หรือว่าตอร์เรสจะเป็นตัวโชคไม่ดี

ข่าวฟุตบอล เอฟเวอร์ตัน ตามตีเสมอ เชลซี ในช่วงท้ายของการต่อเวลาพิเศษก่อนยิงจุดโทษได้แม่นยำกว่าชนะไปแบบหักมุมด้วย สกอร์รวม 6-5 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 ในศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา

เอฟเอ คัพ นัด รอบ 4 นัดรีเพลย์
วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554
เชลซี 1 - 1 เอฟเวอร์ตัน (เอฟเวอร์ตันดวลจุดโทษชนะ 4-3)
ประตู : 1-0 แฟร้งค์ แลมพาร์ด น.104,1-1 เลห์ตัน เบนส์ น.119

ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้

ครึ่งแรก

นาทีที่ 19 เมื่อ แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดฟรีคิกจากริมเส้นด้านซ้าย ฟิล จากีลกา กองหลัง “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” โหม่งสกัดผิดเหลี่ยมส่งบอลชนเสากระดอนมาเข้าทาง จอห์น เทอร์รี ตามซ้ำหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 25 จังหวะหวาดเสียวที่สุดก็มาถึงจากลูกที่แฟร์เรร่าลุยมาถึงเส้นหลังก่อนเปิด เข้าในให้แลมพาร์ดได้ยิงแต่ติดตัวของเฟลไลนี่ที่มาขวางก่อนที่แลมพ์จะป้าย ให้มาลูด้าซึ่งอยู่ตำแหน่งที่ดีกว่าได้กดเต็มข้อแต่ก็ถูกฮาวเวิร์ดปัดออกมาได้

นาที 32 ฮาวเวิร์ดโชว์เซฟอีกครั้งจากลูกที่ดร๊อกบากระดกให้มาลูด้าได้ซัดแต่มุมแคบ เกินไปทำให้บอลติดเซฟ ก่อนที่ลูกเตะมุมนาทีถัดมาแต่ลูกโขกของดร๊อกบาก็ไปติดบล็อคของฟิล เนวิลล์

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก รามิเรส พาบอลเข้าเขตโทษด้านขวา ฮาวเวิร์ด พยายามออกมาขวางทำให้มิดฟิลด์ชาวบราซิลตัดสินใจทิ้งตัวล้มลง แต่ผู้ตัดสิน ฟิล ดาวด์ ไม่หลงกลจึงควักใบเหลืองให้ รามิเรส จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง

นาทีที่ 56 ดร็อกบา เปิดฟรีคิกริมเขตโทษด้านขวาให้ แลมพาร์ด สอดเข้ามาก้มหัวโหม่งหลุดออกไปทางเสาแรก

นาทีที่ 65 เชลซี น่าได้ประตูถึง 2 ครั้ง เริ่มจาก รามิเรส ตบจากสุดเส้นหลังฝั่งขวาให้ แลมพาร์ด กระทุ้งจ่อๆ แต่ ฮาวเวิร์ด โชว์ซูเปอร์เซฟบนเส้นประตู ก่อนที่ มาลูดา จะเปิดลูกเตะมุมต่อเนื่องให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แปจ่อๆ ในกรอบ 6 หลาก็ยังถูกแนวรับเอฟเวอร์ตันสกัดคาบเส้นออกมาได้อีก

นาที 78 แลมพาร์ดที่วันนี้มุ่งมั่นเหลือเกินได้ซัดเต็มข้อจากจังหวะที่ดร็อกบาชงมา ให้แต่บอลก็เฉี่ยวคานออกไปพร้อมกับแผลที่โหนกแก้มของจากีลก้าที่ไปโดนศอกขอ งดร็อกบาในจังหวะแรก

นาที 83 แลมพาร์ดยังพลาดได้อีกจากบอลที่มาลูด้าลุยเข้าไปแล้วไม่มีมุมยิงทำให้คืนบอล มาให้แลมพ์แต่แลมพ์เลือกที่จะชิพแต่น้ำหนักไม่ได้ทำให้บอลข้ามคานออกไปอีก

นาทีสุดท้ายแฟนเจ้า ถิ่นสะดุ้งโหยงเมื่อเฟลไลนี่ซ้ำลูกยิงของเบนส์เข้าไปตุงตาข่ายแต่ไลน์แมนยก ธงไปแล้วจากจังหวะที่เขาล้ำหน้าไปตอนที่เบนส์ลั่นไก ทำให้เกมจบลงที่ 0-0 ต้องต่อเวลาออกไปอีก 30 นาที

ต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก

นาทีที่ 102 เป็นโอกาสของเจ้าบ้าน แลมพาร์ด เก็บบอลจากลูกเตะมุมแล้วยิงติดบล็อก จากีลกา ก่อนที่ แลมพาร์ด จะได้บอลแล้วตะบันอีกครั้ง ลูกถากโคนเสาสองออกหลังไป

นาทีที่ 104 สิงห์บลูส์ก็มาพังประตูนำ 1-0 จนได้ เมื่อ อเนลกา เกี่ยวหลบ ซิลแวง ดิสแต็ง และ เบนส์ ได้สวยทางด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลาง ดร็อกบา พักบอลด้วยอกมาเข้าทางปืน แลมพาร์ด กดเรียดหนีมือ ฮาวเวิร์ด เสียบมุมอย่างเด็ดขาด

ต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง

นาทีที่ 119 เลห์ตัน เบนส์ ปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลาเยื้องมาทางขวาส่งบอลข้ามกำแพงเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม ชนิดที่ เช็ก ได้แต่ชายตามอง ทำให้จบเกมเสมอกันอีก 1-1 รวม 2 นัดเจ๊าที่สกอร์ 2-2 ต้องดวลจุดโทษตัดสิน

ผลการยิงจุดโทษ

1-0 แลมพาร์ด (เข้า)
1-0 เบนส์ (ไม่เข้า)
2-0 ดร๊อกบา (เข้า)
2-1 จากีลก้า (เข้า)
2-1 อเนลก้า (ไม่เข้า)
2-2 อาร์เตต้า (เข้า)
3-2 เอสเซียง (เข้า)
3-3 ไฮติงก้า (เข้า)
3-3 โคล (ไม่เข้า)
3-4 เนวิลล์ (เข้า)

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค, เปาโล แฟร์เรร่า, แอชลี่ย์ โคล, จอห์น เทอร์รี่, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, รามิเรส , แฟร้งค์ แลมพาร์ด, จอห์น โอบี มิเกล(เอสเซียง น.46), ฟลองร็องต์ มาลูด้า , ซาโลมง กาลู, ดิดิเย่ร์ ดร๊อกบา

เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, เลห์ตัน เบนส์ , ฟิล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง , ซีมุส โคลแมน , มิเกล อาร์เตต้า, มารูยาน เฟลไลนี่, ลีออน ออสแมน, ทิม เคฮิลล์(บิยาเลทดินอฟ น.71 ), เจอร์เมน เบ๊คฟอร์ด(อานิเชเบ้ น.81 )