แทบหลับ.. หงส์บุกเจ้า ไร้สกอร์


หาว หาว หาว...ไร้เงาลูกกรอกหงส์หนาวเหน็บเจ๊าหลับ 0-0


หงส์แดงลิเวอร์พูลชุดขาดตัวหลักทำเอาเดอะค็อปบ่นอุบหลังเล่นท่ามกลางอากาศหนาวจัดด้วยฟอร์มติดลบก่อนยันเสมอสปาร์ตัก ปรากที่วูบวาบกว่า 0-0 แถมไม่มีชื่อราฮีม สเตอร์ลิ่งปีกลูกกรอบวัย 16 ที่แฟนรอคอยในศึกยูโรป้า ลีกรอบ 32 ทีมสุดท้ายเลกแรก

ยูโรป้า ลีก

วันพฤหัสที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554


สปาร์ตัก ปราก 0-0 ลิเวอร์พูล

ประตู : ไม่มี


เดอะค็อปอดนอนเพื่อดูราฮีม สเตอร์ลิ่งเด็กลูกกรอกวัย 16 ปีแต่ต้องเศร้าเพราะไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรองสงสัยเคนนี่ ดัลกลิชตั้งใจให้มาซ้อมกับพี่ๆชุดใหญ่เพื่อให้เกิดความกระหายในการทำผลงานเจ๋งๆก่อนโผล่มาถาวร

อย่างไรก็ตามวันนี้พี่เคนใช้ระบบ 3-5-2 อีกครั้งโดยให้โอกาสดาวรุ่งอย่างแดนนี่ วิลสันร่วมเล่นกับเจมี่ คาร์ราเกอร์และโซติริออส คีย์เกียกอสส่วนแนวรุกอาจเหนื่อยนิดนึงเพราะขาดตัวหลักเพียบมีเดิร์ก เคาท์กับเดวิด เอ็นก็อกและราอูล เมเรลสช่วยกันผลิตสกอร์

ครึ่งแรก

เจ้าถิ่นลุยก่อน
วันนี้อากาศเย็นจัดนักเตะหายใจควันขโมงเลยทีเดียวโดยช่วงต้นเกมสปาร์ตัก ปรากที่ชินกับสภาพแวดล้อมและได้เสียงเชียร์จากแฟนบอลลุยเข้าใส่โดนใช้ชั้นเชิงบอลและความสามารถเฉพาะตัวเข้านวดแต่แนวรับทีมเยือนยังช่วยกันได้ดีอยู่

ปรากเกือบเฮ
เกมผ่านมา 15 นาทีแทบไม่มีจังหวะเสียวใดๆแต่อีก 2 นาทีต่อมาลิเวอร์พูลเกือบโดนอีกหลัง GJ คุมพามิคแบ็คซ้ายที่วิ่งส่ายหาช่องไม่อยู่เจอแทงทะลุตัดหลังก่อนหลุดกระชากไปเปิดบอลจากเส้นหลังร้อนถึงเรน่าต้องบินต่ำปัดสองมือให้พ้นเขตอันตราย

หงส์รับอุตลุด
เกมรุกของลิเวอร์พูลเก็บบอลไม่ได้ทำให้ปรากได้สวนกลับมาบ่อยมากแถมครึ่งชั่วโมงแรกเกือบโดนอีกหลังเคาท์ไปช่วยเกมรับตรงเส้นหลังแต่พาบอลไปเข้าทางมาเตยอฟสกี้ที่ฉกก่อนดีดบอลเข้าในแต่เรน่าล้มตัวรับเอาไว้ที่เสาแรกได้ทัน

เรน่าเกือบเหวอ
พอลิเวอร์พูลได้บอลก็ไม่รู้จะจ่ายยังไงเพราะเจ้าถิ่นลงไปรับในแดนตัวเองแล้วตามประกบตัวที่รอบอลจนขึ้นเกมไมได้และเมื่อถูกบีบให้จ่ายก็เจอแย่งสวนกลับโดยนาที 35 ลูกเปิดจากปีกขวาโด่งย้อยไปเสาสองเรน่ากระโดดรับหลุดมาเข้าทางพามิคแบ็คซ้ายที่วันนี้ไม่ต้องห่วงหลังเพราะทีมเยือนไม่มีปีกเร็วๆแต่ลูกยิงข้ามคานออกไปเอง

กอสบล็อกสำคัญ
อีกนาทีเศษๆหงส์แดงรอดตายอีกหลังมาเตยอฟสกี้ได้ลูกตั้งยิงเหน่งๆในเขตระยะ 17 หลาแต่คีย์เกียล้มตัวบล็อกไม่งั้นอาจหายไปในตาข่าย

โคลหล่อแทนออเรลิโอ
นาที 38 พี่เคนตัดสินใจเปลี่ยนเอาโจ โคลลงมาแทนฟาบิโอ ออเรลิโอไม่แน่ใจว่าเจ็บหรือเห็นเกมรุกเน่าสนิทแต่สัมผัสบอลแรกอดีตแข้งเชลซีเลี้ยงแบบลูกโลกคือหมุนรอบตัวเองด้วยเท้าข้างเดียวตรงริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาแต่พอฝากบอลให้เคาท์ก็เสียทันที เน่าจริงๆ

เคาท์แชมป์ว่าว
ก่อนหมดเวลานาทีเดียวโอกาสจังๆหนแรกของลิเวอร์พูลมาจากลูกเตะมุมเป็นเอ็นก็อกโขกแล้วบอลไปเข้าทางเคาท์ที่ล้มยิงเหน่งๆ 5 หลาแต่ด้วยความลนลานเลยจั่วลมบอลหลุดข้างเสาสุดช็อก หมดครึ่งแรกปรากเล่นดีกว่าชัดเจนมีโอกาส 7 หนไม่เข้าเลยส่วนหงส์แดงได้ยิง 2 หนไม่เข้ากรอบเลย

ครึ่งหลัง

หงส์ดีขึ้น(นิดนึง)
ไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวจากทั้งสองทีมและดูเหมือนลิเวอร์พูลจะผ่านบอลและเคลื่อนที่กันเร็วขึ้นสงสัยพี่เคนใช้ที่เปาผมขนาดมินิ

ลิงหลับ
คือว่าไม่ได้ขี้เกียจบรรยายเกมแต่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ลุกไปดูลูกนอนในเปลยังได้ลุ้นกว่าอีกว่าจะตื่นหรือยัง

GJ เปิดเสียวสองหน
ช่วงนาที 58 ลิเวอร์พูลพาบอลมาป้วนเปี้ยนในเขตโทษของปรากได้เยอะขึ้นและสองจังหวะซ้อนเป็นการเปิดบอลของ GJ แต่ล้นเลยเอ็นก็อกหมด อันนี้น่าเห็นใจเพราะในเขตโทษมีตัวให้เลือกน้อยมาก

ปรากสวนคืนได้ลุ้น
นาที 62 เจ้าถิ่นกลับมาลุ้นได้ประตูอีกครั้งหลังห่างหายไปพักนึงจากจังหวะที่วาเซ็คแข้งหน้าหล่อเปิดบอลจากริมกรอบโทษให้คาเวเก้หอกผิวหมึกโขกสะบัดแต่สงสัยใช้จานเถื่อนเรดาร์มั่วเลยถากหลุดกรอบออกไป

GJ ช็อกกระชากยิงสุดสวย
อีก 7 นาทีต่อมาโอกาสที่ดีที่สุดของทั้งลิเวอร์พูลและเกมนี้เกิดขึ้นจากจังหวะที่ลูคัสปั่นไซด์ก้อยจากกลางสนามโด่งย้อยให้ GJ วิ่งควบไปด้านริมกรอบเขตโทษแล้วทำท่าจะง้างเล่นด้วยขวาแล้วล็อกลากตัดเข้าในก่อนจิ้มยิงหัวเกือกบอลปลิ้นทะลุเคาท์ที่ยืนขวางบอลเฉี่ยวเสาน่าเข้าอย่างที่สุด

เกมหยุดควันเต็มสนาม
เกมหยุดไปพักนึงหลังแฟนบอลจุดพลุตวันขโมงมองไม่เห็นบอลเป็นไฮท์ไลท์ที่น่าตื่นเต้นเอามากๆเลยล่ะครับท่านผู้ฟัง

หงส์เสียวเกือบโดร
ควันจางกลับมาเล่นใหม่นาที 75 ปรากเกือบนำหลังจังหวะเตะมุมเคเวเก้หอกผิวหมึกคนเดิมหันหลังพลิกบอลเอาชนะคีย์เกียกอสในเขตโทษก่อนล้มตัวยิงแต่เรน่พุ่งล้มดักทางรับติดหนึบ

ปรากยิงไกลสองทีน่าเข้า
ต่าวเวลาต่างวาระเมื่อปรากน่าจะขึ้นนำลิเวอร์พูลจากการยิงไกลสองหนในนาที 80 และ 86 จากมาเตยอฟสกี้ที่ยิงไซด์ก้อยเต็มๆหลังแนวรับลิเวอร์พูลสกัดไม่ดีบอลปลิ้นเฉี่ยวสามเหลี่ยมนิดเดียวจากนั้นวาเซ็คตั้งป้อมยิงบอลทะลุเฉี่ยวเสาเรน่าพุ่งสุดตัวเสียวทั้งสนาม

หมดเวลาลิเวอร์พูลบุกมายันเสมอปรากถึงถิ่น 0-0 ก่อนไปลุ้นดวลกันอีกหนที่แอนฟิลด์สัปดาห์หน้าแต่ค่อนข้างเสียเปรียบเพราะไม่ได้อเวย์โกล์กลับมาและหากโดนยิงในบ้านก็เท่ากับ x2 หรือต้องยิง 2 ถึงเข้ารอบอีกด้วย


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

สปาร์ตัก ปราก :
ยาโรเมียร์ บลาเซ็ค,โทมัส เร็ปก้า,เอริค บราเบ็ค,มาร์ติน อาเบน่า,คามิล วาเซ็ค,มาเร็ค มาเตยอฟสกี้,มานูเอล พามิค,อออนเดรจ คูสเนียร์,เลโอนาร์ด เคเวเก้,วาคลาฟ คาดเล็ค,อันเดร เคริค

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เกล็น จอห์นสันเจมี่ คาร์ราเกอร์,โซติริออส คีย์เกียกอส,แดนนี่ วิลสัน,ลูคัส เลว่า,ฟาบิโอ ออเรลิโอ(โจ โคล น. 38),ราอูล เมเรเลส,มักซี่ โรดริเกซ,เดิร์ก เคาท์,ดาวิด เอ็นก็อก(สเคอร์เทล น.82)

สนับสนุนข่าวโดย www.lentee.com เล่นที่ดอทคอม ประกาศซื้อขายที่ฟรี พบที่ดินแปลงสวย ตลอด 24 ชม.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์