หงส์ขยะไก่สอนเชิง2-1สเคอร์เทลโชวโง่ยิงโชวแฟนขยะหงส์

อีหรอบเดิม!หงส์อุดไม่อยู่ไก่ยิงแซงทดเจ็บ 2-1

หงส์แดงลิเวอร์พูลเล่นนอกบ้านส่งกลิ่นเหม็นอีกแล้วล่าสุดนำในครึ่งแรกดีๆแต่เจอทีเด็ดการไล่บดของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์แซงสองลูกรวดโดยประตูชัยมาจากแอร่อน เลนน่อนในช่วงทดเจ็บขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ส่วนทีมปู่รอยแช่นิ่งอันดับ 10

พรีเมียร์ ลีก

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2553


สเปอร์ส 2 : 1 ลิเวอร์พูล

ประตู :
0-1 มาร์ติน สเคอร์เทล น.42,1-1 มาร์ติน สเคอร์เทล(o.g.) น.65,2-1 แอร่อน เลนน่อน น.90+2

ครึ่งแรก

โมดริชวอลเล่ย์เบา
เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาที สเปอร์สก็ได้เสียวก่อนเลยจากจังหวะที่เลนน่อนโชว์สปีดพาบอลหนีผู้เล่นของลิเวอร์พูลไปจนสุดเส้นหลัง ก่อนที่จะตักย้อนหลังมาให้โมดริชได้วอลเล่ย์ แต่เหมือนจะไม่เต็มเท่าไร ทำให้บอลไม่แรง และตรงตัวของเรน่าเซฟไว้ได้

ไก่โคตรเซ็ง!ฟาร์ตเจ็บเอง
นาทีที่ 10 แฟนบอลสเปอร์สเซ็งสุดๆ เพราะตัวหลักอย่างฟาน เดอร์ ฟาร์ตมาเจ็บไปเองจากจังหวะที่พยายามจะฝืนตอกส้นในกรอบเขตโทษ ทำให้เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าซ้าย

เจ้าตัวเหมือนจะรู้ดีว่าเล่นต่อไปไม่ไหวแล้วถอดถุงมือออกทันที และเดินไปหาแพทย์สโมสรเพื่อบอกเล่าอาการ

ก่อนที่สเปอร์สจะส่งทางเจอร์เมน เดโฟลงมาเล่นแทน และปรับแผนเป็น 4-4-2 โดยมีเดโฟ และเคร้าซ์ยืนอยู่ในแดนหน้า

เกมไม่ต่างกัน
รูปเกมในช่วงแรกของทั้งสองทีมถือว่าไม่ได้ต่างกันสักเท่าไร เพราะยังถือได้ว่านักเตะทันกันพอสมควร มีจังหวะรุกรับผลัดกันไป แต่เจ้าบ้านจะเน้นลูกโด่งเยอะกว่าหน่อย

มักซี่ยิงเฉียบติดเซฟ
นาทีที่ 18 มักซี่ โรดริเกซวันนี้มาดีทีเดียว มีโอกาสลองส่องในกรอบเขตโทษก่อนเพื่อนหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะมาได้ลุ้นจากลูกยิงนอกกรอบ กดด้วยเท้าขวาเน้นๆ บอลพุ่งส่ายกำลังจะเสียบเสาใกล้ แต่ก็ถูกทางโกเมสพุ่งสุดเหยียดปัดออกหลังไปได้แบบเฉียดฉิว

หงส์เริ่มดูดีกว่่า
พอผ่านเข้าช่วง 25 นาีทีมา เกมที่ดูเหมือนจะไม่ขี่กันเท่าไร ก็เป็นลิเวอร์พูลที่ทำได้ดีกว่าทางสเปอร์สที่มักจะเสียบอลกันง่ายไปหน่อยในแดนกลาง ทำให้เร่งเกมบุกไม่ขึ้น และโดนทางทีมเยือนพาบอลไปกดดันได้เรื่อยๆ

เฮ่งเจียมาแล้วไง!
นาทีที่ 29 คอนเชสกี้ต้องสังเวยใบเหลือวให้แก่สปีด และพละกำลังของเบลจนได้่ จากจังหวะที่ปีกเฮ่งเจียพาบอลเบียดจากแดนกลางขึ้นมา ก่อนที่จะทะลุจี้เข้าถึงหน้ากรอบเขตโทษ ทำให้คอนเชสกี้ไม่มีทางเลือกต้องพุ่งเสียบสกัดเอาไว้แบบจะๆ โดนใบเหลืองไปตามระเบียบ

หงส์รอด!เดโฟซ้ำติดบล็อก
อีก 2 นาทีต่อมา สเปอร์สพลาดโอกาสขึ้นนำแบบงามๆไปอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะทุ่มให้กับโมดริชที่พุ่งไปเปิดยัดๆเข้าหน้าประตู เรน่าพุ่งออกมาจังหวะแรก แต่กลายเป็นตั้งให้กับเดโฟวิ่งเข้ามายิงเหน่งๆ แต่ด้วยความที่เป็นเท้าซ้ายทำให้ยิงได้ไม่หนีเท่าไร ถูกบล็อกของทางคาร์ราเกอร์ที่พุ่งมากันไว้ได้ทัน ไม่งั้นงานนี้มีหาย

อาถรรพ์!ไก่เสียกาบูลอีก
งานนี้สเปอร์สระส่ำแล้ว เพราะต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวนักเตะไปสองคน ทั้งๆที่ยังไม่จบครึ่งแรก เพราะทางกาบูลเกิดเจ็บขาจากจังหวะที่บล็อกลูกยิงของตอร์เรสจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องเปลี่ยนเอาบาสซงลงมาเล่นแทน

เหมือนกับว่าเป็นอาถรรพ์สำหรับ ไก่เดือยทอง เสียจริงสำหรับลิสต์นักเตะบาดเจ็บในตำแหน่งเซ็นเตอร์-ฮาล์ฟ เพราะทั้งคิง, ดอว์สัน และวู้ดเกตเองก็นอนโรงหมอกันอยู่แล้ว

เมเลเรสซัดไกลเกือบไป
อีก 4 นาทีต่อมา โกเมสเกือบโดนลูกยิงนอกกรอบแบบไม่ได้ตั้งตัวของเมเลเรสเล่นงานเอา บอลพุ่งแรง แถมยังฮุคลงก่อนที่จะถึงตัว ยังดีที่ล้มปัดออกหลังไปได้ชนิดที่เกือบจะไม่พ้นเสาอยู่แล้ว

หงส์นำแล้ว!สเคอร์เทลแอบเฮงยิงเฮ
นาทีที่ 42 ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำแบบส้มหล่นนิดๆ จากจังหวะฟรีคิกที่โยนเข้าไปในกรอบเขตโทษ สเคอร์เทลขึ้นแย่งโขกกับกองหลังของสเปอร์สไปโดนตัวของเอ็นก็อก ทำให้บอลกลับมาตกเข้าทางเขาพอดิบพอดีเลยจัดการดีดบอลเข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ หงส์แดง นำแล้ว 1-0

ตอร์เรสเคือง!มักซี่หลุดเดี่ยวพลาด
ช่วงทดเวลานาทีที่ 2 งานนี้อาจจะมีเคืองกันได้เลยสำหรับตอร์เรสที่อุตส่าห์หมุนตัวเกี่ยวตวัดบอลจ่ายทะลุช่องไปให้กับมักซี่หลุดไปดวลเดี่ยวอย่างสวยงาม แต่ปีกอาร์เจนไตน์กลับยึกยักไม่ยอมยิงจังหวะแรก พยายามไปแตะหลบทำให้เสียจังหวะโดนโกเมสรับบอลไปไว้ได้ พลาดแบบ .... น่าเสียดายจริงๆ ไม่รู้จะว่ายังไง

ก่อนที่จะหมดครึ่งแรกทั้งสเปอร์ส และลิเวอร์พูลก็มีโอกาสได้ลุ้นเสียวทั้งคู่ โดยเฉพาะทีมเยือนที่ตอร์เรสได้หลุดเข้ากรอบเขตโทษไปแล้ว แต่จังหวะยิงถูกทางบาสซงตามไปสกัดได้ทัน จบ 45 นาทีแีรก ลิเวอร์พูลออกนำไปก่อน 1-0

ครึ่งหลัง

ตอร์เรสเกือบอีก
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่นาทีเดียว สเปอร์สก็พลาดปล่อยให้ตอร์เรสวิ่งหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษได้อีกครั้ง แต่ด้วยสปีดที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้ถูกทางบาสซงวิ่งตามมาสไลด์บล็อกเอาไว้ได้ทันในจังหวะสุดท้าย พลาดโอกาสไปอีกครั้ง

เมเรเลสช่วยชีวิต!!
นาทีที่ 51 สเปอร์สน่าจะได้ลูกตีเสมออย่างแรง จากจังหวะที่เรน่าออกไปปัดบอลพลาดโดนไม่เต็มเท่าไร ทำให้บอลไปเข้าทางของเบลที่ยิงสวนจังหวะแรกทันทีโดยที่เรน่าหลุดตำแหน่งไปแล้ว แต่ยังโชคดีที่มีเมเรเลสยืนคุมเส้นอยู่ โหม่งสกัดออกมาได้ก่อนแบบหวาดเสียวไม่น้อย

สองอารมณ์!หงส์เสียจุดโทษ-ซาไกยิงพลาด
นาทีที่ 59 ถึงกับอินเทรนด์คำว่าสองอารมณ์เลยทีเดียว จากจังหวะที่ลิเวอร์พูลเสียจุดโทษเพราะเอ็กก็อกที่เป็นหนึ่งในตัวที่ยืนกำแพงบังฟรีคิกของเบล ดันไปชูมือขึ้นในจังหวะกระโดดบล็อกแล้วบอลโดนแขนเต็มๆ ผู้ตัดสินเลยชี้ให้เป็นจุดโทษทันที แม้ว่าผู้เล่นของลิเวอร์พูลจะพยายามประท้วงอยู่น่าจะเป็นลูกฟรีคิกนอกกรอบ แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

แต่กลับกลายเป็นว่าเดโฟที่รับหน้าที่สังหารในจังหวะนี้ กลับยิงพลาดซัดหลุดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ลิเวอร์พูลยังคงนำอยู่ 1-0

สเคอร์เทลเบิ้ล!แต่ยิงตัวเอง
นาทีที่ 65 สเคอร์เทลถึงกับเซ็งสุดๆ เพราะอุตส่าห์ทำประตูขึ้นนำให้กับลิเวอร์พูลได้ แค่กลับกลายเป็นว่ามาทำเข้าประตูตัวเองไปซะอย่างงั้น จากจังหวะที่โมดริชโชว์เทคนิคพักบอล ก่อนที่จะเลี้ยงกระชากหนีฝูงผู้เล่นของลิเวอร์พูลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วดีดเปิดกดดันไปเสาแรก โดยที่มีเคร้าซ์รออยู่ตรงกลางประตู ทำให้สเคอร์เทลไม่มีทางเลือกต้องล้มตัวสกัด จนกลับกลายเป็นผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป

ลิเวอร์พูลคงต้องพยายามเร่งเกมหน่อยแล้ว เพราะก่อนที่จะโดนตีเสมอเกมก็ดูเหมือนว่าจะตันๆไปหน่อย และปล่อยให้ทางสเปอร์สมีพื้นที่เล่นได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

หงส์ชักหงุดหงิด
ดูฟีลดูอาการของผู้เล่นลิเวอร์พูลแล้วเหมือนจะหงุดหงิดไม่น้อย เพราะมาโดนตีเสมอ แถมเกมนี้พวกเขาก็มักจะถูกเป่าฟาวล์บ่อยครั้ง รวมทั้งโดนใบเหลืองเยอะด้วย

และพอจะลุ้นเอาจุดโทษคืนบ้างผู้ตัดสินก็ไม่ว่าอะไร แต่จากที่ดูภาพช้ามันก็เป็นจังหวะที่ไม่ชัดเจน

ก็อกเจ็บ-โอริโอ้ลง
นาทีที่ 74 ดาวิด เอ็นก็อกมีอาการบาดเจ็บจนทำให้เล่นต่อไม่ไหว รอย ฮอดจ์สันกุนซือของลิเวอร์พูลจึงเปลี่ยนเอาฟาบิโอ ออเรลิโอลงไปเล่นแทน ซึ่งน่าจะดันเคาท์ขยับไปเล่นหน้าคู่กับตอร์เรส

เฮ่งเจียยิงติดบล็อก
นาทีที่ 80 เกมโยนจากด้านข้างของสเปอร์สทำให้เรน่าต้องออกแรงอยู่บ่อยๆ จนจังหวะนี้ก็ออกมาตัดบอลแล้วรับไม่อยู่ เพราะโดนผู้เล่นของสเปอร์สเข้ามาเบียด ทำให้เบลตามเก็บตกวอลเล่ย์จังหวะแรก แต่ก็ไปติดเซฟของเรน่าที่ยืนจังก้ารออยู่

จังหวะนี้นายทวารชาวสแปนิชถึงกับโวยผู้ตัดสินเลยว่าทำไมถึงไม่ฟาวล์ เพราะเขาโดนผู้เล่นของสเปอร์สเข้ามาเบียดกระแทกในจังหวะรับบอล

เมเรเลสยิงจรวด
อีก 4 นาทีต่อมา เมเรเลสเกือบที่จะทำประตูสุดสวยได้แล้ว จากจังหวะที่เขาได้บอลนอกกรอบเขตโทษ แม้ว่าจะเข้าซ้ายก็ยังคงยิงได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย บอลพุ่งแหวกอากาศอย่างกับจรวด แต่ก็เฉี่ยวเสาออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

เอ๋อเจ็บ-คีย์เกียกอสลง
นาทีที่ 86 ลิเวอร์พูลต้องเสียกัปตันทีมอีกคนไป จากจังหวะที่คาร์ราเกอร์ถูกทางเคร้าซ์เข้าปะทะจนทำให้บาดเจ็บ และในที่สุดก็เล่นต่อไม่ได้ ทำให้ต้องส่งคีย์เกียกอสลงไปเล่นแทน

จังหวะนี้คาร์ราเกอร์ออกอาการฉุนนิดหน่อย เพราะคีย์เกียกอสเตรียมตัวช้าไปนิด

ไก่เฮเก้อ!ซาไกซัดแ่ต่ล้ำ
อีก 3 นาทีต่อมา สเปอร์สเกือบจะได้ประตูชัยแล้ว จากจังหวะโยนยาวที่เคร้าซ์โหม่งชงจังหวะแรก ก่อนที่เลนน่อนจะตามโขกชงซ้ำอีกจังหวะให้กับเดโฟที่หลุดเข้าไปอัดเต็มตีนในระยะเผาขนแสกหน้าของเรน่าจนตาข่ายแทบขาด แต่หลังจากได้เฮไป ก็ต้องเซ็ง เพราะไลน์แมนตีธงว่าเป็นลูกล้ำหน้าไปแล้ว

ตัวละครลับ!เลนน่อนโผล่มาซัดชัย
ช่วงทดเวลานาทีที่ 2 อยู่ดีๆเลนน่อนที่ครึ่งหลังแทบจะหายไปจากเกมไม่เห็นหน้าเห็นตาก็โผล่มาช็อกแฟนลิเวอร์พูล จากจังหวะโยนยาวขึ้นไปข้างหน้าของสเปอร์สให้กับเคร้าซ์เบียดขึ้นโหม่งบอลกับกองหลัง แต่บอลก็เลยยาวไปตกพื้นก่อนหนึ่งจังหวะ ก่อนที่จะเป็นเลนน่อนที่โฉบเข้ามาพักอกก่อนหนีคอนเชสกี้เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะแปเลียดทันที แม้เรน่าจะปัดได้แต่ก็ไม่เพียงพอ บอลพุ่งเข้าประตู ทำให้สเปอร์สพลิกกลับขึ้นมานำเป็น 2-1

ท้ายเกมเลนน่อนเกือบมีโอกาสบวกประตูเพิ่ม จากความผิดพลาดของผู้เล่นลิเวอร์พูล แต่สุดท้ายก็ป้ายบอลผ่านหน้าประตูออกหลังไป

จบ 90 นาทีสเปอร์สพลิกกลับมาเอาชนะลิเวอร์พูลไปได้ 2-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปอร์ส :
โกเมส,ยูเนส กาบูล,วิลเลี่ยม กัลป์ลาส์,เบนอต์ อัสซู-เอก็อตโต้,อลัน ฮัตตัน,ลูก้า โมดริช,วิลสัน ปาลาซิออส,ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต,แกเร็ธ เบล,แอร่อน เลนน่อน,ปีเตอร์ เคร้าซ์

ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า,มาร์ติน สเคอร์เทล,เจมี่ คาร์ราเกอร์,พอล คอนเชสกี้,เกล็น จอห์นสัน,ลูคัส,ราอูล เมเรเลส,มักซี่ โรดริเกซ,เดิร์ค เคาท์,ดาวิด เอ็นก็อก,เฟร์นานโด ตอร์เรส


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์