หงส์ปีกหัก! ลูคัสใบแดง โดนหม้อสอนบอล 2-0

สงสัยหงส์แดงลิเวอร์พูลคงต้องให้เครดิตฝ่ายตรงข้ามไปจนกระทั่งจบฤดูกาลหลังบุกมาโดนสโต๊ค ซิตี้บุกหนักทั้งบอมบ์ทั้งทุ่มไกลแบบโงหัวไม่ขึ้นจนท้ายที่สุดแพ้หมดรูป 2-0 หล่นมาอยู่อันดับ 11 และเป็นการแพ้นัดที่ 5 จาก 13 นัดเข้าให้แล้วแต่เดอะค็อปสองจิตสองใจหลังลูคัส เลว่าเข้าบอลโฉ่งฉ่างเจอไล่ออกช่วงทดเจ็บติดแบนนัดหน้าแน่นอน

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 13. พฤศจิกายน 2553


สโต๊ค 2-0 ลิเวอร์พูล

ประตู : 1-0 ฟูลเลอร์ น.56,2-0 โจนส์ น.90+1


รอย ฮอดจ์สันเรียกไฟล์เดิมจากนัดที่แล้วส่งผู้เล่นหน้าเดิมลงทั้งหมดยกเว้นมาร์ติน เคลลี่ที่กลับไปนั่งสำรองเพื่อหลีกทางแบ็คขวาให้เจมี่ คาร์ราเกอร์ที่หนีคียเกียกอสมาอีกต่อนึง

ส่วนช่างปั้นหม้อหมายมั่นจะเอาชนะลิเวอร์พูลเป็นหนแรกในรอบ 26 ปีและส่งผู้เล่นตัวเป้งอย่างเคนวิน โจนส์และริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ลงยืนหอกโดยมีเจอร์เมน เพนแนนท์ปีกลิงกังอดีตเด็กเก่าลงป่วนด้วย

ครึ่งแรก

หงส์รับทันที
มาถึงช่างปั้นหม้อก็เริ่มบุกใส่กดดันตามแผนที่วางไว้ทันทีทำให้เหมือนภาคต่อนัดที่แข้งลิเวอร์พูลบุกไปยันวีแกนลิ้นห้อยแถมช่วงนาทีที่ 5 ต้องเผชิญกับการรับมือลูกทุ่มของรอลี่ ดีแลปเป็นครั้งแรกและมักซี่เบียดจนฟูเลอร์ล้มลงก่อนแฟนเจ้าถิ่นจะร้องเอาจุดโทษยังดีผู้ตัดสินมาร์ค ฮัลซี่ย์ยังให้เล่นต่อ

หงส์ป่วนหนัก
ผ่านมาจะ 10 นาทีแล้วตอนนี้หงส์แดงยังไม่สามารถแงะบอลออกจากแดนตัวเองได้จะมีอยู่ครั้งนึงก็ตอนได้ฟรีคิกกลางสนามแต่ลูคัสดันไปเลือกเล่นเร็วโยนให้ตอร์เรสเลยไม่รู้กันจากนั้นก็ต้องมาตั้งรับกันใหม่จนเกือบโดนก่อนหลังลูกทุ่มไกลของดีแลปทำให้แนวรับทีมเยือนต้องเคลียร์ทิ้งก่อนที่จะล้นออกมาจากนอกเขตแล้วเป็น วิ่งมายิงเต็มข้อเรน่าพุ่งปัดทิ้งออกหลัง

จังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมของเพนแนนท์เป็นเควินโจนส์ที่เบียดจนคีย์เกียกอสล้มลงแล้วได้เทคโขกบอลหลุดข้างเสานิดเดียว

ไวท์เฮดส่องข้ามมคาน
มาอีกแล้วสโต๊คนาที 13 คีย์เกียกอสโขกเอาชนะเควินโจนส์ได้แต่บอลกระเด้งออกมาเข้าทางปืนไวท์เฮดที่ไม่มีใครประกบบอลพุ่งแหกข้ามคานออกไป

หงส์ได้ลุ้นจากเตะมุม
โอกาสแรกของลิเวอร์พูลบังเกิดขึ้นในนาที 16 จากลูกเตะมุมของเจอร์ราร์ดแล้วเป็นคีย์เกียกอสพุ่งมาโขกแต่เจอเบียดสองตัวบอลเลยไม่เข้ากรอบแล้วแฉลบเคาท์ที่ยืนอยู่ข้างๆเสาบอลออกข้างมุมธง

ลิงกังเกือบแก้แค้น!
อีก 3 นาทีต่อมาเจอร์เมน เพนแนนท์เกือบยิงทีมเก่าหลังลูกทุ่มไกลของดีแลปนัวเข้ามาในเขตโทษแล้วบอลโหม่งเช็ดมาตกตรงระยะ 5 หลาแต่ลิงกังยิงไม่ถึงหลังเจอคอนเชสกี้บังเอาไว้ก่อน

เด็กปู่รอยลิ้นห้อย
ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วตอนนี้แชมป์ 18 สมัยรับกันอย่างเดียวแงะไม่ออก พอเก็บบอลได้จะต่อกันขึ้นมาจะตายคนที่รับบอลไปต่อทันทีเพราะเจอเข้าบีบเร็วถ้าไม่คืนหลังก็ต้องสาดทิ้งอย่างเดียวเหมือนวันที่เสมอวีแกนเป๊ะแต่วันนี้ดูแย่กว่าเพราะรับตั้งแต่นาทีแรกจนถึงตอนนี้ก็ร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วแถมเจอลูกทุ่มไกลของดีแลปอยู่เรื่อยๆ

ขิงเกือบยิงพลิกนำ
แต่นาที 29 เจอร์ราร์ดเกือบปลดล็อกให้ทีมหลังยิงไกลเต็มข้อเดือดร้อนเบโกวิชต้องล้มตัวปัดทิ้งข้างเสาเอาเตะมุมไว้ก่อน

จากนั้นลูกเตะมุมโดนโหม่งเคลียร์ทิ้งออกมาแล้วเมเรเลสเก็บตกหาเหลี่ยมก่อนยิงด้วยอีซ้ายบอลพุ่งเลียดเข้ามุมแต่เบโกวิชที่ช่วงนี้ฟอร์มดีจนยึดมือหนึ่งจากโซเรนเซ่นล้มตัวรับหนึบ

เอเธอริงตันหวิดเฮ
นาที 33 ลิเวอร์พูลกลาดแดงกลางเสียบอลจนทำให้สโต๊คสวนกลับและเกือบขึ้นนำหลังเควินโจนส์กระชากหลุดเข้าในกรอบเขตโทษฝั่งขวาแล้วปาดเลียดให้เอเธอริงตันปีกผีพนันเข้าสไลด์แยงตัดหน้าคาร์ราเกอร์แต่บอลแฉลบเฉี่ยวเสาออกไป

หม้อพับบุกเต็มสตีม
จากนั้นสโต๊คยังเจ๊าะแจ๊ะไปเรื่อยๆเนื่องจากมีผู้เล่นที่มีความเร็วและพาไปกับบอลได้ดีหลายคนทั้งเอเธอริงตัน,ฟูลเลอร์,เพนแนนท์และโจนส์ทำให้แนวรับลิเวอร์พูลต้องเข้าซ้อนกันหลายคนแถมทดเจ็บเกือบเสียประตูหลังไปพรวด 3 ตัวปล่อยให้วินกินสันหลุดกระชากไปยิงในกรอบเขตโทษด้วยอีซ้ายยังดีสเคอร์เทลบล็อกทันเวลา หมด 45 นาทีแรกเป็นสโต๊คที่ชนะคะแนน 10-5 และหากยังเป็นแบบนี้อีกหงส์แดงสุ่มเสี่ยงกับการโดนเหลือเกิน

ครึ่งหลัง

หงส์โดนแล้ว 1-0
ครึ่งหลังรูปเกมยังเหมือนเดิมและนาที 56 ลูกทุ่มไกลของดีแลปแผลงฤทธิ์จนได้หลังทุ่มแล้วบอลนัวเนียในเขตโทษแนวรับหงส์แดงช่วงกันเคลียร์ทีละหนสองหนแต่ไม่ออกซักทีจนฟูลเลอร์ก็ยิงจิ้มเผาขนเข้าไปเลย

โจนส์ยิงเฉี่ยว
เจ้าถิ่นคราวนี้เล่นอย่างสบายใจนาที 62 ลูกบอมบ์ยาวจากกลางสนามให้เคนวิน โจนส์เบียดชนะสเคอร์เทลก่อนหลุดเข้าไปซัดมุมแคบในเขตโทษบอลค่อยๆกลิ้งผ่านเสาไกลออกไปนิดเดียว

มักซี่ชวดตีเสมอ
อีกนาทีถัดมาโอกาสที่สวยที่สุดในเกมนี้ของลิเวอร์พูลเกือบตีเสมอได้หลังเคาท์บังบอลหนีไวท์เฮดจนหลุดไปถึงเส้นหลังในกรอบแล้วแปตั้งให้มักซี่วิ่งยิงบอลพุ่งตรงตัวเกือบลอดดากโเบโกวิชยังดีที่พ่อแม่สอนมาดีเลยไม่ค่อยยืนถ่างทำให้หนีบทัน

หงส์มาอีกหน
จากนั้นไม่นานจังหวะเตะมุมของลิเวอร์พูลคีย์เกียกอสวิ่งมาโขกตั้งท่เสาสองแล้วสเคอร์เทลยิงหักข้อบอลหลุดเสาออกนิดเดียว

ปู่รอยขยับแล้ว
ปู่รอยรู้ชะตากรรมถึงทยอยส่งเอาตัวรุกลงมาเรื่อยๆทั้งเอ็นก็อกและบาเบิ้ลหมายจะเอาประตูตีเสมอให้ได้

เกมสุดหนัก
ตอนนี้เกมแอบเดือดเพราะทั้งฟูเลอร์และโจส์เริ่มเข้าบอลแบบตุกติกจนคีย์เกียกอสกับสเคอร์เทลหัวเสียจะเอาเรื่องกันแถมท้ายเกมเจอร์ราร์ดมาโดนฟูลเลอร์เข้าดับเครื่องชนตรงปีกขวาก่อนรับใบเหลืองไป

หงส์สิ้นท่าโดน 2-0
นาทีสุดท้ายหงส์แดงที่พยายามจะบุกเอาประตูก็มาโดนลูก 2 จนได้จากจังหวะที่เปิดบอลวางยาวโดนตเพนแนนท์ตัดได้ก่อนที่อดีตเก่าจะลากมาถึงหน้าเขตโทษแล้วแทงให้โจนส์หลุดเข้าเขตโทษแปสวนเรน่าเข้าไปง่ายๆแล้วจากนั้นไม่นานลูคัส เลว่าไปหวดเอเธอริงตันดื้อๆเลยรับใบเหลืองที่สองไล่ออกกันไป หมดเวลาช่างปั้นหม้อเอาชนะลิเวอร์พูลเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปีทำ 17 แต้มเท่าหงส์แดงแต่ประตูได้เสียดีกว่าเลยอยู่อันดับ 10 ส่วนเด็กปู่รอยหล่นมา 11 และแพ้เป็นนัดที่ 5 เข้าให้แล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

สโต๊ค
: อาเมียร์ เบโกวิช,โรเบิร์ต ฮูธ,ไรอัน ชอว์ครอส,แดนนี่ คอลลินส์ ,เจอร์เมน เพนแนนท์,รอรี่ ดีแลป,ดีน ไวท์เฮด,แมทธิว เอเธอริงตัน,ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ,เคนวิน โจนส์

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล ,โซติริออส คีย์เกียกอส,พอล คอนเชสกี้,ราอูล เมเรเลส(เอ็นก็อก น.66),ลูคัส เลว่า ,เดิร์ก เคาท์,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,มักซี่ โรดริเกซ(บาเบิ้ล น.73),เฟร์นานโด ตอร์เรส








เดบิต : SS


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์