เกียรติประวัติหงส์แดงลิเวอร์พูล

screen.width-461) window.open('http://www.starvin4sport.0nyx.com/images/Liverpool-Team-2005.jpg'); src=http://www.starvin4sport.0nyx.com/images/Liverpool-Team-2005.jpg border=0>
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Liverpool  
ชื่อเต็ม Liverpool Football Club
ฉายา The Reds, Red Machine, The Kop
ก่อตั้ง พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892)
สนาม แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล
ความจุ 45,362 คน
ประธาน  ทอม ฮิกส์
จอร์จ จิลเลตต์
ผู้จัดการ  ราฟาเอล เบนิเตซ
ลีก เอฟเอ พรีเมียร์ลีก
2007-08 พรีเมียร์ลีก อันดับที่ 4
  


 
ชุดทีมเหย้า
    


 
ชุดทีมเยือน


สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (อังกฤษ: Liverpool Football Club) เป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทีมหนึ่งในฟุตบอลอังกฤษ ลิเวอร์พูลครองแชมป์ลีกสูงสุดถึง 18 ครั้ง ครองแชมป์ยูโรเปียนคัพ 5 ครั้ง ก่อตั้งใน วันที่ 15 มีนาคม ปี พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892) ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรหนึ่งในกลุ่มจี-14 มีฉายาในภาษาไทยว่า หงส์แดง พร้อมด้วยคำขวัญ You will never walk alone

สนามปัจจุบันของสโมสรคือ แอนฟิลด์ มีความจุ 45,362 คน ในขณะเดียวสนามใหม่กำลังถูกวางแผนก่อสร้างในชื่อ สนามสแตนลีย์พาร์ก ความจุประมาณ 60,000 อยู่ในระหว่างการเจรจาระหว่างเจ้าของและทางเอชเคเอส สำนักงานสถาปนิกอเมริกัน [1]

เนื้อหา [ซ่อน]
1 ประวัติสโมสร
2 ยุคก่อตั้งสโมสร
3 ที่มาของ The Kop
4 ผู้เล่นปัจจุบัน
5 ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว
6 สต๊าฟ โค้ช
7 ผู้จัดการทีม
8 ผู้เล่นในตำนาน
9 เกียรติประวัติ
10 อ้างอิง
11 แหล่งข้อมูลอื่น
11.1 เว็บแฟนคลับ



ประวัติสโมสร
จอห์น โฮลดิ้ง นักธุรกิจชาวเมืองลิเวอร์พูลได้เช่าพื้นที่บริเวณ แอนฟิลด์ โรด เพื่อใช้สร้างสนามฟุตบอล และเมื่อสร้างเสร็จได้ให้สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เช่าเป็นสนามแข่ง และเมื่อทีมเอฟเวอร์ตันได้เข้าสู่สมาชิกฟุตบอลลีก จอห์น โฮลดิ้ง พยายามจะเข้าไปบริหารงานในทีมเอฟเวอร์ตันและได้เพิ่มค่าเช่าสนามที่ทีมได้เช่าอยู่ ฝ่ายกลุ่มบริหารของเอฟเวอร์ตันจึงยกเลิกสัญญาเช่าสนาม และทีมเอฟเวอร์ตันได้ย้ายสนามไปอีกฝากของสวนสาธารณะ สแตนลี่ย์พาร์ค เพื่อไปสร้างสนามเป็นของตัวเองโดยใช้ชื่อสนามว่า กูดีสันพาร์ก ดังนั้น จอห์น โฮลดิ้ง จึงต้องการสร้างทีมฟุตบอลขึ้นมา และ จอห์น โฮลดิ้ง จึงไปชวนเพื่อนสนิทของเขาชื่อ จอห์น แมคเคนน่า มาทำหน้าที่ประธานสโมสรและได้ตั้งชื่อทีมฟุตบอลนี้ว่า Liverpool Football Club


ยุคก่อตั้งสโมสร
หลังจากที่สโมสรลิเวอร์พูลก่อตั้งได้ไม่นาน ได้จัดการแข่งขัดนัดอุ่นเครื่อง ซึ่งเป็นการลงสนามนัดแรกของทีมลิเวอร์พูลกับทีมร็อตเตอร์แฮม ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมลิเวอร์พูลชนะไปด้วยผลการแข่งขัน 7-1 และลิเวอร์พูล ได้ลงแข่งขันฟุตบอลลีกของแคว้น แลงคาเชียร์ ปรากฏว่าลิเวอร์พูลลงแข่งทั้งหมด 22 นัด ชนะ 17 นัด และได้แชมป์ไปครอง ส่งผลให้ทางสโมสรสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกซึ่งได้รับการยอมรับและถูกคัดเลือกให้ลงเล่นในดีวิชั่น 2 ในฤดูกาล 1893-1894 สโมสรจึงได้เลือกสัญลักษณ์ของทีมเป็น นกลิเวอร์เบิร์ด (Liverbird) ซึ่งเป็นนกแถบทะเลไอริช บริเวณแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ โดยที่ปากนกคาบใบไม้ไว้ ทีมลิเวอร์พูลได้ลงทำการแข่งขันอย่างเป็นทางในฟุตบอลลีก ดิวิชั่น 2 ในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1893 โดยทีมลิเวอร์พูลออกไปเยือนทีมมิดเดิลสโบรซ์ ไอโรโนโปลิส และทีมลิเวอร์พูลสามารถได้แชมป์มาครองโดยที่ไม่แพ้ทีมใดเลยตลอดทั้งฤดูกาล (ทั้งหมด 28 นัด) แต่การคว้าแชมป์ลีกดิวิชั่น 2 ในตอนนั้นยังไม่ได้เลื่อนชั้นโดยทันที ต้องไปแข่งนัดชิงดำกับทีมอันดับสองก่อน โดยทีมอันดับสองในขณะนั้นคือ ทีมนิวตัน ฮีธ (ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปัจจุบัน) และลงแข่งขันที่สนามของทีมแบล็คเบิร์น ซึ่งทีมลิเวอร์พูลเอาชนะทีมนิวตัน ฮีธไปด้วยผล 2-0 และได้เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ในที่สุด

src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpooll_uf9njc59.gif

 ที่มาของ The Kop
เดอะ ค็อป เป็นชื่อที่ใช้เรียกตามชื่อของเนินเขาแห่งหนึ่งใน นาทาล ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งคนท้องถิ่นจะรู้จักกันในนาม สปิออน ค็อป โดยเกิดเหตุการณ์การทำสงครามบัวร์ขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1900 อังกฤษได้ส่งทหารไปกว่า 300 นาย โดยส่วนใหญ่เป็นชาวเมืองลิเวอร์พูล แต่แล้วในสงครามนั้นเกิดเหตุการณ์น่าเศร้าขึ้นคือ อังกฤษได้เสียทหารไปเกินกว่าครึ่ง เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น นักข่าวกีฬาของหนังสือพิมพ์ลิเวอร์พูลเดลี่โพสต์ ชื่อ เออร์เนสต์ เอ็ดเวิร์ตส์ จึงเสนอชื่อ สปิออน ค็อป ตามชื่อของเนินเขาลูกนั้น เป็นชื่อของอัฒจันทร์หลังประตูในการสร้างสนามใหม่ขึ้นมา เพื่อเป็นเกียรติในความกล้าหาญของทหารอังกฤษทั้ง 300 นาย ซึ่งต่อมาอัฒจันทร์แห่งนี้ได้กลายอัฒจันทร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกของฟุตบอลแห่งหนึ่ง. ในปี ค.ศ. 1928 ได้มีการต่อเติมอัฒจันทร์แห่งนี้ใหม่ และเมื่อใดเมื่อมีการแข่งขันฟุตบอลของทีมลิเวอร์พูลขึ้น คนที่ไปดูการแข่งขันของทีมบนอัฒจันทร์จะเรียกตัวเองว่า เดอะ ค็อป (The Kop) และแล้วจากเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่สนามฮิลส์โบโร่ ในปี ค.ศ. 1989 ซึ่งเกิดการถล่มของอัฒจันทร์ขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 96 คน จึงมีคำสั่งให้ทุกสนามเปลี่ยนจากอัฒจันทร์ยืนเป็นแบบนั่งทั้งหมด และนั่นเป็นการปิดฉากของอัฒจันทร์ สปิออน ค็อป อัฒจันทร์แบบยืนที่มีความยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีอัฒจันทร์ใหม่ขึ้นมาและใช้ชื่อว่า นิว ค็อป ซึ่งความหมายต่าง ๆ ยังคงเหมือนเดิม แม้ชื่ออัฒจันทร์จะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม นิว ค็อป ยังคงมีกลิ่นอายของประวัติเหล่านั้นอยู่เต็มเปี่ยม


[แก้] ผู้เล่นปัจจุบัน
เบอร์  ตำแหน่ง รายชื่อ
1  GK ดิเอโก้ คาวาเลรี่
2  DF อันเดรียส ดอสเซน่า
4  DF ซามี ฮูเปีย
5  DF ดาเนี่ยล แอกเกอร์
7  FW ร็อบบี้ คีน
8  MF สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตัน)
9  FW เฟร์นานโด ตอร์เรส
11  MF อัลเบิร์ต ริเอร่า
12  DF ฟาบิโอ ออเรลิโอ
14  MF ชาบี อลอนโซ่
15  MF ยอสซี่ เบนายูน
17  DF อัลวาโร่ อเบลัว
18  FW เดิร์ค เค้าท์
19  MF ไรอัน บาเบล
20  MF ฮาเวียร์ มาสเคราโน่
21  MF ลูคัส เลว่า
22  DF เอมิเลียโน อินซัว
23  DF เจมี คาร์ราเกอร์ (รองกัปตัน)
  เบอร์  ตำแหน่ง รายชื่อ
24  FW ดาวิด เอ็นก็อก
25  GK โฆเซ่ เรน่า
26  MF เจ สเปียร์ริ่ง
27  DF ฟิลลิป เดเก้น
28  MF เดเมี่ยน เพนซิส
29  FW คริสเตียน เนเม็ธ (on loan)
30  GK ชาร์ลส อิต็องเซ่
31  MF นาบิล เอล ซาห์
32  DF สตีเฟน ดาร์บี
33  MF เซบาสเตียน เลโต้
34  DF มาร์ติน เคลลี่
35  MF ไรอัน ฟลินน์
36  DF สตีเว่น เออร์วิน
37  DF มาร์ติน สเคอร์เทล
38  FW เครก ลินด์ฟิลด์
39  FW นาธาน เอคเคิลสตัน
41  GK มาร์ติน แฮนเซ่น
42  GK ปีเตอร์ กุลัคชี่
46  DF แจ๊ค ฮอบส์



[แก้] ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว
เบอร์  ตำแหน่ง รายชื่อ
37  DF ลี เพลเทียร์ (ยีโอวิล ทาวน์ - ถึง ธันวาคม 2550)[2]
41  FW เบเชียน อิดริซาจ (คริสตัลพาเลซ - ถึง มิถุนายน 2551)[3]
45  DF เจมส์ สมิท (สต็อกพอร์ทเคาวน์ตี้ - ถึง มกราคม 2551)[4]
  MF พอล แอนเดอร์สัน(นักฟุตบอล) (สวอนซีซิตี้ - ถึง พฤษภาคม 2551)[5]
  DF กอดวิน แอนท์ไว (ฮาร์เติลพูลยูไนเต็ด - ถึง มิถุนายน 2551)[6]
  เบอร์  ตำแหน่ง รายชื่อ
  MF อดัม แฮมมิล (เซาท์แทมตัน - ถึง มิถุนายน 2551)[7]
  FW แอนโทนี่ เลอ ตัลเล็ค (เลอ มันส์ ยูเนี่ยน คลับ 72 - ถึง มิถุนายน 2551)[8]
  GK นิโคไล มิเฮลอฟ (เอฟซี ทเวนเต้ - ถึง มิถุนายน 2551)[9]
  DF มิกูเอล โรเก้ แฟร์เรโร (เซเรซ ซีดี - ถึง มิถุนายน 2551)[10]
  MF จิมมี่ ไรอัน (ชรูบูรี่ทาวน์ - ถึง กันยายน 2550)[11]



[แก้] สต๊าฟ โค้ช
ชื่อ ตำแหน่ง
ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม
แซมมี่ ลี ผู้ช่วยผู้จัดการทีม
เมาริซิโอ เปเลกริโญ โค้ชทีมหลัก
ซาวี วาเลโร โค้ชผู้รักษาประตู
กอนซาโล โรดริเกซ โค้ชความฟิต
พาโก เดอ มิกูเอล โค้ชความฟิต
แกรี่ แอ๊บเลตต์ ผู้จัดการทีมสำรอง
อังเกล วาเลส โค้ชทีมสำรอง / หัวหน้าการวิเคราห์ด้านเทคนิค
เดฟ แมคโดนัฟ นักวิเคราะห์ด้านเทคนิค
เอดูอาร์โด มาเซีย หัวหน้าหน่วยแมวมอง
ชื่อ ตำแหน่ง
ไมค์ แมคกลินน์ ผู้ช่วยหน่วยแมวมอง
มาร์ก วอลเลอร์ แพทย์
ร็อบ ไพรซ์ หัวหน้าผู้ดูแลสุขภาพนักเตะ
หลุยส์ ฟอเซตต์ ผู้ดูแลสุขภาพนักเตะ
วิคเตอร์ ซาลินาส ผู้ดูแลสุขภาพนักเตะ
คริส มอร์แกน ผู้ดูแลสุขภาพนักเตะ
พอล สมอล หมอนวด
เกรแฮม คาร์เตอร์ ผู้จัดการชุดแข่ง
จอห์น ไรท์ เจ้าหน้าที่ชุดแข่ง



[แก้] ผู้จัดการทีม

สนามแอนฟิลด์(1892 - 1896) จอนห์ แม็คเคนน่า / วิลเลี่ยม บาร์คเลย์
(1896 - 1915) ทอม วัตสัน
(1915 - 1920) ไม่มีผู้จัดการทีม
(1920 - 1923) เดวิด แอชเวิร์ธ
(1923 - 1928) แม็ต แม็คควีน
(1928 - 1936) จอร์จ แพ็ตเธอร์สัน
(1936 - 1950) จอร์จ เคย์
(1951 - 1956) ดอน เวลช์
(1956 - 1959) ฟิล เทเลอร์
(1959 - 1974) บิลล์ แชงค์ลี่ย์
(1974 - 1983) บ๊อบ เพสลี่ย์
(1983 - 1985) โจ เฟแกน
(1985 - 1991) เคนนี่ ดัลกลิช
(1991 - 1994) แกรม ซูเนสส์
(1994 - 1998) รอย อีแวนส์
(1998 - 2004) เชราร์ อุลลิเย่ร์
(2004 - ปัจจุบัน) ราฟาเอล เบนิเตช

[แก้] ผู้เล่นในตำนาน
บ๊อบ เพสลี่ย์
บิลลี่ ลิดเดลล์
เอียน เซนต์จอห์น
โรเจอร์ ฮันท์
เควิน คีแกน
เคนนี่ ดัลกลิช
แกรม ซูเนสส์
เอียน รัช
บรู๊ซ กร๊อบเบล่าร์
จอห์น บาร์นส์
ปีเตอร์ เบียร์ดสลี่ย์
จอห์น อัลดริจ
สตีเว่น เจอร์ราด
จิมมี่ เร็ดแน็พ
ไมเคิล โอเวน
ร๊อบบี้ ฟาว์เลอร์
ฟิล นีล
เจอร์ซี่ ดูเด๊ค 

เกียรติประวัติ
ฟุตบอลลีกดิวิชั่นหนึ่ง: 18
1901, 1906, 1922, 1923, 1947, 1964, 1966, 1973, 1976, 1977, 1979, 1980, 1982, 1983, 1984, 1986, 1988, 1990
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป: 0
n/a
ฟุตบอลลีกดิวิชั่นสอง: 4
1894, 1896, 1905, 1962
เอฟเอคัพ: 7
1965, 1974, 1986, 1989, 1992, 2001, 2006
ลีกคัพ: 7
1981, 1982, 1983, 1984, 1995, 2001, 2003
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก: 5
1977, 1978, 1981, 1984, 2005
ยูฟ่าคัพ: 3
1973, 1976, 2001
European Super Cup : 3
1977, 2001, 2005
ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ
สูงสุด รองชนะเลิศ 2005
เอฟเอ ยูธคัพ
แชมป์ ปี 1995-96 , 2005-06 , 2006-07


src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpoolf_y4qv37ws.gif
src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/rotatinglo_rwnwb6et.gif
src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpoolf_q3v1bo7l.gif
src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/lamborghin_qp84zvpi.gif
src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpoolf_pdua8uud.gif
src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpooll_hqldyhoi.gif
src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpoolf_wluun4je.gif

src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpoolf_ny4a6ubn.gif
src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpoolf_ljfl2qj3.gif
src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpoolf_hunecj3v.gif
src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpoolf_ecjuz6cm.gif
src=http://i183.photobucket.com/albums/x230/huyenthiet/liverpoolf_5kq73izv.gif

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์