หัวขิงแฉแแหลกเกือบต่อยเฮียเยร์

"ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย"


มาอีกแล้วสำหรับหนังสืออัตชีวประวัติของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดกัปตันทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลที่นิวส์ออฟเดอะเวิร์ลดมาลงตีพิมพ์ทุกๆสุดสัปดาห์ล่าสุดเป็นไฮท์ไลท์สุดมันส์ที่มิดฟิลด์พลังไดนาโมเกือบเรียงหน้าต่อสต๊าฟโค้ชชุดเก่าภายใต้การนำของเชราร์ อุลลิเยร์ในออฟฟิสมาแล้ว

เกมที่ลิเวอร์พูลพบกับสเปอร์สในฤดูกาล 2002 หัวขิงฟอร์มตกอย่างน่าใจหายทำให้เชราร์ อุลิเยร์และสต๊าฟโค้ชเรียกไปด่าเพื่อหาข้อเท็จจริงซึ่งไม่มีใครทราบเลยว่าเบื้องหลังจริงๆแล้วดาวเตะวัย 25 ปีกำลังเป็นห่วงพ่อและแม่ที่ทะเลาะกันอย่างหนักซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวที่เขาไม่สามารถเปิดเผยให้ใครรู้ได้

เข้าสู่อุโมงค์ก็ยังไม่มีอะไรแต่พอถึงห้องแต่งตัว ประตูปิดดังโครม,สตั๊ดปลิวว่อน,มีแต่ความร้อนระอุหัวขิงเริ่มงาน

ผมเกลียดการโดนด่าอย่างไรก็ตามผมเล่นห่วยแตกเองแต่ให้ตายสิต้องไม่ใช่ต่อหน้าเดอะค็อปที่เพื่อนๆผมกำลังนั่งดูอยู่

ผมอยู่ในห้องแต่งตัวตามลำพังด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว

แต่สิ่งที่น่าหดหู่ที่สุดคือความสัมพันธ์ระหว่างผมกับอุลลิเยร์มาแย่ลงในเกมที่ไปเยือนบาสเซิ่ลในเดือนถัดมา


"ยิ่งทำให้ฉุน"


ทุกๆคนที่เกี่ยวข้องกับลิเวอร์พูลต้องการมีสมาธิและมุ่งมั่นกับแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นเกมที่สำคัญที่สุดของฤดูกาลแต่ใจผมไม่อยู่กับร่องกับรอย

ก่อนเดินทางไปบาสเซิ่ล เชราร์เรียกผมไปด่าที่ออฟฟิส เขาเหลืออด,เขาอยากรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับผมกันแน่

ผมเดินเข้าไปโดยมีทั้งฟิล ธอมป์สัน,แซมมี่ ลี,โจ โคริแกนโค้ชผู้รักษาประตูและอเล็กซ์ มิลเลอร์หัวหน้าแมวมองและแน่นอนมีเชราร์ด้วย

เชราร์เปิดปากก่อนเลย´อะไรกำลังสวามปามตัวเอ็งว่ะสตีวี่...เรื่องที่บ้านใช่ไหม?´...

ตาผมมองลงพื้น ผมน่าจะพูดแต่รู้สึกกระอักกระอ่วน ต้องไม่ใช่ต่อหน้าพวกเขาทั้งหมด ไอ้ที่ผมเงียบนี่แหละที่ยิ่งทำให้พวกเขาฉุนเข้าไปอีก จากนั้นพวกเขาก็ใส่ผมตัวต่อตัว พวกเขายิงคำถามผมประมาณคาร์บอมบ์ มันเหมือนโดนชกเข้าที่หน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

คำถามแล้วคำถามเล่า...´ตกลงมึงเป็นอะไร?´โค้ชผู้รักษาประตูตะโกนใส่ผม หัวหน้าแมวมองก็เอาด้วย พูดก็พูดทั้งแซมมี่,เชราร์แล้วก็ฟิลด้วย


"แทบยั้งหมัดไม่อยู่"


ผมแทบยั้งหมัดไม่อยู่ ผมเกือบจะต่อยพวกเขาเรียงตัวด้วยซ้ำ....´พูดจบกันยัง?´ สุดท้ายผมก็พูดแล้วก็เดินออกจากห้องด้วยอารมณ์เต็มพิกัด

ผมจะไปทนยืนอยู่ตรงนั้นแล้วเล่าเรื่องพ่อกับแม่ทะเลาะกันได้อย่างไร? ทุกๆครั้งที่ผมคิดน้ำลายก็ติดคอแล้ว

แต่อเมซิ่งมากที่ผมได้ลงตัวจริงนัดเจอบาเซิ่ล คือหลังจากมีเรื่องกับเชราร์และสต๊าฟผมคิดว่ายังไงก็นั่งสำรองเหมือนเดิมแน่

เจ้านายส่งผมลงเล่นในตำแหน่งโปรดเสียด้วยนั่นคือมิดฟิลด์ตัวกลางแต่ผมช็อกจริงๆ ไม่ได้มีสมาธิเลย

ใจผมไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว ผมอยากกลับบ้านเพื่อให้แม่กับพ่อคืนดีกัน บาเซิ่ลขึ้นนำ3-0 ก่อนพักครึ่งและคืนนั้นของผมยิ่งเลวร้ายเข้าไปอีก

ในห้องแต่งตัว ผมกลัวจนหัวหดตอนเชราร์เดินเข้ามาตะโกนบอก´สตีเฟ่นไปอาบน้ำซะ´..แค่นั้นเอง ผมก็เลยเดินออกไป

คอร์ริแกนยังตามมาในห้องน้ำอีกแล้วพูดขึ้นว่า´เงยหน้าขึ้นดิ๊...ไอ้หอกหัก´ ผมเลยตอบกลับไปว่าไม่มีอารมณ์คุยด้วย จากนั้นลิเวอร์พูลมาทวงคืนสามลูกรวดจากแดนนี่ เมอร์ฟี่ย์,วลาดี้ ซมิเซอร์และไมเคิ่ล โอเว่นซึ่งทำให้ผมแย่หนักเข้าไปอีก


แหล่งข้อมูล : บอร์ดรวมข่าวกีฬา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์