หงส์บินสูง ดับผยองเชลซี อัดลูกโทษ 4-1 เข้าชิงแชมป์เปี้ยนลีค

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง

ปีเตอร์ เคร้าช์กลับมายืนเป็นศูนย์หน้า หลังจากนัดปอร์สมัชไม่ได้ลง

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1 - เชลซี (อังกฤษ) 0
(รวมสองเกมผลออกมาเสมอกัน1-1,ลิเวอร์พูลชนะดวลจุดโทษ4-1 )



หลังจากเกมแรก ที่เชลซีเปิดบ้าน อัดหงส์มาก่อน 1-0
เกมนัดสองที่สนาม แอนฟิลด์ ต้องการเพียงเสมอเท่านั้นก็สามารถเขี่ยหงส์แดง
ตกรอบได้

เกมนี้ หงส์แดง ปรับเปลี่ยนทัพ โดยได้ เจอเมน เพนเนนท์มาเป็นปีกขวา ส่งเซนเด้นเป็นปีกซ้าย และ ได้สตีฟ ฟินเนนกองหลังฝีเท้าจัดกลับมาคุมแบ็คขวาและส่ง 2เคาท์ลงเป็นคู่หน้า (เดิรค์ เค้าท์ กับปีเตอร์ เคร้าช์) และดร็อป ซาบี้ อลองโซ่เป็นตัวสำรอง

ด้าน เชลซี พบปัญหาการขาดผู้เล่นตัวหลัก โดยอังเดร เชฟเชนโก้ กองหน้าตัวหลัก, บัลลัค กองกลาง และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ที่ได้รับบาดเจ็บ
แต่ได้เอสเซียง เจ้าหมาบ้าพ้นการแบน กลับมา


เกมเริ่ม เชลซีตั้งรับลึก โดยส่งกองหน้าตัวเป้า ดิดีเยร์ ดร็อกบาไว้แดนหน้า

เจอราร์ดทุ่มเทวิ่งทั่วสนาม

ที่เหลือ ลงตั้งโซนรับในแดนตัวเอง โดยเกมนี้ค่อนข้างสูสีแต่หงส์ก็เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าถึง 71-29%


นาทีที่ 22 ของเกม หงส์แดง ขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูเดียวในเกมนี้
เมื่อหงส์ได้ลูกฟรีคิกส์ และใช้ลูกสูตร โดยส่งกองหลัง คาราเกอร์และปีเตอร์เคร้าช์เข้ารอที่กลางประตู และ สตีฟเฟ่น เจอร์ราร์ดทำหน้าที่เตะฟรีคิกส์ หลอกว่าจะเปิด
โด่งไปกลางประตู

แต่กลับจ่ายเรียดไปให้ แดเนียล แอกเกอร์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดันขึ้นสูง ตวัดยิงด้วยซ้ายข้างถนัด บอลพุ่งเรียดเบียดโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม


หลังจากนั้น ดร็อกบา จะมีโอกาสหลุดไปยิงจ่อๆ แต่ โฆเซ เรน่า ผู้รักษาประตูลิเวอร์พูล เซฟไว้ได้

แม้ว่าช่วงท้ายครึ่งแรกเชลซีจะเดินเกมบุกและเล่นได้ค่อนข้างดี และมีโอกาสหลายๆครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถปิดสกอร์ได้ จบครึงแรก หงส์นำ 1-0




เริ่มครึ่งหลัง เชลซี เปิดเกมรุกมากกว่าครึ่งแรก แต่กลับเป็นเจ้าบ้านที่น่าจะได้ประตูออกนำถึง 3 จังหวะต่อเนื่อง

เพนแนนท์ทอปฟอร์ม สร้างปัญหาให้ แอคลี โคล


จังหวะที่ 1 เจอร์เมน เพนแนนท์ ได้ครองบอลบริเวณริมเส้นด้านหลังประตูฝั่งขวา ก่อนเปิดเข้าไปกลางประตู ปีเตอร์ เคราช์ ขึ้นโหม่งกดลงพื้น บอลเกือบจะลอดขา ปีเตอร์ เช็ก นายทวารเชลซีเข้าประตู แต่เช็กยังไวหุบขาป้องกันไว้ได้ทัน


จังหวะถัดมา เป็น เบาเดอไวน์ เซนเดน เปิดจากฝั่งซ้าย คราวนี้เป็น เดิร์ก เคาท์ ได้โหม่ง บอลผ่านมือ เช็ก ไปแล้ว แต่ดันไปชนคานเต็มๆ จากนั้นเป็น เพนแนนท์ ได้ลูกส้มหล่นจากจังหวะที่ จอห์น เทอร์รี โหม่งสกัดพลาดมาเข้าทาง ได้ซัดด้วยขวาจ่อๆ แต่ไปแฉลบขา มิคาเอล เอสเซียง ลอยข้ามคานไป


อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 75 เชลซี พลาดโอกาสได้ประตูไปอย่างน่าเสียดาย

จากจังหวะที่ แอชลีย์ โคล ผ่านบอลมาหน้าประตู ดร็อกบา พุ่งเข้าชาร์จระยะไม่ถึง 2 หลา โดยมี เจมี คาร์ราเกอร์ วิ่งเบียด บอลโดนเท้า คาร์ราเกอร์ กระเด้งข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ จากนั้นไม่มีใครทำประตูได้เพิ่ม

ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูลชนะเชลซี 1-0 สกอร์รวม 2 นัด เสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที



ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แฟนลิเวอร์พูล ได้เฮเก้อ

จากจังหวะที่ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ยิงไกล ปีเตอร์ เช็ก ปัดมาเข้าทาง เดิร์ก เคาท์ ซ้ำเข้าประตู แต่เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน และก็เป็น เคาท์ ที่ได้ยิงอีกครั้งในช่วงท้ายเกม แต่ก็ไม่ผ่านมือ เช็ก

2นาทีสุดท้าย 2กุนซือเปลี่ยนตัวสำรอง โดยวางแผนเผื่อไว้เป็นคนยิงจุดโทษ
โดย ราฟาส่งศูนย์หน้าปาสเตอร์ยา ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ลงแทน

ครบ 120 นาที สกอร์รวมยังเสมอกัน 1-1



ทำให้ต้องดวลลูกที่จุดโทษตัดสิน และเป็นลิเวอร์พูลที่แม่นกว่า ยิงเข้าหมดทั้ง 4 คน

โดย ราฟาวางนักเตะคนสุดท้ายไว้คือ ฟาวเลอร์ แต่นักเตะหงส์ทั้ง4 คือ เซนเดน, ชาบี อลองโซ, เจอร์ราร์ด และ เคาท์ ยิงจุดโทษไม่พลาด แต่เชลซี ยิงเข้าเพียงคนเดียว คือ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เหลือทั้ง อาร์เยน ร็อบเบน และเฌเรมี เอ็นจิตั๊ป ยิงไปโดน โฆเซ เรน่า เซฟ ทำให้นักเตะคนสุดท้าย ฟาวเลอร์ไม่ต้องลงเตะ และทำให้ หงส์แดง ได้ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้เป็นทีมแรก

รอพบกับผู้ชนะระหว่าง ปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน และ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งจะแข่งกันในคืนวันที่ 2 พ.ค.



ทั้งนี้ นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ปีนี้ จะแข่งกันที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์