หงส์สั่งจับตายกาก้า

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มั่นใจดวล "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน


ชิงดำศึกแชมเปี้ยนส์ลีก คืนวันพุธที่ 23 พ.ค.นี้ จะย้ำแค้นคว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปี

ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ เตรียมปรับหมากใช้ระบบ 4-5-1 เพิ่มแดนกลางมาจับตาย กาก้า ตัวเก่งของคู่แข่ง

ขณะที่ คาร์โล อันเชล็อตติ โวขอชำระบัญชีแถมหยันคู่แข่งเป็นทีมเทคนิคแย่สุด เมื่อเทียบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และเชลซี พร้อมบอกแฟนบอลเกมนี้อาจไม่เร้าใจอย่างที่คิดก็ได้


ความเคลื่อนไหวของศึกลูกหนังยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ


ซึ่งจะเป็นการพบกันระหว่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล แชมป์ 5 สมัย จากอังกฤษ กับ ปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน แชมป์ 6 สมัย จากอิตาลี ในคืนวันพุธที่ 23 พฤษภาคมนี้ ที่สนามโอลิมปิก กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ

โดยจะมีการถ่ายทอดทางช่อง 3, 7 และยูบีซี 65 ตั้งแต่เวลา 01.45 น. เป็นต้นไป

เกมนัดนี้ถือเป็นการเตะล้างตาของ เอซี มิลาน ที่เคยพ่ายแพ้ ลิเวอร์พูล ในรอบนี้ด้วยการดวลลูกจุดโทษเมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งที่เป็นฝ่ายออกนำห่างถึง 3-0 แต่กลับถูกพลพรรคหงส์แดงไล่ตีเสมออย่างเหลือเชื่อ

ซึ่งถือเป็นการพบกันเพียงครั้งเดียวของทั้งคู่ โดยความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ถือว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์สุดขีดพร้อมที่จะทำศึกนัดนี้อย่างเต็มที่


ฝั่งลิเวอร์พูล ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปน


แทบไม่มีปัญหาในการจัดทีม สามารถเลือกนักเตะชุดใหญ่ได้เกือบเต็มอัตราศึก เว้นแค่ในรายของ เบาเดอไวน์ เซนเด้น อดีตปีกทีมชาติฮอลแลนด์ ที่มีอาการบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อมเพียงคนเดียว

แต่ถือว่าโชคดีที่จะได้ แฮร์รี คีเวลล์ มิดฟิลด์ตัวรุกชาวออสเตรเลีย กลับมาฟิตสมบูรณ์พร้อมช่วยทีมพอดี

เบนิเตซ ออกมากล่าวถึงเกมนัดนี้ว่ามีความมั่นใจว่าลูกทีมของเขามีทีเด็ดพอที่จะย้ำแค้นให้ เอซี มิลาน ได้อีกหน ซึ่งจะทำให้นักเตะลิเวอร์พูลชุดนี้เป็นที่กล่าวขานไปอีกถึง 100 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว

ส่วนการจัดทีมขณะนี้ยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าจะส่งใครลงสนามบ้าง แต่รายงานล่าสุดระบุว่ามีแนวโน้มสูงว่า เบนิเตซ อาจจะปรับหมากส่งกองหน้าลงสนามไปเพียงคนเดียว โดยจะเลือกจาก ปีเตอร์ เคราช์ หรือ เดียร์ก เคาท์

เพื่อเปิดที่ว่างให้แดนกลางอีก 1 ตำแหน่ง คือ ซาบี้ อลอนโซ ที่จะลงไปทำหน้าที่ตัดเกมของ กาก้า เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งของมิลาน ที่เคยมีส่วนสำคัญในการหักอก แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบที่ผ่านมามาแล้ว


ขณะที่ เอซี มิลาน


ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตนักเตะ ปีศาจแดงดำ ในยุคทองของทศวรรษที่ 1980 ก็ไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะเจ็บและแบน สามารถส่งทัพใหญ่ได้เต็มอัตราศึก

โดยตัวเลือกเดียวที่ อันเชล็อตติ ต้องตัดสินใจก็คือจะส่งใครระหว่าง อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน หรือ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ลงยืนเป็นหัวหอกคู่กับ กาก้า เท่านั้น

โดยที่ผ่านมา อันเชล็อตติ มักเลือกใช้บริการของ จิลาร์ดิโน ยกเว้นเพียงนัดล่าสุดหรือรอบตัดเชือกเกมที่ 2 ที่เปิดบ้านเอาชนะ ผีแดง แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 ที่ส่ง อินซากี้ ลงสนาม และเจ้าตัวก็โชว์ผลงานได้ค่อนข้างดี

อันเชล็อตติ กล่าวถึงเกมนี้ว่า เขาและลูกทีมยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อนได้ มีความมุ่งมั่นและมั่นใจที่จะเอาชนะลิเวอร์พูลในเกมนี้

ขณะเดียวกัน ก็ยังออกมาเหน็บนักเตะหงส์แดงชุดนี้ว่าเป็นทีมจากอังกฤษที่อ่อนที่สุดในจำนวน 4 ทีมที่ได้เข้าร่วมแข่งขันถ้วยใบนี้


"หากพูดถึงเรื่องเทคนิคแล้ว เมื่อเทียบกับอีก 2 ทีมที่ได้เข้ารอบตัดเชือก คือ


แมนฯ ยูไนเต็ด และเชลซี แล้ว ลิเวอร์พูล ถือว่าอ่อนที่สุด และผมก็ไม่คิดว่าเกมนัดชิงชนะเลิศที่กำลังจะมีขึ้นนี้จะมีความต่อเนื่อง หรือดุเดือดสมใจแฟนบอล เพราะหากเราเข้าไปชิงกับแมนฯ ยูไนเต็ด

ซึ่งเล่นฟุตบอลด้วยเทคนิค พวกเขาจะแสดงถึงเกมที่ดีออกมาให้เห็น และเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ได้ทำเช่นนั้น แต่กับ ลิเวอร์พูล แล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น

พวกเขาสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองกลายเป็นฟุตบอลแท็คติกเหมือนแถบสแกนดิเนเวียไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทั้งหมดก็มาจากตัวผู้จัดการทีมของพวกเขานั่นเอง


ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์