หัวใจจะวาย!หัวขิงซัดโทษน.75หงส์หวิว1-0

"มือใหม่หัดลุ้นแชมป์"ลิเวอร์พูลเกือบเน่าตั้งแต่นัดแรกหลังเจอลูกอุดปอร์ทสมัธจนไปไม่เป็นแต่ดิยอฟมอบโชคเจตนาทำแฮนด์บอลก่อนหมดเวลา 15 นาทีเลยกลายเป็นที่มาจุดโทษของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดซัดชัยรักษาระยะห่าง 3 แต้มต่อไปแบบหืดจับตามสไตล์"หงส์แดง"

บรรยายเกมโดยลูกแม่กิ่ง

ลิเวอร์พูล 1-0 ปอร์ทสมัธ

สนาม : แอนฟิลด์

ประตู : 1-0 สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด น.76 (จุดโทษ)

ผู้ม : 43,378 คน


เปิดเกมมาไม่ถึงนาที หงส์แดงก็ลุยใส่ก่อนทันทีและได้ลูกเตะมุม เจอร์ราร์ดเปิดมาแนวรับปอมปีย์เคลียร์ไม่ขาดบอลมาตกที่เท้าของเคาท์ แต่วางเท้ายิงไม่ดีลูกเลยเหินออกไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไร

ลิเวอร์พูล เล่นกันมั่นใจจริงๆบี้จนปอมปีย์ตั้งหลักไม่ขึ้น และนาทีที่ 9 ก็ใกล้เคียงกับการได้ประตูขึ้นนำสุดๆ จากการเติมขึ้นมาของอาร์เบลัวทางขวาก่อนจะเลือกจ่ายให้เคาท์ ได้แต่งบอลก่อนตั้งป้อมซัดตรงกรอบเขตโทษลูกพุ่งเข้ากรอบติดเซฟของเดวิด เจมส์ ก่อนจะไปชนเสาเข้าอย่างจังโดยไม่มีใครที่เข้าซ้ำ

ลูคัส ขอลองบ้างโดยได้ทะยานขวิดลูกเตะมุมก็ข้ามคานออกไป ก่อนที่เจ้าถิ่นจะครองเกมข้างเดียว เพียงแต่บอลมันได้แค่วูบวาบแต่ขาดประสิทธิภาพ ก็เลยเจาะเกมรับทีมเยือนที่ลงไปตั้งกำลังกันพรึ่ดในกรอบเขตโทษไม่ไหว

ปอมปีย์ มาได้ลุ้นนานๆทีจากลูกฟรีคิกซึ่งเป็นคาบูลที่ได้โขกหลุดกรอบออกไป ก่อนที่จะเริ่มทำได้น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆและน่าจะได้ประตูขึ้นนำบ้างเมื่อเดวิส ได้ตักบอลให้ดิย็อป ขึ้นโขกเหน่งๆจากระยะ 6 หลาแต่ดันโขกได้ห่วยสุดๆไปเข้าซองเรน่าหน้าตาเฉย

โดนขู่ช็อตนี้ก็ทำเอาหงส์แดงกลับมาตั้งหน้าตั้งตาบุกกันใหม่อีกระลอก ซึ่งในยกสองนี้มาได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของคาร์ราเกอร์ที่อัดกว่า 30 หลาไปตรงตัวเจมส์ และเคาท์ที่ลองพลิกบอลมายิงหน้าเขตโทษด้วยซ้ายก็ข้ามคานออกไป

เคาท์ ยังเป็นคนเดียวที่พอจะหาโอกาสยิงได้เรื่อยๆ โดยได้ลูกจ่ายจากเจอร์ราร์ดหลุดไปในเขตโทษก่อนจะหาโอกาสสับไกแต่ก็ยังไม่แม่นเป้าเข้าหน้าต่างไปอีก

ลิเวอร์พูล เริ่มดูจะตันและออกลูกท้อบ้าง การจ่ายบอลเริ่มไม่แม่น แต่ก็ยังมาฮึดอีกก๊อกก่อนะจบครึ่งแรกได้ลุ้นอีก 3 ช็อตเน้นๆจากจังหวะหลุดเข้ายิงในเขตโทษของเจอร์ราร์ดที่ติดเซฟเจมส์ ก่อนที่เคาท์จะทำชิ่งกับสตีวี่จีได้สวยแต่ก็ยิงแป้ก และปิดท้ายด้วยลูกยิงลักไก่ของอาร์เบลัว ที่เฉียดคานออกไป ซึ่งสุดท้ายเมื่อทำอะไรไม่ได้ทั้งที่บุกแทบจะข้างเดียวก็เลยต้องยอมเสมอกันไปก่อน 0-0

กลับมาลุยกันต่อครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลกลับเล่นกันได้แย่กว่าครึ่งแรกอีก ทำให้ปอมปีย์ดูมีโอกาสลืมตาอ้าปากกันมากขึ้น ซึ่งเจ้าถิ่นก็ใช้เวลาพักใหญ่เลยทีเดียวกว่าจะตั้งเกมของตัวเองได้อีกครั้ง

เกมรุกของลิเวอร์พูลในวันนี้ดูขาดๆเกินๆอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็พอได้ลุ้นเป็นระยะอยู่ดีจากลูกเตะมุม เจอร์ราร์ด เปิดให้ฮูเปียโฉบโขกที่เสาแรกออกไปนิดเดียว ก่อนที่ราฟาจะทนไม่ไหวส่งยอสซี่ เบนายูน ลงมาแก้แทนเพนแนนท์ที่ไม่เป็นโล้เป็นพายในวันนี้

หงส์แดงยังเร่งไม่ขึ้น ราฟาต้องส่งอัลเบิร์ต ริเอร่าลงมาอีกคน แต่ถึงนาทีที่ 72 ก็มาได้โอกาสใกล้เคียงมากที่สุดในครึ่งหลังจากจังหวะที่เจอร์ราร์ด แทงทะลุช่องให้เบนายูนหลุดเดี่ยวกำลังจะยิงได้อยู่แล้วแต่ติดบล็อกของดิสแต็ง

ลิเวอร์พูล ไม่รอให้ปอมปีย์ตั้งตัวบี้ต่อทันที และเกือบทำเอาแฟนบอลได้เฮอีกครั้งเมื่อออเรลิโอ ตัดบอลได้ในจังหวะที่ปอร์ทสมัธกำลังจะบุกกลับ และตะบันไกลกว่า 25 หลาแต่เจมส์ ก็ยังบินไปเซฟได้

แต่จังหวะต่อมาแฟนเดอะ ค็อปในสนามก็ได้เฮจนได้เมื่อทีมมาได้จุดโทษในจังหวะที่ดิย็อป ไปชกบอลในเขตโทษในจังหวะพยายามแย่งโหม่งกับฮูเปีย และเป็นกัปตันเจอร์ราร์ด ที่ยิงเข้าไปแบบมุมดิกชนิดที่เจมส์พุ่งถูกทางก็ไปไม่ถึง ทำให้ลิเวอร์พูลได้ประตูนำ 1-0 ที่รอคอย

ได้ประตูนี้ลิเวอร์พูลดูจะผ่อนเกมลงไป และถึงนาทีที่ 83 ความประมาทก็เกือบเป็นหนทางความตาย เมื่อครานชาร์ เติมมาทางซ้ายก่อนจะครอสเข้ามาได้แม่นสำๆแต่จอห์น อูตาก้า โขกวืดแบบน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือ หงส์แดง ไม่เอาแล้วลงไปตั้งรับอย่างเดียวในแดนตัวเองทำให้ปอมปีย์ ได้ขึงเกมบุกให้แฟนๆได้หวาดเสียวกันบ้าง แต่ทีมเยือนก็ทำอะไรไม่ได้ แถมเกือบโดนสวนกลับมาโดนร็อบบี้ คีน ยิงถากเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยการเฉือนชนะของเจ้าถิ่น ยึดตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้ต่อไปแม้จะชนะไม่ประทับใจก็ตาม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า 6, อัลบาโร่ อาร์เบลัว 7, ซามี่ ฮูเปีย 6, เจมี่ คาร์ราเกอร์ 6, ฟาบิโอ ออเรลิโอ 6, เจอร์เมน เพนแนนท์ 5(ยอสซี่ เบนายูน น.63,6) , ชาบี้ อลอนโซ่ 6, ลูคัส ไลวา 5, ไรอัน บาเบิล 7(อัลเบิร์ต ริเอร่า น.71,6) , สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 8*(ร็อบบี้ คีน น.90) , เดิร์ค เคาท์

สำรองไม่ได้ลงสนาม : ดีเอโก้ คาวาเลียรี่, อันเดรีย ดอสเซน่า, ดาเนี่ยล แอกเกอร์, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่

ใบเหลือง : -

ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์ 7, โนเอ ปามาโรต์ 5, ยูเนส คาบูล 6, ซิลแว็ง ดิสแต็ง 6, นาดีร์ เบลฮัดจ์ 6, จอห์น อูตาก้า 5(เจอร์เมน เดโฟ น.85) , ฌอน เดวิส 5, ปาปา บูบา ดิย็อป 4, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า 6(ริชาร์ด ฮิวจ์ส น.80) , อาร์กมองด์ ตราโอเร่ 6(นิโก้ ครานชาร์ น.64,6) , ปีเตอร์ เคราช์ 6

สำรองไม่ได้ลงสนาม : เจมี่ แอชดาวน์, เอ็นวานโก้ คานู, อาร์โนลด์ เอ็มวูเอ็มบ้า, เฮอร์มานน์ ไฮรดาร์สสัน

ใบเหลือง : ดิยาร์ร่า น.49

ผู้ตัดสิน : สตีฟ แทนเนอร์









































เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์