เจิดหวังทุ่มซิวพรีเมียร์กับหงส์ให้จงได้




 

                            สตีเว่น เจอร์ราร์ด  มิดฟิลด์กัปตันทีม ลิเวอร์พูล  ยอมรับคงไม่มีวันรู้สึกว่าชีวิตค้าแข้งของตัวเองได้รับการเติมเต็ม หากไม่ได้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก กับ หงส์แดง หวังทำผลงานในช่วง 4-5 ปีข้างหน้าให้เต็มที่ เพื่อชูถ้วยแชมป์ลีกสมใจอยากให้จงได้

                            สตีเว่น 
เจอร์ราร์ด  ห้องเครื่องทีมชาติอังกฤษ ของ ลิเวอร์พูล  ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาแสดงความกังวลใจว่า ตนเหลือเวลาไม่มากแล้วที่จะคว้าแชมป์ลีก กับทีมรักในถิ่น แอนฟิลด์ หลังจากอายุอานามใกล้ขึ้นหลัก 30 เข้าไปทุกที จนหวั่นว่าชีวิตนักฟุตบอลของตัวเองจะไม่มีวันถูกเติมเต็ม

                            ยิ่งไปกว่านั้น ผลงานย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ จากการที่ตอนนี้ทีมรั้งอันดับ 7 และมีแต้มตามหลัง เชลซี จ่าฝูง มากถึง 12 แต้ม ยังทำให้ สตีวี่จี ทำใจยอมรับได้ยากมากขึ้นอีก เนื่องจากรู้ตัวดีว่าเวลาบนเส้นทางลูกหนังของเขาเหลือไม่มากแล้ว

                            
เจอร์ราร์ด  ในวัย 29 ปี คร่ำครวญว่า การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก จะหมายถึงทุกอย่าง มันน่าหงุดหงิดที่ไม่ได้แชมป์ไปแล้ว ผมมาได้ใกล้เคียงครั้งสองครั้ง และอันดับที่เราอยู่ในลีกตอนนี้ก็น่าหัวเสีย เพราะเดิมทีนี่ควรจะเป็นปีที่เราลุ้นแชมป์ไปจนถึงที่สุด ผมยังมีความทะเยอทะยาน และความฝันอีกหลายอย่างที่ผมอยากทำให้ได้ ก่อนจะเลิกเล่น

                            ผมเล่นมา 11 ปี และผมก็ใกล้จะอายุ 30 แล้ว เพราะฉะนั้นผมก็เหลือเวลาไม่มากแล้ว ผมจะใช้ประโยชน์ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้าให้ดีที่สุด สำหรับเรามันสำคัญที่ต้องพยายามไต่อันดับขึ้นไปอยู่หัวตาราง ผมจะต่อสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกตั้งแต่ตอนนี้ไปจนกว่าผมจะเลิกเล่น

                            หวังว่าผมจะได้เพิ่มแชมป์ใบนี้ไว้ในคอลเลคชั่น เพราะมันจะปิดฉากเส้นทางอาชีพอันยอดเยี่ยม และมันคงยิ่งพิเศษมากขึ้นอีก หากผมทำได้สำเร็จในฐานะกัปตันทีมชาติในช่วงปีสองปีข้างหน้า ผมไม่รู้ว่าผมจะได้เป็นกัปตันทีมไปอีกนานเท่าไร บางทีอาจจะอีก 2-3 ปี และ ถ้าผมไม่ได้แชมป์ในฐานะกัปตันทีม ก็หวังว่าผมจะได้ชูถ้วยในฐานะ
นักเตะ ลิเวอร์พูล

                            ดาวเตะทัพ สิงโตคำราม ได้ลงเล่นนัดที่ 500 ให้ หงส์แดงไปในเกมบุกเสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แบบไร้สกอร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยแม้เขาจะเคยนำ 
ลิเวอร์พูล  คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ มาแล้ว แต่แชมป์ลีกครั้งแรกของทีมดังจากแถบเมอร์ซี่ย์ไซด์นับตั้งแต่ปี 1990 ก็ยังดูห่างไกลเหมือนเดิม

                            ในฐานะกัปตันทีมช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุด ต้องเป็นช่วงที่ผมได้ชูถ้วยแชมป์ ไม่ว่าจะเป็น เอฟเอ คัพ และ แน่นอนว่าต้องเป็น ยูโรเปี้ยน คัพ ถ้าผมต้องเลือกช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุด มันก็คงเป็นการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในการพบ เอซี มิลาน เมื่อปี 2005

                            พอผมมองย้อนกลับไปถึงคืนนั้นในอิสตันบูล ผมถึงกับขนลุก และยังรู้สึกชาไปทั่วทั้งตัว แต่ผมอยากทำแบบนั้นอีกครั้ง ประสบการณ์ในคืนนั้น อารมณ์ความรู้สึกที่เราทุกคนพบเจอ และเห็นทุกคนยิ้มในตอนท้าย ทำให้มันอธิบายได้ยากแม้กระทั่งตอนนี้ มันพิเศษเหลือเกิน และผมจะไม่เลิกเชื่อว่าเราสามารถทำได้อีกครั้ง

                            มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยากเวลาที่คุณใส่เสื้อสีแดงตัวนั้น โดยเฉพาะยิ่งเป็นเด็กท้องถิ่น และเป็นแฟนบอล 
ลิเวอร์พูล  ด้วยแล้ว ทุกครั้งที่ผมขึ้นไปบนรถบัส หลังจากที่ได้ชัยชนะ ผมรู้สึกมีความสุขมากมายเหลือเกิน เจอร์ราร์ด  เปิดเผยความรู้สึกปิดท้าย 

ข่าวจาก Siamsport 
http://www.siamsport.co.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์