หงส์ยังฝืดไล่ตีลูกโลกหืด2-2

หงส์แดง ลิเวอร์พูล ฟอร์มยังฝืดไม่เลิก หลังจากที่ทำได้แค่ตามไล่ตีเสมอ เบอร์มิงแฮม 2-2 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดมันเดย์ ไนท์


 ลิเวอร์พูล 2 -เบอร์มิ่งแฮม 2





ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลซึ่งฟอร์มหลังย่ำแย่หนักไม่ปรากฏชื่อของเฟร์นานโด ตอร์เรสรวมอยู่ในโผ ดาวิด เอ็นก๊อกจึงได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงแทนที่หัวหอกซึ่งมีปัญหาบริเวณขาหนีบ แต่สตีเว่น เจอร์ราร์ดกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองเช่นเดียวกับอัลแบร์โต้ อาควิลานี่




พร้อมกันนี้ อัลเบิร์ต ริเอร่า , มาร์ติน สเคอร์เทล และเกล็น จอห์นสันต่างก็หายเดี้ยง แต่เจมี่ คาร์รากอร์กับฟิลิป เดเก้นติดโทษแบน ตำแหน่งกัปตันทีมจึงตกเป็นของเดิร์ก เคาท์




สำหรับเบอร์มิ่งแฮมไม่มีแบร์รี่ เฟอร์กูสันกองกลางที่ถูกพักแข้ง จึงเป็นโอกาสของตีมู ไตนิโอที่ได้เสียบแทน ขณะที่โจ ฮาร์ทก็ได้กลับมาเฝ้าตาข่ายหลังจากนัดก่อนที่บู๊กับแมนฯ ซิตี้ลงดวลกับต้นสังกัดที่แท้จริงไม่ได้ ไมค์ เทย์เลอร์จึงต้องตกเป็นตัวสำรองตามเดิม




ช่วงต้นลิเวอร์พูลยังทำเกมกันได้ไม่ไหลรื่นเท่าที่ควร ติดๆขัดๆตลอดเวลาแม้จะเป็นฝ่ายบุกอยู่แทบข้างเดียว กระทั่งนาทีที่ 10 ยอสซี่ เบนายูนก็พลิ้วเข้าไปถึงเส้นหลังด้านขวาได้จึงตวัดบอลมาหน้าประตู แต่เคาท์วิ่งถลำไปแล้วทำให้ชวดเข้าฮอสเผาขนอย่างน่าเสียดาย




นาทีต่อมา เจ้าบ้านน่าจะได้ไชโยอีกหนเมื่อเคาท์เก็บบอลในเขตโทษได้จึงสะกิดสั้นๆออกทางขวาให้เอ็นก๊อกตะบัน แต่ไม่มีความรุนแรงจึงถูกฮาร์ทคว้าเอาไว้




และในที่สุดนาทีที่ 13 เดอะค็อปก็ได้แฮปปี้เมื่อเกล็น จอห์นสันบุกขึ้นทางขวาไปจ่ายให้เอ็นก๊อกเข่นระยะแปดหลาถูกฮาร์ทใช้ขาสกัดได้ เคาท์จึงตามไปกระทุ้งที่เสาไกล แต่นายทวารลูกโลกขยับมาใช้เท้าเซฟได้อีก แต่สุดท้ายริเอร่ากระดกบอลข้ามไปอีกฟากให้เอ็นก๊อกสับไกเสยเพดานอย่างเหี้ยมเกรียมช่วยให้เร้ด แมชีนขึ้นนำ 1-0




เกมยังเป็นของลิเวอร์พูลอย่างน่าอุ่นใจ และนาทีที่ 15 ก็เกือบคลำเป้าเพิ่มได้จากจังหวะที่เอมิลิอาโน่ อินซัวเติมเกมไปโยนบอลจากกราบซ้ายเข้ามาหน้าประตูให้เคาท์โขกจากแปดหลา แต่บอลลอยโด่งข้ามคานก่อนที่เบอร์มิ่งแฮมจะต้องเปลี่ยนลี คาร์สลีย์ลงไปแทนไตนิโอที่เจ็บกระทันหัน




กระนั้นก็ดี ผ่านมาถึงนาทีที่ 26 ลิเวอร์พูลก็เสียท่าจากลูกฟรีคิกอีกจนได้หลังจากลูคัส เลว่าทำฟาวล์คริสเตียน เบนิเตซทางด้านขวา เจมส์ แม็คฟาดเด้นจึงบอมบ์ยาวไปเสาไกลแล้วสก็อตต์ แดนน์โขกชงกลับมาหน้าประตูให้เบนิเตซที่ล้ำหน้าอยู่เล็กน้อยโขกเผาขนเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ของทีมน้องใหม่




เกมของเบอร์มิ่งแฮมดุดันขึ้นมาทันตาเห็น แต่เจ้าบ้านได้โต้น่ากลัวในนาทีที่ 31 โดยเคาท์ป้ายบอลจากกราบขวาให้ฮาเวียร์ มาสเคราโน่สับไกจากระยะ 25 หลาถูกฮาร์ทปัดพ้นคานได้อย่างเฉียดฉิว




ถัดจากนั้นเกมก็กลับมาตกอยู่กับหงส์แดงอีกคำรบ แต่เข้าสู่นาทีที่ 42 ทีมลูกโลกก็สบโอกาสเคาน์เตอร์แอทแท็คแล้วคาเมร่อน เจอโรมแทงบอลทะลุช่องให้เบนิเตซกระชากเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปซัลโว แต่โฆเซ่ เรน่าออกมาปิดมุมทันจึงบีบให้ลูกยิงของหอกผิวสีหลุดเสาแรก




จากนั้นในช่วงทดเวลาเจ็บ ริเอร่าก็มีปัญหาบาดเจ็บจนฝืนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้เจอร์ราร์ดถูกส่งลงมาแทนทันที แต่แล้วนาทีที่สามของการทดเวลาเจ็บสาวกหงส์ก็ช็อกตาตั้งเมื่อสเคอร์เทลโยนบอลเปิดเกมแย่ไปเข้าทางให้เลียม ริดจ์เวลล์กระดกกลับมาในแดนเจ้าบ้านแล้วมาสเคราโน่เบียดแย่งกับเจอโรมไม่ดีพอ กองหน้าทีมเยือนจึงตะบันจาก 30 หลาหลังเห็นว่าเรน่าออกมาจากเส้นประตูเยอะ ส่งบอลลอยข้ามจังหวะกระโดดปัดของนายทวารสแปนิชเข้าประตูอย่างงดงาม จบครึ่งแรกเบอร์มิ่งแฮมจึงแซงนำเหลือเชื่อ 2-1




ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 49 จากการสับไกหน้าเขตโทษของลูคัส แต่บอลพุ่งไปตรงตัวฮาร์ท




ทว่านับจากนั้นเกมของเร้ด แมชีนก็ด้อยพิษสงลงไปอย่างเห็นได้ชัด ต้องรอจนกระทั่งนาทีที่ 63 กว่าจะได้เสียวเมื่อเกล็น จอห์นสันลุยขึ้นมาตักบอลเข้าหาเสาแรกให้เจอร์ราร์ดโถมโขกแปดหลา แต่บอลพุ่งไปชนเสาทั้งๆที่ฮาร์ทไม่ทันได้ขยับแล้ว




จากนั้นอีกนาทีเดียว แม็คฟาดเด้นก็โดนจดชื่อโทษฐานเข้าขวางเคาท์ล้ม และถึงนาทีที่ 68 แม็คฟาดเด้นก็ถูกเปลี่ยนออกโดยมีเกรกอรี่ วิญาลอดีตเด็กเก่าลิเวอร์พูลลงไปแทน




จวบจนนาทีที่ 71 ทีมเยือนก็โชคร้ายเสียลูกโทษทั้งๆที่เอ็นก๊อกพุ่งล้มในเขตโทษโดยที่ไม่ได้ถูกลี คาร์สลีย์สกัดล้ม และผู้ตัดสินก็มาแจกใบเหลืองให้กับคาร์สลีย์และเอ็นก๊อกข้อหาโต้เถียงกันก่อนที่สตีวี่ จีจะสังหารนิ่มๆพาลิเวอร์พูลตีเสมอเป็น 2-2




เข้าอีหรอบนี้ เครื่องจักรสีแดงจึงเดินหน้าล่าประตูที่สามอย่างขมักเขม้น และเกือบได้เฮในนาทีที่ 74 เมื่อเบนายูนได้ตะบันเหน่งๆในเขตโทษด้านซ้าย แต่ฮาร์ทเซฟที่เสาแรกได้เยี่ยม




ช่วงที่เหลือ ยังเป็นเจ้าบ้านที่พับสนามลุยแหลก กระทั่งนาทีที่ 77 เบนายูนก็เดี้ยงอีกรายจึงเดินออกไปให้ไรอัน บาเบิ้ลลงมาแทน




นาทีที่ 81 เจ้าถิ่นน่าได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เจอร์ราร์ด หลุดไปทางกราบขวา แล้วเปิดเข้ามาตรงกลาง เอ็นก๊อก เข้าชาร์จที่เสาแรก แต่บอลไม่เข้ากรอบ แล้วนาทีที่ 83 ราฟา เบนิเตซ เปลี่ยนตัวสำรองคนสุดท้าย ด้วยการส่ง อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ ลงมาแทน ลูคัส เลยว่า แต่สุดท้ายเร้ด แมชีนก็ได้แค่เสียวเท่านั้น หมดเวลาทั้งคู่จึงเจ๊ากันไปด้วยสกอร์ 2-2




รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล: โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลยว่า - เดิร์ค เค้าท์ (กัปตันทีม), ยอสซี่ เบนายูน, อัลเบิร์ต ริเอร่า - ดาวิด เอ็นก๊อก

สำรอง: ดีเอโก้ คาวาเลียรี่ (ผู้รักษาประตู) - อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โซติริออส คีร์เจียกอส, ไรอัน บาเบิ้ล, เจย์ สเปียริ่ง, สตีเฟ่น ดาร์บี้



เบอร์มิ่งแฮม: โจ ฮาร์ท - สตีเฟ่น คาร์, โรเจอร์ จอห์นสัน, สกอตต์ แดนน์, เลียม ริดจ์เวลล์ - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ลี โบว์เยอร์, เตมู เตนิโอ, เจมส์ แม็คฟาดเด้น - คริสเตียน เบนิเตซ, คาเมรอน เจอโรม

สำรอง: ไมค์ เทย์เลอร์ (ผู้รักษาประตู) -  เควิน ฟิลลิปส์, โจวานนี่ เอสปิโนซ่า, แกรี่ แม็คเชฟฟรี่ย์, ฟร้องก์ เกอดรู, ลี คาร์สลี่ย์, เกรกอรี่ วิญาล


http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091110_032.html

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์