จ่อรองแชมป์! ยาย่าเบิ้ลพาเรือแล่นชนหงส์ขาวปีกหัก 2-4

จ่อรองแชมป์! ยาย่าเบิ้ลพาเรือแล่นชนหงส์ขาวปีกหัก 2-4

ห้องเครื่องทีมชาติไอวอรี่โคสต์คืนฟอร์มเก่งจัดการเหมาคนเดียวสองประตูพาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกอัด สวอนซี ซิตี้ สบายเกือก พร้อมเก็บชัยชนะในลีกเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกัน

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดรองสุดท้าย ณ สนามลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม ระหว่าง สวอนซี ซิตี้ ก่อนเกมรั้งอันดับ 8 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูง โดยสถิติที่ผ่านมา 5 นัดหลังสุดที่ทั้งคู่พบกันปรากฏว่า เรือใบสีฟ้า ยังไม่เคยแพ้ หงส์ขาว เลยทั้ง 5 นัด แบ่งเป็นชนะถึง 4 นัดและเสมออีก 1 นัดด้วยกัน

แกรี มังค์ เทรนเนอร์เจ้าถิ่น ที่เพิ่งพาทีมหักปากกาเซียนบุกเอาชนะ อาร์เซนอล ได้ทั้งเหย้าและเยือนมาในนัดก่อน เลือกปรับทัพ 2 ตำแหน่ง โดยหมดสิทธิ์ใช้งาน คี ซุง ยอง กับ อังเกล รังเกล สองกำลังหลักที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บทั้งคู่ ทำให้ต้องส่ง แอชลีย์ ริชาร์ดส์ และ บาเฟติมบี้ โกมิส ฮีโร่ผู้ซัดประตูชัยดับฝันปืนใหญ่ลงเล่นแทน

ด้านทีมเยือนของกุนซือ มานูเอล เปเยกรินี ต้องการสามคะแนนเต็มเพื่อคว้าตำแหน่งรองแชมป์ โดยขนขุมกำลังมาเต็มสูบ ในระบบ 4-2-3-1 วาง เซร์คิโอ อเกวโร เป็นหน้าเป้าไล่ล่าตาข่ายเช่นเคย โดยมี เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา และ แฟรงก์ แลมพาร์ด คอยเติมเกมสนับสนุนอยู่ด้านหลัง และกลับมาใช้ ยาย่า ตูเร่ คุมเกมแดนกลางร่วมกับ เฟอร์นานนินโญ อีกครั้ง

เริ่มเกมมาไม่ถึง 3 นาที เจ้าถิ่นได้โอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ บาเฟติมบี้ โกมิส โชว์สเต็ปเท้าดึงหลอกแนวรับซิตี้บริเวณนอกกรอบเขตโทษ ก่อนหาช่องกดเลียดด้วยซ้ายจากระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งตรงตัว โจ ฮาร์ท ล้มรับเข้าซองไว้ได้แบบสบายมือ

ถัดมานาทีที่ 16 เจ้าถิ่นมีลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ เอเลียเควียม ม็องกาลา แนวรับซิตี้จ่ายบอลพลาดจนถูก นาธาน ดายเออร์ กระชากหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนบรรปั่นโค้งด้วยซ้ายเล่นทางไปเสาไกล ทว่า โจ ฮาร์ท ยังปฏิกิริยาไวพุ่งปัดบอลสุดปลายมือออกไปได้อย่างหวุดหวิด

แต่แล้วถัดมาเพียง 4 นาที กลายเป็นทีมเยือนที่มาได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา เลี้ยงจากฝั่งขวาตัดเข้ากลาง ก่อนจ่ายให้ ยาย่า ตูเร่ แตะเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนตะบันเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดจน ลูคัส ฟาเบียนสกี้ นายด่านเจ้าถิ่นรับซองแตก ส่งบอลปลิ้นเข้าประตูไป ช่วยให้แชมป์เก่าขึ้นนำ 1-0 พร้อมกับเป็นประตูที่ 50 ในลีกของตูเร่ด้วย นับตั้งแต่ย้ายมาจาก บาร์เซโลนา เมื่อปี 2010

Goal!!!!!!!!!! นาทีที่ 36 ทีมเยือนจัดการขยับสกอร์หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ แฟรงก์ แลมพาร์ด หวดบอลยาวจากแดนตัวเองขึ้นมาให้ เซร์คิโอ อเกวโร ดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจ่ายตัดหลังแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เจมส์ มิลเนอร์ โชว์สเต็ปดึงหลอก นีล เทย์เลอร์ จนเสียหลัก ก่อนแปด้วยขวาเสียบเสาเข้าไปอย่างสุดสวย

จากนั้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯซิตี้เกือบมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ปาดเลียดจากในเขตโทษฝั่งขวาเข้ากลางบอลแฉลบขาแนวรับเจ้าถิ่นตกใส่หัว แอชลีย์ วิลเลียมส์ โหม่งสกัดออกมาไม่ดีเข้าทาง เซร์คิโอ อเกวโร โขกสวนข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนจบ 45 นาทีแรก ยังเป็นแมนฯซิตี้ที่รักษาสกอร์นำอยู่ที่ 2-1

กลับมาเล่นในครึ่งหลัง มานูเอล เปเยกรินี ชิงเปลี่ยนตัวก่อน โดยถอดเอา แฟรงก์ แลมพาร์ ออกไปพักที่ข้างสนามและส่ง เฆซุส นาบาส ปีกจอมพริ้วชาวสแปนิชลงมาเล่นแทน ในนาทีที่ 59

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกถล่ม สวอนซี ซิตี้ ขาดลอย 4-2 เก็บเพิ่มเป็น 76 คะแนนจาก 37 นัด นำ อาร์เซนอล อันดับสามห่างถึง 6 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 2 นัดด้วยกัน ด้านสวอนซีฯ หมดลุ้นตั๋วยูโรป้าลีกเป็นที่แน่นอนแล้ว หลังตามหลัง ลิเวอร์พูล ที่รั้งอันดับ 5 อยู่ถึง 6 คะแนน ในขณะที่เหลือโปรแกรมการแข่งขันอีกเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น


ขอบคุณข่าวสารดีๆจาก :: goal/th

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์