ผีรอชูถ้วย!ไก่โดนก่อนรัวจิกท้ายเกมพลิกเรือคว่ำกระจาย 3-1

ผีรอชูถ้วย!ไก่โดนก่อนรัวจิกท้ายเกมพลิกเรือคว่ำกระจาย 3-1 

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์โชว์สุดยอดคัมแบ็คโดนแมนเชสเตอร์ ซิตี้นำก่อนตั้งแต่ 5 นาทีแรก สุดท้ายมาได้ 3 ประตูรวดช่วงท้ายจากเด็มป์ซี่ย์, เดโฟและเบล ปาดหน้าชนะไป 3-1 มีเพิ่มเป็น 61 คะแนนยังอยู่ที่ 4 และการแย่งแชมป์จะจบลงทันทีเพียงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ 3 คะแนนเหนือแอสตัน วิลล่าในวันจันทร์นี้ 

พรีเมียร์ ลีก 

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2556
 

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 3 - 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน 

ประตู :
0-1 นาสรี่ น.5, 1-1 เด็มป์ซี่ย์ น.75, 2-1 เดโฟ น.79, 3-1 เบล น.81 
 
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก สเปอร์ส 3-1 แมนซิตี้
 

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์คึกคักกันน่าดู เพราะเบลมาตามนัดหายเจ็บข้อเท้ากลับมามีชื่อเป็นตัวจริงให้กับทีมอีกครั้ง เสริมอาวุธหนักขู่ทีมเยือนได้ดีโดยแท้ 

"ไก่เดือยทอง" ให้อเดบายอร์ลงยืนค้ำในแดนหน้า แม้ว่าเกมนี้จะได้เบลกลัลมา แต่เลนน่อนเร่งความฟิตไม่ทัน ส่วนเดโฟก็นั่งอยู่ที่ข้างสนามรอโอกาสไปก่อน 

ฝั่งแมนฯซิตี้ให้เตเบซลงยืนหน้าคู่กับเชโก้ พร้อมลุยได้หมดไม่ว่าจะมาทางพื้นหรือทางอากาศ แถมเทคนิคก็ไม่ทิ้งกันเท่าไหร่ด้วย 

เกมนี้มีความสำคัญสำหรับทั้งสองทีมเป็นอย่างมาก เริ่มจากสเปอร์สที่ต้องการการันตีพื้นที่การไปเล่นแชมป์เปี้ยนส์ ลีกในซีซั่นหน้าให้ได้ ส่วนแมนฯซิตี้เองก็หวังจะลดช่องว่างให้เหลือ 10 คะแนนในการตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อสานโอกาสที่จะลุ้นแชมป์แม้จะน้อยนิดก็ตาม 

ครึ่งแรก 

เตฟสุดตีน!ลาก+จ่ายสุดท้ายนาสรี่แปเฮ 
เล่นแค่ 5 นาที ทำเอาเงียบกันทั้งสนามเลยสำหรับจังหวะนี้ของเตเบซที่ลากบอลจี้ใส่แฟร์ทองเก้น ก่อนที่จะล็อกหลอกไปมาไม่ยอมเสียบอลง่ายๆ ที่มุมธง แล้วไหลเข้ากลางตัดหลังผู้เล่นเจ้าบ้านง่ายดาย มิลเนอร์เข้าเอาบอลก่อนที่จะตวัดเปิดย้อนหลังไปให้กับนาสรี่ที่รอเสาสองตั้งเท้าแปจังหวะแรกทันทีไม่ต้องจับ บอลพุ่งเข้าไปเสียบเสาแรกคมจริงอะไรจริง เพราะถ้าไม่เข้าตรงนั้นมีตัวยืนบนเส้นสกัดได้แน่ แมนฯซิตี้นำอย่างว่อง 1-0 

อันตราย!นาสรี่วางวอล์คเกอร์หวาดเสียว 
นาทีที่ 8 อาจจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ดูจากภาพช้าแล้วถึงหักได้เลยสำหรับจังหวะนี้ที่นาสรี่ไปเข้าบอลช้าใส่วอล์คเกอร์ที่หวดบอลออกไปแล้ว ก่อนจะโดนสตั๊ดของแข้งเลือดเฟร้นช์เฉือนเอาที่หน้าแข้งเต็มๆจนต้องลงไปนอนให้ทีมแพทย์มาปฐมพยาบาล แต่สุดท้ายก็กลับมาเล่นต่อได้ 

ปล่อยยาวไปหน่อย!วอล์คเกอร์เติมยิงติดบล็อก 
นาทีที่ 21 มีโอกาสได้ลุ้นประตูเอาคืนแบบจังๆบ้างสำหรับสเปอร์ส เด็มป์ซี่ย์พลิกบอลนอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะแทงทะลุช่องไปให้กับวอล์คเกอร์ที่เติมขึ้นมาได้สวย จับบอลดีแล้ว แต่เหมือนจะมองหาเพื่อนก่อน จังหวะเลยไหลเกินไปอีก ทำให้ตอนตัดสินใจยิง ฮาร์ทก็พุ่งมาอยู่ตรงหน้า บล็อกเอาไว้ได้เต็มๆเลย 

เกือบได้เบิ้ล!นาสรี่จิ้มหลุดเสานิดเดียว 
นาทีที่ 28 เกมรุกของแมนฯซิตี้ต่อบอลกันเนียนตาได้ใจสุดๆ เตเบซแตะชิ่งให้นาสรี่วิ่งไปเอาบบอล ก่อนจะเกี่ยวหลอกกองหลังที่พยายามเข้ามากัน แล้วจิ้มสวนตัวของญอริส เสียดายอย่างเดียวบอลมันพุ่งเบี้ยวหลุดเสาไกลออกไป 

ไก่มีร้องจะเอาจุดโทษ 
จะว่าไปก็ดูยากพอสมควรเลยกับจังหวะนี้ที่ดอว์สันเติมขึ้นไปเล่นลูกโหม่งในเขตโทษของแมนฯซิตี้ โหดยัดเข้าไปกลาง แบร์รี่พยายามสกัดบอลแต่กลายเป็นมันลอยปั่นสูงขึ้นมาโดนมือของเขา ถึงอย่างนั้นผู้ตัดสินก็ไม่ได้ว่าอะไร 

ไก่พยายามฮึดต่อ 
แม้ว่ามาตรฐานของทีมจะดูอ่อนกว่าสักหน่อย แต่เล่นในบ้านทั้งทีสเปอร์สเองไม่มีท่าทีว่าจะยอมแน่นอนอยู่แล้ว พวกเขาพยายามที่จะปั้นเกมเพื่อเอาประตูคืนให้ได้ แต่แมนฯซิตี้ก็ยืนกันได้ดี แถมเกมสวนกลับก็อันตรายสุดๆอยู่แล้วด้วย 

นั่งยองเครียดไก่จิกไม่เข้า 
เดินทางมาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก โบอาสนั่งเครียดอยู่ข้างสนามเลย เพราะแม้ว่าลูกทีมของเขาจะได้ครองบอลมากกว่าในช่วงที่ผ่านมา แต่กลับไม่สามารถเข้าไปกดดันในพื้นที่สุดท้ายของแมนฯซิตี้ได้อย่างจริงจัง อาจจะแค่หวาดเสียวแต่บอกเลย่วายังไม่เกินมือของบรรดาแนวรับ 'เรือใบ' 

น่าจะดีกว่านี้!เด็มป์ซี่ย์ขึ้นโขกหลุดคาน 
ก่อนหมดเวลา 2 นาที ขึ้นคนเดียวแบบนี้ต่ำๆก็น่าจะต้องตรงกรอบสำหรับเด็มป์ซี่ย์ที่สลัดตัวประกบ ขยับเทคโขกลูกปั่นของซิเกิร์ดสสันจากการเตะมุมมาเสาแรก แต่เหมือนงัดใต้บอลเกิน เลยหลุดคานออกไปไกลพอสมควร 

ก่อนหมดเวลาสเปอร์สเกือบจะได้ประตูตีเสมอคืนอยู่แล้ว จากจังหวะที่วอล์คเกอร์ลากบอลขึ้นไปครอสสุดเส้น อเดบายอร์พุ่งเข้าไปเสาแรกตอกส้นกลับให้ซิเกิร์ดสสันที่เติมมาตรงกลางยิงทันที แต่มีซาบาเลต้าเข้ามาบล็อกเอาไว้ซะก่อน 

จบ 45 นาทีแรก เลยยังเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่นำอยู่ 1-0 แต่เกมเป็นของสเปอร์สซะส่วนมาก ก็ต้องดูว่าช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้านจะตามตีเสมอได้หรือไม่ 

ครึ่งหลัง 

เรือรุกอันตรายทุกดอก 
เกมรุกของแมนฯซิตี้ยังดูเฉียบขาดและดุดันมากกว่าทางเจ้าบ้านพอสมควร แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นได้จบสกอร์ แต่การผ่านบอลสุดท้ายนี่คือถ้าผ่านได้แล้วก็ใส่พานทองรอยิงเท่านั้น 

ไก่ถอดปาร์คเกอร์ให้ฮัดโด้ลง 
นาทีที่ 61 เหมือนจะน่วมๆหรือยังไงไม่รู้ แต่สเปอร์สก็เปลี่ยนเอาปาร์คเกอร์ที่เพิ่งโดนอัดหนักออกไปจากสนาม แล้วส่งฮัดเดิ้ลสตันลงไปเล่นแทน เกมรับอาจจะไม่สู้ แต่จังหวะวางบอลแม่นๆล่ะหวังได้ 

ทำเล่นไป!ยาย่าได้ยิงสวนติดเซฟ 
สกัดไม่ดีทางแมนฯซิตี้พร้อมลงโทษตลอดแน่นอนอยู่แล้วสำหรับสเปอร์สที่กองหลังพยายามจะหวดบอลให้พ้นหน้าประตู แต่มันไม่ไปไหน แถมยังเด้งเข้าทางตูเร่ที่วิ่งมาบวกตูมเดียว ยังดีที่ตรงตัวของญอริส ล้มรับเอาไว้ได้แน่นหนา 

ต้องจัดเพิ่ม!ไก่ส่งซาไกลง 
นาทีที่ 71 อันนี้ต้องจัดอย่างเดียวเท่านั้นหากหวังมีคะแนน สำหรับสเปอร์สที่ส่งตัวเดโฟลงสนาม แม้ว่าสภาพร่างกายจะไม่เต็มที่เท่าไหร่ แต่ความคมของเขาเฉียบอย่าบอกใครเลย 

เอาจนได้!เด็มป์ซี่ย์เข้าฮอสไม่มีเหลือ 
นาทีที่ 75 หลังจากพยายามอยู่นาน สุดท้ายแล้วสเปอร์สก็สมหวังเสียที เมื่อพวกเขามาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่เบลได้บอลทางด้านข้าง ก่อนที่จะเปิดเลียดแบบปั่นไซด์เข้าไปตรงกลาง กองหลังของแมนฯซิตี้เสียจังหวะเลยไม่ได้สกัด กลายเป็นบอลไหลถึงเด็มป์ซี่ย์ที่เข้าชาร์จไม่มีเหลือ เกมเสมอกัน 1-1 

ไก่คึกเหมือนจะเอาอีก 
ตอนนี้ได้ประตูตีเสมอแล้วกลายเป็นว่าสเปอร์สน่าจะมองถึง 3 คะแนนเลยทีเดียว เพราะพวกเขาเดินเกมใส่แมนฯซิตี้แบบไม่มีเกรง แม้ว่าจะโดนสวนบ้าง แต่ก็ยังพยายามกันเอาไว้ได้อยู่ เกมนี้อาจไม่หยุดแค่ที่เสมอก็ได้ 

บอกแล้วว่าเขาคม!ซาไกลงมาปั่นขนลุก 
นาทีที่ 79 เชื่อถือได้จริงๆสำหรับความคมของเขาคนนี้ เมื่อเดโฟจัดการกระชากพาบอลที่เพื่อนแทงทะลุช่องมาให้ได้ ก่อนที่จะล็อกบอลแตะเข้าในแล้วจัดการกดสูตรปั่นด้วยขวาตามถนัด บอลพุ่งติดจรวดโค้งหนีมือของฮาร์ทไปเสียบเสาสองสุดสวย "ไก่เดือยทอง" พลิกนำอลัง 2-1 

ไก่โคตรกรี๊ด!หน้าลิงแตะหลุดยิงทิ้งห่าง 
อีกเพียงแค่ 2 นาทีต่อมา เปลี่ยนเกมไปอย่างสิ้นเชิงเลยสำหรับสเปอร์สที่นอกจากจะได้ประตูพลิกขึ้นนำแล้ว พวกเขาก็มาได้ประตูนำห่างจากเบลที่วิ่งทะลุช่องเหมือนกับลูกที่เดโฟได้เปี๊ยบเพราะกองหลังยืนกันอย่างหลวม ก่อนจะหลุดเข้าไปยิงจิ้มแบบตักๆสวนตัวฮาร์ทเข้าประตูไป สเปอร์สนำ 3-1 ตอนนี้ 3 คะแนนอยู่ในมือแล้วแน่นอน 

ช่วงท้ายเกมแม้ว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้จะพยายามลุยแค่ไหนพวกเขาก็ไม่สามารถไล่เพื่อมีความหวังในการกลับมาได้ จบ 90 นาทีเป็นท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สที่พลิกกลับมาได้ในช่วงท้ายเกมเอาชนะไป 3-1 ทำให้พวกเขามีคะแนนเพิ่มเป็น 61 แต้ม แต่ยังอยุ่ที่ 4 เหมือนเดิม ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้นั้นความหวังของพวกเขาจะจบลงทันทีในการลุ้นแชมป์ หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะแอสตัน วิลล่าได้ในเกมวันจันทร์นี้ 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
 : ฮูโก้ ญอริส, แยน แฟร์ทองเก้น, ไมเคิ่ล ดอว์สัน , ไคล์ วอล์คเกอร์, เบนอต์ อัสซู เอก็อตโต้ , คลิ้นท์ เด็มป์ซี่ย์ , สก็อตต์ ปาร์คเกอร์(ฮัดเดิลสตัน  น.61), มุสซ่า เด็มเบเล่, กิลฟี่ ซิเกิร์ดสสัน(โฮลท์บี้ น.60), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์(เดโฟ  น.71), แกเร็ธ เบล 

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : แบรด ฟรีเดล, ไคล์ นอจ์ตัน, สตีเว่น คอลเกอร์, เจ็ค ลิเวอร์มอร์ 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท , แวนซองน์ กอมปานี, ปาโบล ซาบาเลต้า, กาแอล กลิชี่(เลสค็อตต์ น.90), มาติย่า นาสตาซิส, เจมส์ มิลเนอร์(โคลารอฟ น.45), ซาเมียร์ นาสรี่ , แกเร็ธ แบร์รี่, ยาย่า ตูเร่ , เอดิน เชโก้(ซินแคลร์ น.83), คาร์ลอส เตเบซ 

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : คอสเทล ปันติลิมง, โคโล่ ตูเร่, ฆาบี การ์เซีย, แซร์คิโอ อเกวโร่ 


 

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์