หงส์คมกริบเคี้ยวทอฟฟี่ 10 คนเละ 4-0

หงส์คมกริบเคี้ยวทอฟฟี่ 10 คนเละ 4-0


หงส์แดงโชว์ฟอร์มสุดยอดโดยถล่มคู่แค้นอย่างทอฟฟี่สีน้ำเงินที่เหลือ 10 คนในเกมดาร์บี้เละเทะ 4-0 แต่ต้องเสียหัวหอกฟอร์มแรงอย่างโอริกิไปด้วยอาการบาดเจ็บ

เจอร์เก้น คล็อปป์เปลี่ยมทีมถึง 10 ตำแหน่งจากการที่พักตัวหลักเกือบทั้งทีมจากเกมก่อนที่ชุดสำรองแล้วเอาชนะบอร์นมัธมาได้ 2-1 โดยมีลูคัสคนเดียวที่ได้รับโอกาสต่อซึ่งขยับขึ้นมาเล่นตัวตัดเกมแทนเอ็มเร่ ชานที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนแนวรุกยังมีคูตินโญ, เฟร์มิโน, ลัลลานาและโอริกิที่กำลังฟอร์มดีรับหน้าที่ล่าตาข่าย

ส่วนเอฟเวอร์ตันของโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ วันนี้ไม่มีตัวหลักหลายราย โดยจาเจียลก้าและโคลแมนมีอาการบาดเจ็บพลาดลงเล่น ทำให้ฟูเนส โมริกับโอเบียโด้ได้รับโอกาสแทน ปีกซ้ายขวาเป็นมิราลาสกับเลนนอนคอยสนับสนุนลูกากูในตำแหน่งหน้าเป้า

เริ่มเกมด้วยความคึกคักกันทั้งสองทีม และทีมเยือนมาสร้างโอกาสได้ก่อนในนาทีที่ 12 มิราลาสได้โอกาสยิงมุมกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดกรอบออกไป

นาทีที่ 21 คราวนี้เป็นทางฝั่งหงส์แดงบ้างที่ได้คูตินโญเลี้ยงบอลอยู่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะได้ปั่นโค้งไกลส่งบอลไปเสาสอง แต่ทิศทางไม่ดีพอ เฉี่ยวเสาออกไป

โอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดของเจ้าบ้านมาเกิดขึ้น โดยการตัดบอลได้แดนกลางก่อนที่จะแทงเร็วให้ลัลลานาหลุดเดี่ยวไปดวลกับนายทวารทีมท็อฟฟี แต่ความตั้งใจที่จะยิงลอดขาโจเอลไปติดขาหลังผู้รักษาประตูทำให้ไม่ผ่านเข้าไป เป็นเซฟที่ดีของมือกาวทีมเยือนในนาทีที่ 27

เข้าสู่นาทีที่ 39 โอริกิได้โอกาสยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลเบาเกินไป เข้ามือของโจเอลรับไว้ได้ไม่ยากเย็น

นาทีที่ 43 หงส์แดงมาได้ประตูขึ้นนำก่อน จากการโยนบอลทางซ้ายของเจมส์ มิลเนอร์เข้าไปหน้าประตู โอริกิเทคตัวขึ้นโหม่งส่งบอลเบียดเสาเข้าประตูให้เจ้าบ้านได้เปรียบ 1-0

ก่อนหมดเวลา ในช่วงนาทีสุดท้ายของการทดวลาบาดเจ็บ มิลเนอร์เล่นชิ่งกับลัลลานาหลุดมาทางซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนจะหยอดบอลมาเสาสอง ซาโก้ยืนอยู่โล่งๆ โหม่งเข้าไปให้หงส์แดงนำห่างก่อนจบครึ่งแรก 2-0 ก่อนผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

เริ่มครึ่งหลังมาได้หน้านาทีเท่านั้น สถานการณ์ของเอฟเวอร์ตันก็เลวร้ายลงไปอีก จากการที่ฟูเนส โมริไปย่ำข้อเท้าของโอริกิ ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่กองหลังอาร์เจนไตน์ออกไปทันที ทีมเยือนเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน อย่างไรก็ตามหงส์แดงก็ต้องเสียกองหน้าชาวเบลเยียมไปด้วยอาการบาดเจ็บจากจังหวะดังกล่าวด้วยเช่นกัน

ความได้เปรียบจากตัวผู้เล่นที่มากกว่าทำให้เจ้าบ้านมาได้ประตูที่สามในนาทีที่ 61 จากการจ่ายบอลขึ้นกลางพลาดของสโตนส์ ลูคัสตัดได้แล้วแทงบอลเร็วให้สเตอร์ริดจ์ที่ลงมาแทนโอริกิจับบอลแล้วแปเข้าไปให้สกอร์ห่าง 3-0

นาทีที่ 65 ลิเอวร์พูลเกือบได้ประตูที่สี่ โดยการลากขึ้นมาของมิลเนอร์ทางขวา ก่อนจะเปิดเลยมาเสาสอง คูตินโญได้วอลเลย์เต็มเท้า แต่บอลไปติดกองหลังทีมเยือนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

หงส์แดงได้ประตูเพิ่มอีกครึ่งหนึ่ง ในนาทีที่ 76 จากการขึ้นบอลทางฝั่งขวา ก่อนจ่ายออกซ้ายให้คูตินโญจับบอลหนึ่งที แล้วปั่นเรียดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาสองอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูลนำไปไกลแล้ว 4-0

ช่วงท้ายเกม หงส์แดงสามารถครองบอลเก็บบอลไว้ได้เกือบตลอดเวลา และมีโอกาสยิงอยู่เรื่อย โดยถึงตรงนี้ทีมเยือนได้ซัดเพียง 3 ครั้งเท่านั้น แต่เจ้าบ้านได้ง้างเท้าไปแล้วร่วมๆ 40 ครั้งเลยทีเดียว 

 

อย่างไรก็ตามประตูเพิ่มเติมไม่เกิดขึ้น ทำให้หมดเวลา 90 นาทีเต็ม ลิเวอร์พูลเอาชนะเอฟเอวร์ตันไปได้อย่าง่ายดาย 4-0 เก็บเพิ่มอีกสามคะแนน แซงเซาแธมป์ตันขึ้นไปอยู่อันดับ 7 ส่วมทีมเยือนยังรั้งที่ 11 ตามเดิม

ขอบคุณ Goal.com/th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์