'มานูเอล เปเยกรินี' กุนซือ แมนฯ ซิตี ฟุ้งสนั่นสไตล์การทำทีมของเขา ทำให้ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ หลังต้อน เวสต์แฮม 6-0 ในศึกแคปปิตอล วันคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
มานูเอล เปเยกรินี ผู้จัดการทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี นำลูกทีมทำสถิติยิง 59 ประตู จาก 15 เกมเหย้า รวมทุกถ้วย
หลังสอนเชิง "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 6-0 ที่สนามอิติฮัด ย่านอีสต์แลนด์ ของตัวเอง ในศึกชิงถ้วยแคปปิตอล วันคัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก กลางดึกวันพุธที่ 8 มกราคม ซึ่งกุนซือจากชิลี กล่าวว่ารูปแบบการเล่นของซิตี ที่เขาและลูกทีมสร้างขึ้นนำมาซึ่งความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและยิงคู่ต่อสู้ได้แบบถล่มทลาย
"จริงอยู่ ผมเคยพูดไว้ว่าเรายังไม่ได้ชนะอะไร ตราบใดที่การแข่งขันขันยังไม่ไปถึงเกมสุดท้าย ทว่าจากผลแข่งนัดแรกเชื่อได้เลยว่าเราก้าวขาเข้ารอบชิงชนะเลิศไปแล้วหนึ่งข้าง และอาจเป็นการเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ด้วยผลแข่งเพียงนัดเดียว แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เรายิงได้ถึงครึ่งโหล ทว่ามันอยู่ที่แบบฉบับในการเล่นของเราต่างหาก เพราะด้วยสไตล์ที่เราเป็นอยู่ นำมาซึ่งการทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และคืนนี้มันพิเศษกว่านั้น เพราะเราชนะเกมศูนย์ สำหรับเกมเยือนกรุงลอนดอน เราอาจเล่นต่างออกไปจากนี้บ้าง แต่เชื่อเถอะว่าสุดท้ายความมุ่งมั่นของเราก็จะไม่ต่างจากที่เราทำในวันนี้" กุนซือวัย 60 ปีกล่าว
ขณะที่ แซม อัลลาไดซ์ ผู้จัดการทีมเวสต์แฮม กล่าวว่า
"เขาไม่ได้ประเมินเราต่ำ เขาเล่นด้วยรูปเกมของเขา เหมือนที่เขาถล่ม ทอตแนม ฮอตสเปอร์ อาร์เซนอล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาก่อนหน้านี้ เรารู้ว่าคืนนี้เราต้องทำให้ดีกว่านี้ แต่เราทำไม่ได้ แต่โลกไม่ได้ล่มสลาย เรายังมีอีกเกมเราต้องทำให้ดีที่สุด ถ้าคุณเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เมื่อคุณตกหลุมคุณต้องออกไปให้ได้ ไม่ใช่รอดินกลบหน้าตัวเอง"
สำหรับเกมดังกล่าว แมนฯ ซิตี ได้ 6 ประตูจาก "แฮตทริก" 3 ประตูของ อัลบาโร เนเกรโด นาที 12, 26 กับ 49, โคโล ตูเร นาที 40
และเอดิน เซโก คนเดียว 2 ประตู นาที 60 กับ 89 ส่วนเกมนัด 2 เวสต์แฮม จะกลับไปเล่นในถิ่นอัพตัน ปาร์ค ย่านลอนดอนตะวันออกของตัวเอง กลางดึกวันอังคารที่ 21 มกราคมนี้ ซึ่งโอกาสแซงกลับมาเข้ารอบชิงชนะเลิศยังมีในทางทฤษฎี แต่ยากในทางปฏิบัติเมื่อต้องชนะ 6-0 เป็นอย่างน้อยเพื่อต่อเวลาพิเศษ หรือ 7-0 ขึ้นไปเพื่อชนะด้วยผลประตูรวมใน 90 นาที แต่หาก "เรือใบสีฟ้า" ยิงได้ 1 ประตู "ขุนค้อน" ต้องชนะด้วยสกอร์เท่าใดก็ได้ที่มีจำนวนห่าง 7 ประตูขึ้นไป อาทิ 8-1, 9-2 เป็นต้น
ขณะที่ เอดิน เซโก กองหน้าวัย 27 ปี มีลุ้นได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุดลีกคัพ ฤดูกาลแข่งขัน 2013-2014 มากที่สุด เมื่อยิงไปแล้ว 6 ประตู โดยมีคู่แข่งที่น่ากลัวคือ อัลบาโร เนเกรโด ดาวยิงร่วมทีมที่ยิงไปแล้ว 4 ประตู เนื่องจากผู้ทำประตู 3 อันดับแรกคนอื่นๆ ล้วนตกรอบไปหมดแล้ว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
