เครื่องยังไม่ร้อน! หงส์ปีกหักประเดิม!ไก่จิกร่วง2-1

หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ หงส์แดงลิเวอร์พูล เครื่องยังไม่ร้อน! หงส์ปีกหักประเดิม!ไก่จิกร่วง2-1

หงส์แดง ลิเวอร์พูล ประเดิมฤดูกาลใหม่สุดกร่อยหลังยกพลออกไปโดน ไก่เดือยทอง สเปอร์ส เชือด 1-2 โดยเจ้าถิ่นได้ 2 ประตูจาก เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ และ เซบาสเตียน บาสซง ส่วนทีมเยือนได้คืนจากลูกจุดโทษของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ส่งผลให้ หงส์แดง กลายเป็นทีมเดียวในบิ๊กโฟร์ที่แพ้ในนัดแรก

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2009-2010
สเปอร์ส 2 - ลิเวอร์พูล 1

คู่สุดท้ายของนัดเปิดซีซั่นใหม่ที่ไวท์ ฮาร์ทเลน สเปอร์สซึ่งมีปัญหาแนวรับยวบส่งเซบาสเตียน บาสซงสมาชิกใหม่ประเดิมสนามคู่กับเล็ดลีย์ คิง ขณะที่คู่กองหน้าใช้บริการร็อบบี้ คีนกับเจอร์เมน เดโฟที่เพิ่งระเบิดฟอร์มฮ็อตกับทีมชาติ โดยมีปีเตอร์ เคราช์อดีตขุนพลหงส์แดงอีกรายนั่งเป็นตัวสำรอง ด้านลิเวอร์พูลมีเฮ กำลังสำคัญหลายรายทั้งเจมี่ คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล และสตีเว่น เจอร์ราร์ดเช็คความฟิตผ่านโดยพร้อมเพรียง

เกมเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ยังคุมจังหวะกันไม่ได้ แต่นาทีที่ 15 สองกองหลังเร้ด แมชีนก็ออกลูกโฉ่งฉ่างกระโดดโขกสกัดบอลลอยโด่งชนกันเองเต็มๆจนคาร์ราเกอร์หน้าผากแตก ขณะที่สเคอร์เทลปากแตก ทำให้ต้องหยุดเกมปฐมพยาบาลกันครู่เล็กๆ ผ่านมาถึงนาทีที่ 25 เกมยังชวนให้น่าง่วงเช่นเดิม แต่อาร่อน เลนน่อนมาได้ใบเหลืองในจังหวะเข้าเสียบสเคอร์เทลน่าเกลียด ล่วงมาอีกสี่นาที เจอร์ราร์ดลองหาช่องตะบันเรียดจากหน้าเขตโทษเฉี่ยวเสาไกลออกไป แต่ทีมตราไก่น่าจะได้ปะตูมากกว่าในนาทีที่ 30 เมื่อวิลสัน ปาลาซิออสพาบอลลุยขึ้นกราบขวาแล้วสาดข้ามฟากไปให้ลูก้า โมดริชตบคืนมาหน้าเขตโทษโดยมีคีนโถมโขกเต็มๆสี่หลา ทว่าโฆเซ่ เรน่ากระโจนกลับมาปัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ถัดมาในนาทีที่ 32 ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ก็โดนจดชื่ออีกรายโทษฐานดับเครื่องชนเลนน่อน และอีกสองนาทีจากนั้นโมดริชก็ลากบอลเร็วจี๋จากกลางสนามขึ้นมาป้ายเข้าเขตโทษด้านขวาให้คีน ทะลุเข้าไปยิงชิพแบบเน้นๆแล้ว แต่เรน่าขยับออกมาปัดได้แบบจวนเจียนอีกครั้ง เกมเริ่มเป็นของเจ้าบ้านอย่างชัดเจนแล้ว จวบจนนาทีที่ 42 ทอม ฮัดเดิลสตันก็โขกบอลที่แผงหลังลิเวอร์พูลสกัดกันไม่เด็ดขาดกลับเข้าเขตโทษให้คีนวอลเลย์ แต่กัปตันไก่ทำเสียของซัดโด่งออกไปบานเบอะ

กระนั้น นาทีที่ 44 เจ้าบ้านก็มาได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษเมื่อสเคอร์เทลเข้ารวบปาลาซิออสล้ม ฮัดเดิลสตันจึงวิ่งเข้าซัลโวกระทบกำแพงกระดอนออกมา แล้วเบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้เข้าไปเข่นซ้ำจาก 23 หลาส่งบอลเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลสุดสวยเกินกว่าที่เรน่าจะพุ่งปัดถึงทำให้สเปอร์สขึ้นนำ 1-0 นับจากนั้น หงส์แดงก็เลือดขึ้นหน้า เปิดเกมรุกเต็มถังสร้างปัญหาให้แนวรับทีมตราไก่เป็นระยะ แต่เหลือเวลาน้อยเกินไป ครบ 45 นาทีแรก ทีมเมืองหลวงจึงนำไปก่อนหนึ่งลูก

เริ่มครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลได้เสียวก่อนในนาทีที่ 49 จากจังหวะที่เดิร์ก เคาท์ผ่านบอลขึ้นหน้าให้เฟร์นานโด ตอร์เรสแปะคืนตั้งให้เจอร์ราร์ดวิ่งเข้ากระทุ้งเรียดจากหน้าเขตโทษเฉี่ยวกรอบออก ไปแค่คืบเดียวเท่านั้น ถัดมาอีกสามนาที สเคอร์เทลไปรวบคีนกลิ้งจึงได้ใบเหลืองเป็นรางวัล และถึงนาทีที่ 53 ไก่เดือยทองก็ทำให้กองเชียร์ครางฮือด้วยความเสียดายเมื่อปาลาซิออสพาบอลบุกขึ้นมากดหน้าเขตโทษ แต่เรน่ายังเหนียวปัดข้ามคานได้สำเร็จ

และในที่สุดนาทีที่ 55 เกล็น จอ์นสันก็ทำดี ควบบอลลุยขึ้นกราบขวาหนีฮัดเดิลสตันเข้าเขตโทษได้ แล้วเอเรลโญ่ โกเมซออกมาทะเล่อทะล่ารวบกองหลังผิวสีคว่ำจึงเป็นลูกโทษของทีมเยือน และเจอร์ราร์ดเลือกยิงเข้ากลางประตูตีเสมอให้อาคันตุกะทวงคืนเป็น 1-1 ดวลกันใหม่มาถึงนาทีที่ 59 คาร์ราเกอร์ก็ได้ใบเหลืองข้อหายกแขนดักไม่ให้เจอร์เมน เดโฟลากบอลหนี และจากลูกฟรีคิกในนาทีนี้ของเจ้าถิ่น โมดริชก็เปิดบอลโด่งเข้าเขตโทษข้ามหัวเจอร์ราร์ดให้บาสซงชิงโขกได้ก่อนคาร์ราเกอร์จาก 12 หลาส่งบอลลอยผ่านเรน่าตุงตาข่ายพาทีมตราไก่นำอีกหน 2-1

หงส์แดงพยายามรวบรวมลูกฮึดบุกกันใหม่ และได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกริมเขตโทษด้านซ้ายในนาทีที่ 62 จากที่ไรอัน บาเลิ้ลถูกทำฟาวล์ แต่เจอร์ราร์ดปั่นไปถูกโกเมซปัดทิ้งได้ ขยับมาถึงนาทีที่ 65 คีนลองตะบันจากหน้าเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือเรน่า ก่อนที่อัสซู เอก็อตโต้จะถูกจดชื่อข้อหาเสียบจอห์นสัน ผ่านมาอีกสามนาทีลิเวอร์พูลก็เปลี่ยนบาเบิ้ลที่ฟอร์มแย่ออกส่งยอสซี่ เบนายูนลงไปแทนพร้อมกับที่สเปอร์สให้เคราช์ลงไปแทนที่คีนซึ่งเริ่มเดินกระเผลก

ลิเวอร์พูลเกือบได้ตีปีกในนาทีที่ 72 ด้วยลูกโยนจากกราบขวาเข้าเขตโทษของจอห์นสันที่ตอร์เรสโดดโขกได้ แต่หอกสเปนสะบัดศีรษะส่งบอลทะลักเสาไกลออกไปไม่เยอะ นาทีที่ 75 ทีมเยือนส่งดาเนี่ยล อยาล่ากองหลังดาวรุ่งลงเล่นแทนสเคอร์เทลที่เริ่มช้ำ ช่วงท้ายเกม หงส์แดง เดินเกมรุกอย่างหนักแต่ สเปอร์ส ก็เน้นรัดกุมเต็มที่เพื่อผลาญเวลาลงไป กระทั่งครบ 90 นาที ทีมตราไก่จึงสยบหงส์แดงด้วยสกอร์ 2-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปอร์ส : โกเมส - เวดราน ชอร์ลูก้า, เล็ดลี่ย์ คิง, เซบาสเตียน บาสซง, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ - อารอน เลนน่อน, วิลสัน ปาลาซิออส, ทอม ฮัดเดิลสโตน , ลูก้ส โมดริช - ร็อบบี้ คีน, เจอร์เมน เดโฟ
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน่ อินชัว - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลวา - เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบิล - เฟร์นานโด ตอร์เรส

                src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O090817E2O1S.jpg
                                    สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิงจุดโทษ ตีเสมอ 1-1 ให้กับ ลิเวอร์พูล


                                         เซบาสเตียน บาสซง เข้าสกัดบอลจาก ไรอัน บาเบล


                      จังหวะที่ เซบาสเตียน บาสซง โหม่งประตูชัยให้สเปอร์ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1


                       ผู้ตัดสิน ฟิล ดาวด์ ไล่แซมมี่ ลี ออกจากสนามเนื่องจากโวยวายเกินเหตุ