว แต่กองหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษยังตามไปเคลียร์จากเส้นประตูก่อนที่บอลจะข้ามเส้นไปเต็มใบแบบหวุดหวิด

เมื่อหงส์แดงพลาดโอกาสทองไป ก็ทำให้มาโดนซิตี้ลงโทษในช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 40 จากจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ ซิลบา ไหลบอลให้ เซร์คิโอ อเกวโร ลากบอลไปซัดมุมแคบด้วยซ้ายแสกหน้า อลิสสัน เสยตาข่ายอย่างเด็ดขาด ส่งให้เรือใบสีฟ้าขึ้นนำ 1-0 ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังทีมเยือนปรับมาเร่งเกมบุกมากขึ้นเพื่อหวังตีเสมอ และก็มาสำเร็จในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วางบอลยาวเข้าเขตโทษให้ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แปะถวายพานต่อให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ยิงระยะเผาขนไม่เหลือ ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 1-1

ทว่านาทีที่ 72 ซิตี้ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายบอลออกไปพื้นที่ว่างทางกราบซ้ายให้ ซาเน แตะเข้าเขตโทษก่อนจะกดเรียดด้วยซ้ายส่งลูกพุ่งเช็ดเสาไกลอย่างเฉียบคม ช่วยให้เรือใบสีฟ้านำอีกรอบ 2-1

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้เฉือนชนะหวุดหวิด 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 50 คะแนน กลับขึ้นมารั้งอันดับ 2 อีกครั้ง พร้อมไล่จี้ลิเวอร์พูลซึ่งนำเป็นจ่าฝูงเหลือเพียงแค่ 4 แต้มแล้ว

Cr:::goal.com/th