หงส์แดง...อย่าซีเรียส


ราฟา เบนิเตซ
แมนฯยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ไร้เทียมทานพอกันทั้งคู่ในแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อมีคิวมาซัดกันเองในพรีเมียร์ลีกวันเสาร์นี้ จึงเป็น "ซุปเปอร์แมตช์" ที่น่าตื่นเต้นสุดสุด เพราะได้เจอะกันในช่วงท็อปพีคพอดี

แน่นอนว่า ความกดดัน...ไม่ใช่สิ, ความท้าทายย่อมอยู่ที่หงส์แดงซึ่งเป็นรองถึง 7 แต้ม แถมแข่งมากกว่าหนึ่งนัด ถ้าบุกชนะไม่ได้ โอกาสลุ้นแชมป์ก็แทบจบทันที

ผมมองว่า
 
เกมนี้คือความท้าทายของลิเวอร์พูล เพราะในความเป็นจริง ราฟา เบนิเตซ กับ ลูกทีมคงรู้แก่ใจว่า แซงกลับมายากมากกกกก แมนฯยูชนะในลีกมา 11 นัดติด ทั้งความเชื่อมั่น ทั้งฟอร์มในสนามยังพุ่งกระฉูด ปัญหาตัวเจ็บอาจมีบ้างแต่ก็เหมือนเสี้ยนตำ ไม่ได้สะดุ้งสะเทือนอะไรเลย

ปีศาจแดงไม่มีแววว่าจะตก ปัจจัยอื่นที่จะเป็นหายนะก็มองไม่เห็น สภาพแบบนี้จะไปหวังให้สะดุดถึงขั้นทิ้งคะแนนที่นำ 7 แต้มไปหมดในช่วง 10 นัดสุดท้าย มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย

ลุ้นให้ราฟาเป็นตุ๊ดยังง่ายกว่าซะอีก (ฮา)

ลิเวอร์พูลจึงไม่ควรคิดมาก หรือคิดไกลต่อไปเป็นทอดๆ เพราะจะกลายเป็นเคี่ยวเข็ญตัวเองเกินเหตุ ลงเล่นจริงจะเครียดเสียเปล่าๆ เอาเป็นว่านัดนี้แค่ทำให้ดีที่สุด เอาฟอร์มที่เพิ่งถล่มเรอัล มาดริดลงสนามไปด้วย ผลจะออกมายังไงค่อยว่ากันทีหลังดีกว่า

เกมกับแมนฯยูไนเต็ด ถึงไม่มีเงื่อนไขที่ต้องชนะเพื่อพลิกสถานการณ์มาเอี่ยว นักเตะหงส์แดงก็ต้องใส่เต็มๆ ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นอะไรกันมากหรอก

ยิ่งตั้งใจเยอะๆ ก็ยิ่งเกร็งนะครับ ผมเคยเห็นลิเวอร์พูลมุ่งมั่นจะล้มแมนฯยูมากเกินไปจนกลายเป็นทำร้ายตัวเอง เล่นไม่เป็นธรรมชาติ ทำอะไรก็เกินๆ ไปหมด เรื่องแบบนั้นต้องไม่เกิดขึ้นอีกที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ราฟา เบนิเตซ คงรู้ดีอยู่แล้ว

พูดถึงราฟา เกมนี้ก็มีความหมายกับเขามากเหมือนกัน

ไม่รู้เจ้าตัวคิดยังไง แต่แฟนๆ หงส์แดงเยอะเลยแหละอยากเห็นลิเวอร์พูลอันดับเหนือกว่าแมนฯยูในพรีเมียร์ลีก มากกว่าเป็นแชมป์บอลถ้วยอย่างแชมเปี้ยนส์ลีก

ถึงได้แชมป์ยุโรป แต่ตัวเองกลับไม่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกซักครั้งจะไปภูมิใจแบบเต็มๆ ความรู้สึกเลยก็คงยังไม่ใช่

เป้าหมายของราฟาและลิเวอร์พูลจึงน่าจะอยู่ที่การล้มปีศาจแดงเป็นอันดับแรก เรื่องอื่นค่อยตามมาทีหลัง เกมวันเสาร์ นักเตะหงส์คงจะเอาเรื่องนี้เป็นแรงจูงใจ ทำยังไงก็ได้เพื่อหยุดแมนฯยู ตัวเองจะแซงได้ไหม จะเป็นแชมป์หรือเปล่า ช่าง(หัว)มัน เอาแค่ให้ท็อปฟอร์มที่โอลด์แทรฟฟอร์ด รักษาศักดิ์ศรีของลิเวอร์พูลไว้ สเต็ปต่อมาค่อยคิดกันอีกที

ด้วยศักยภาพของหงส์แดง, มันไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

มีตอร์เรสกับเจอร์ราร์ดช่วยกันสร้างเกมรุก กองกลางอัดไว้แน่นๆ ไม่เปิดพื้นที่ให้แมนฯยูเล่นง่าย อาศัยลูกขยันบีบพื้นที่เข้าไปเหมือนนัดแรกที่เคยชนะในบ้าน ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน บอลเทพอย่างยูไนเต็ดก็คงอึดอัดอยู่เหมือนกัน

เริ่มจากให้อึดอัดจากนั้นค่อยอกแตกทีหลังก็ยังไม่สาย

แต่อย่าถามว่าเมื่อไหร่ เอาเป็นว่าจุดประกายจากนัดนี้ให้ได้ก่อนก็แล้วกัน

โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์+ฟรีทีวี

คืนวันเสาร์ที่ 14 มี.ค. เวลา 19.45 น. แมนฯยู-ลิเวอร์พูล (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) เวลา 22.00 น. อาร์เซน่อล-แบล๊คเบิร์น (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59,คลับเอ ช่อง 110), โบลตัน-ฟูแล่ม(ทรูสปอร์ต เอ็กตร้า 1 ช่อง 66, ฮัลล์-นิวคาสเซิล (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61), ซันเดอร์แลนด์-วีแกน (ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63,คลับแอล ช่อง 107,คลับซี ช่อง 109), มิดเดิ้ลสโบรช์-ปอร์ทสมัธ (ทรูวิชั่นส์ 27), เอฟเวอร์ตัน-สโต๊ก (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61,คลับเอ ช่อง 100) เวลา 02.30 น. ยูเวนตุส-โบโลญญ่า (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61,ฟรีทีวีช่อง 9) เวลา 04.00 น. แอธเลติก บิลเบา-รีล มาดริด (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) คืนวันอาทิตย์ที่ 15 มี.ค. เวลา 20.30 น. เชลซี-แมนฯซิตี้ (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับซี ช่อง 109) เวลา 21.00 น. ลาซิโอ-คิเอโว (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, ฟรีทีวีเอ็นบีที) เวลา 23.00 น. แอสตัน วิลล่า-สเปอร์ส (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59,คลับแอล ช่อง 107,คลับซี ช่อง 109, ฟรีทีวีช่อง 3), มาลาก้า-เซบีญ่า (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61) เวลา 01.00 น. แอตเลติโก้ มาดริด-บียาร์รีล (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) เวลา 02.30 น. อินเตอร์ มิลาน-ฟิออเรนติน่า (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61) เวลา 03.00 น. อัลเมเรีย-บาร์เซโลน่า (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59)

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์