อีกสัปดาห์เดียวปี 2009 ก็จะผ่านพ้น ทว่าฟุตบอลอังกฤษเพิ่งจะมาถึงแค่ครึ่งทางเท่านั้น แต่อย่างที่รู้กัน ลิเวอร์พูล หมดลุ้นกับตำแหน่งแชมป์ไปนานแล้ว แถมยังต้องกระเสือกกระสนเข้าป้ายเป็นอันดับ 4 ให้ได้อีกด้วย
ในความตกต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในช่วงหลังนี้ดูเหมือนแฟนหงส์จะพุ่งเป้าไปที่ ราฟาเอล เบนิเตซ ซะเป็นส่วนใหญ่ แม้ผู้เล่นหลักหลายคนจะออกมาเรียกร้องให้ทุกคนรับผิดชอบร่วมกันก็ตาม
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการจัดทีมที่ค้านกับความรู้สึกของแฟนๆ ในหลายหนโดยเฉพาะกับการส่ง ลูคัส เลวาที่หลายคนมองว่าเป็นจุดอ่อนของทีมลงเล่นในตำแหน่งของ ชาบี อลอนโซ่ ที่ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด แถม อัลแบร์โต้ อควิลานี่ ที่ทุ่มซื้อมาจาก โรม่า ทั้งที่ยังเจ็บก็ไม่ได้โอกาสลงเล่นหลังเรียกความฟิตกลับมาได้แล้ว
ดังนั้นการออกมาประกาศเรียกความเชื่อมั่นว่านับจากเกมบ็อกซิ่ง เดย์ ที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส จะเป็นการเริ่มเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่องของทีมอีกครั้งเพื่อบรรลุเป้าหมายจบด้วยการติดเป็น 1 ใน 4 ของตารางอันดับดูจะไม่รับความสนใจเท่าไหร่
น่าจะเป็นเพราะเหล่าแฟนหงส์เชื่อว่าน่าบทสรุปของฤดูกาลนี้อาจจะเลวร้ายกว่าที่คาดไว้เยอะ ทั้งที่ตั้งความหวังไว้สูงมากเมื่อตอนก่อนออกสตาร์ทฤดูกาล 2009-10 นี้
ก่อนเกมรับมือทีมหมาป่าวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม นี้ ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้แค่ 4 จากการลงเล่น 17 นัดหลังสุด โดยสัปดาห์ก่อนก็เพิ่งออกไปเสียท่าแพ้ พอร์ทสมัธ ที่เป็นทีมบ๊วยท้ายตาราง 0-2
นอกจากจะเล่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส โดยจะไม่มี ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ที่โดนพักกาาแข่งขัน 4 นัดแล้ว ลิเวอร์พูล ยังมีเกมหนักกับ แอสตัน วิลล่า และ สเปอร์ส อีก 2 คู่แข่งที่กำลังขับเคี่ยวแย่งโควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รออยู่อีกด้วย
ทำให้เหล่าเดอะ ค็อป อดวิตกไม่ได้ว่าจำนวนนัดที่แพ้ใน พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้จะขยับไปถึงเลข 2 หลักในเร็ววันนี้ ที่สำคัญพิจารณาจากฟอร์มหลังแล้งยังมองไม่ออกว่าสิ่งที่ ราฟา ออกมาแสดงความเชื่อมั่นจะเกิดขึ้นได้ยังไง
อาจจะมีประเด็นหวือหวาคือการพร้อมส่ง อัลแบร์โต้ อควิลานี่ ลงเป็นตัวจริงในเกมลีกหนแรก แต่ก็ไม่ได้เป็นการลงเล่นร่วมกับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ อย่างที่แฟนบอลอยากเห็น
ที่สำคัญฟอร์มของกัปตันทีมคนเก่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็ตกลงไปอย่างน่าใจหาย และดูเหมือนว่าเริ่มจะมีการพูดถึงเรื่องนี้กันมากแล้ว
ล่าสุด ราฟาเอล เบนิเตซ ได้เรียกลูกทีมคนสำคัญรวมไปถึง เฟร์นานโด ตอร์เรส เข้ามาพูดคุยพร้อมกับปลุกใจให้ทั้งคู่เร่งทำผลงานให้ดี ซึ่งในรายหลังไม่น่าจะมีปัญหาเพราะยังอยู่ในระดับมาตรฐานที่ควรจะเป็น
ทว่ากับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงที่ยากลำบากของเจ้าตัวจริงๆ ซึ่งสาเหตุหลักก็น่าจะมาจากสภาพร่างกายที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย และความกดดันที่แบกรับอยู่จนหลุดฟอร์มอย่างน่าใจหาย
การเร่งคืนสนามและลงเล่นต่อเนื่องกันมาใน 9 นัดหลังทำให้ เจอร์ราร์ด ดูอ่อนล้าและเร่งไม่ขึ้น ซึ่งเจ้าตัวก็รู้จนออกอาการอึดอัดแล้วเหมือนกัน
ทั้งนี้ไม่เพียงแต่จะส่งผลให้ผลงานของ ลิเวอร์พูล ออกมาไม่ดีเท่าไหร่ แต่ยังทำให้ตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติอังกฤษ ที่มี ฟาบิโอ คาเปลโล่ เป็นผู้จัดการทีมก็เริ่มสั่นคลอนแล้วเหมือนกัน แม้ที่ผ่านมา สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ แกเร็ธ แบร์รี่ ดูจะยึดครองมาได้ตลอด
ทว่าฟอร์มของ โจ โคล ที่แรงขึ้นมากับ เชลซี แถมยังเล่นได้หลากหลายกว่าด้วยทำให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มีสิทธิ์หลุดจาก 11 ตัวจริงได้หากยังเล่นได้สะเปะสะปะเหมือนเวลานี้
อย่างไรก็ดีด้วยช่วงเวลาที่เหลือ บวกการแรงกระตุ้นของทั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ รวมไปถึงนักเตะรุ่นพี่ที่เป็นตำนานหลายคนของ ลิเวอร์พูล ก็ยังเชื่อว่ากัปตันจอมบู้คนนี้จะกลับมาได้
ในวัย 29 ย่างเข้า 30 ปีแล้ว สตีเว่น เจอร์ราร์ด เหลือเวลาในการค้าแข้งไม่มาก อีกทั้งยังต้องแบกรับทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวของทีมที่มีเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล จึงกดดันแบบสุดๆ แน่
ยังไม่ต้องมองไกลไปถึงฟุตบอลโลก 2010 แต่ตอนนี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ต้องเร่งรีดฟอร์มเก่งกลับมาโดยเฉพาะในช่วง 3 นัดอันตรายกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส, แอสตัน วิลล่า และ สเปอร์ส นี้
โดยหากจะปลดแอกทุกอย่างในตอนนี้ต้องได้ 9 แต้มสถานเดียวเท่านั้น
ว่าแต่ว่าจะเก็บได้ถึง 4 แต้มหรือเปล่า ...
พิราบขาว
|
|
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
