หงส์ฝันพังพ่ายเซา เปาโล 0-1 ชวดแชมป์สโมสรโลก

หงส์ฝันพังพ่ายเซา เปาโล 0-1 ชวดแชมป์สโมสรโลก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 ธันวาคม 2548 19:34 น.

หงส์แดง ลิเวอร์พูล โดน เซา เปาโล ยิงนำไปก่อนในช่วงต้นเกมจากนั้นเป็นฝ่ายพับสนามบุกทีมดังจากบราซิลแทบฝ่ายเดียว ในครึ่งหลังแต่สุดท้ายทำได้แค่เฉี่ยว ครบ 90 นาที พ่ายไป 0-1 ส่งผลให้ เซา เปาโล คว้าแชมป์ฟุตบอลฟีฟ่า คลับ เวิลด์ แชมเปี้ยนส์ชิพ ไปครอง เมื่อวันอาทิตย์ (18 ธ.ค.)

ฟุตบอลฟีฟ่า คลับ เวิลด์ แชมเปี้ยนส์ชิพ รอบชิงชนะเลิศ
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 0 เซา เปาโล (บราซิล) 1
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกรอบชิงชนะเลิศ ที่ประเทศญี่ปุ่น ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป พบกับ เซา เปาโล แชมป์โซนอเมริกาใต้ เกมนัดนี้ หงส์แดง เปลี่ยนผู้เล่นจากรอบตัดเชือกหลายราย โดยถอด ปีเตอร์ เคร้าช์, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, โฆเซมี่, ฌิมี่ ตราโอเร่ และ ฌิบริล ซิสเซ่ เป็นตัวสำรอง ส่ง หลุยส์ การ์เซีย, เฟร์นานโด มอริเอนเตส, สตีฟ ฟินแนน, แฮร์รี่ คีเวลล์ กับ สตีเฟ่น วอร์น็อค ลงตัวจริง ขณะที่ เซา เปาโล เป็นชุดเดิม มี ซิซินโญ่ และ อโมโรโซ่ เป็นตัวชูโรง

บรรยากาศที่สนามอินเตอร์เนชั่นแนล ในเมืองโยโกฮาม่า ในวันนี้ แน่นขนัดผิดจากรอบที่ผ่านมา ในส่วนของรูปเกมช่วงต้น ลิเวอร์พูล ได้บุกก่อนและเพียงนาทีที่ 2 เจอร์ราร์ด หลุดไปเปิดบอลที่สุดเส้นลูกเข้าหัว มอริเอนเตส ได้โขกจ่อๆ ทว่าบิดมากไปหลุดเสาออกอย่างน่าเสียดาย

เกมต้องหยุดไปพักใหญ่เมื่อแฟนบอลจอมป่วนลงมาในสนาม และกระโดดใส่ตาข่ายจนพังทำให้ต้องใช้เวลาซ่อมแซมพอสมควร จากนั้น เซา เปาโล เริ่มกดดัน ลิเวอร์พูล ได้มากขึ้น จนถึงนาทีที่ 22 ฟาเบา จ่ายเข้าช่องกลางมาให้ อโมโรโซ่ ทำชิ่งกับ อลอยซิโอ ก่อนที่ อโมโรโซ่ จะได้ยิงตรงกรอบเขตโทษ ทว่าไม่แรง เรน่า ดักทางรับเอาไว้ได้

ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกแลกกันสนุก จนถึงนาทีที่ 27 เซา เปาโล ได้ประตูออกนำไปก่อน เป็น อลอยซิโอ ถอยตัวลงต่ำก่อนจะตักไปให้ มิเรโร่ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแปผ่านมือ เรน่า ซุกก้นตาข่าย 1-0 สำหรับทีมจากบราซิล โดยลูกนี้เป็นประตูแรกที่ ลิเวอร์พูล เสียให้กับคู่แข่งในรอบ 12 นัด

โดนไปก่อน ลิเวอร์พูล พยายามเร่งเกมเร็วทันที จนถึงนาทีที่ 29 เกือบจะมาตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกเตะมุมของ ชาบี้ อลอนโซ่ วางไปที่เสาแรกให้ หลุยส์ การ์เซีย โฉบเข้ามาโขกเปลี่ยนทางโชคร้ายบอลไปชนคานเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย จากนั้นอีก 3 นาทีต่อมา อลอนโซ่ ตักเข้าเขตโทษให้ การ์เซีย คนเดิมโขกแต่หลุดเสาออกไปอีก

ท้ายเกมยังเป็นการแลกหมัดกันคนละที จนถึงนาทีที่ 39 ลิเวอร์พูลน่าจะตีเสมอได้อีกครั้งจากลูกฟรีคิกของ เจอร์ราร์ด เปิดไปให้ การ์เซีย โฉบมาเล่นที่เสาแรกหวิดเปลี่ยนทางหวังเสียบเสาสองทว่า เชนี่ ปัดออกไปได้สุดปลายมือ จบ 45 นาที เซา เปาโล นำอยู่ 1-0

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัว โดย ลิเวอร์พูล ยังลงมาตั้งหน้าตั้งตาบุกเช่นเดิม จนถึงนาทีที่ 52 หงส์แดง น่าจะตามตีเสมอได้อย่างที่สุด เป็น เจอร์ราร์ด ปั่นฟรีคิกร่วม 30 หลา ลูกพุ่งจะเสียบเสาสอง ทว่า เชนี่ ยังไม่พลาดลอยตัวปัดข้ามคานออกไปได้

ลิเวอร์พูล บุกกดดัน เซา เปาโล อย่างหนัก จนถึงนาทีที่ 60 ก็สามารถส่งลูกเข้าซุกก้นตาข่าย เมื่อ อลอนโซ่ วางจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ หลุยส์ การ์เซีย โขกผ่านมือ เชนี่ เข้าไป ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงว่ามิดฟิลด์ชาวสเปนล้ำหน้าเสียก่อน

ผ่านไป 1 ชั่วโมงเต็มเกมเป็นของลิเวอร์พูลเกือบทั้งหมด จนถึงนาทีที่ 69 เจอร์ราร์ด ได้เปิดให้ มอริเอนเตส เข้าชาร์จ แต่กองหลังสกัดออกมาได้ ยังเข้าทาง สตีวี่ จี อีกครั้ง คราวนี้กระหน่ำด้วยขวา ทว่ายังตรงตัวของนายทวารอยู่ดี

ท้ายเกม ลิเวอร์พูล ดาหน้าบุกแหลก ก่อนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ จะเปลี่ยนัวสองคนรวดในนาทีที่ 79 ส่ง ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ และ ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ ลงมาแทน สตีเฟ่น วอร์น็อค กับ โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ ก่อนที่ ปีเตอร์ เคร้าช์ จะลงมาแทน มอริเอนเตส ช่วง 5 นาทีสุดท้าย

จนถึงนาทีที่ 89 ลิเวอร์พูล ส่งบอลเข้าตาข่ายอีกครั้งแต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินก็ยกธงว่า หลุยส์ การ์เซีย ล้ำหน้าก่อนเสียอีก หลังจากนั้น แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะบอมบ์แหลกแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ครบ 90 นาที เซา เปาโล เอาชนะไป 1-0 คว้าแชมป์ไปครอง


รายชื่อผู้เล่นผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล - โฮเซ่ เรน่า, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, สตีเฟ่น วอร์น็อค, หลุยส์ การ์เซีย, โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้, ชาบี้ อลอนโซ่, สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด, แฮร์รี่ คีเวลล์, เฟร์นานโด มอริเอนเตส
เซา เปาโล - โรเจริโอ เชนี่, ซิซินโญ่, ฟาเบา, เอ็ดคาร์ลอส, ดิเอโก้ ลูกาโน่, จูเนียร์, มิเนโร่, โจซู, ดานิโล่, มาร์โช อโมโรโซ่, อลอยซิโอ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์