หงษ์พ่าย ยับ 3-1

หงษ์พ่าย

หงส์มันแย่แพ้ทีมป.4!

หงส์แดงลิเวอร์พูลส่งอาร์เซนอลกลายเป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้หลังพลาดท่าบุกมาพ่ายเรดดิ้งยับ 3-1 ทั้งๆที่มีโอกาสนับไม่ถ้วนทำให้ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีตามหลังอาร์เซนอล 7 แต้มเท่าเดิมแต่ขวัญกำลังใจหายไปเพียบแล้ว


เรดดิ้ง 3-1 ลิเวอร์พูล

ประตู :
1-0 ฮันท์ (จุดโทษ) น.17,1-1 เจอร์ราร์ด น.28,2-1 ดอย์ล น.60, 3-1 ฮาร์เปอร์ น.66


ราฟาเอล เบนิเตซทำเซอร์ไพรซ์อีกแล้วหลังก่อนหน้านี้มีข่าวว่าอาจพักเจมี่ คาร์ราเกอร์ที่หากโดนอีกเหลือจะถูกแบนนัดเร้ดไฟท์ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้แต่กลับเลือกพักซามี่ ฮูเปียแล้วให้ยืนจับคู่กับดาวรุ่งแจ็ค ฮอบบ์แทนแต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือการส่งเอาสามหอกลงเล่นครบครันทั้งโวโรนิน,เคราช์และตอร์เรส

เริ่มเกมมาเป็นเจ้าถิ่นที่ไม่มีกลัวและพยายามเปิดเกมรุกชวนทะเลาะทันทีแต่แค่นาทีที่ 7 ลูกทุ่มไกลของริเซ่บอลมาตกตรงหน้าตอร์เรสตรงระยะ 8 หลาก่อนยิงเต็มข้ออัดลอดขาอินกิมาร์สสันแต่ไปตรงตัวฮาห์เนมันน์ที่เซฟทั้งตัวก่อนออกหลังเสียเตะมุมไป

เรดดิ้งใช้สไตล์วิ่งสู้ฟัดสู้กับหงส์และนาทีที่ 13 ก็ได้เสียวหลังได้เตะมุมแต่ทีมเยือนควักไม่ออกจากหน้าเขตโทษเลยถูกนวดอยู่สองสามทีก่อนลงท้ายด้วยการยิงของ ที่เรน่าตระครุบติดมือ

อย่างไรก็ตามอีก 4 นาทีต่อมาลิเวอร์พูลมาเสียจุดโทษสุดกังขาหลังเจมี่ คาร์ราเกอร์ไปเอาเท้ายื่นขวางจังหวะที่กุนนาร์สันกำลังทะลุเข้าเขตโทษแต่ผู้ตัดสินมาร์ริเนอร์ชี้ให้เป็นจุดโทษและแข้งทีมเยือนรุมประท้วงบอกนอกเขตขนาดไปปรึกษาไลน์แมนก็ยังยืนยันคำเดิมทำให้ฮันท์รับหน้าที่สังหารหลอกเรน่าไม่มีเหลือ เรดดิ้งออกนำ 1-0 แล้ว

อาการของหงส์แดงน่าเป็นห่วงหลังมาสเคราโน่จ่ายขวางสนามพลาดถูกฮันท์ฉกไปก่อนจะคืนให้คิทสันที่ดึงจังหวะหลอกแนวรับอยู่หน้าเขตโทษและไหลให้คอนวีย์วิ่งมาซัดด้วยอีซ้ายเต็มข้อบอลพุ่งเฉี่ยวสามเหลี่ยมนิดเดียวเท่านั้น

เกมทีมเยือนเป็นรองอย่างชัดเจนโดยเฉพาะพวกมิดฟิลด์ยังจ่ายบอลกันเสียทำให้กองหน้าที่ส่งมาสามตัวยังไม่ได้บอลสวยๆเลย

อย่างไรก็ตามนาที 27 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอหน้าตาเฉยจากจังหวะที่เรดดิ้งมาทำฟาว์ลหน้ากรอบประตูทีมเยือนเป็นเรน่าที่หวดเปิดโด่งออกมาถึงตอร์เรสที่พักอกสุดเนียนดึงกองหลังมาสองคนก่อนป้ายมาตรงกลางเขตโทษให้เจอร์ราร์ดวิ่งเบียดเอาชนะฮันท์ก่อนแปผ่านตัวฮาห์เนมันน์ที่พยายามออกมาปิดมุมเข้าไป สกอร์เสมอกัน 1-1 แล้ว

ช่วง 10 นาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลเริ่มได้ครองบอลอยู่ข้างเดียวแต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆเกินๆแต่ก็โชคร้ายของทีมเยือนด้วยเมื่อตอร์เรสเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนถูกซอนโก้เจตนาขัดขาหลังล็อกเข้าในแต่คราวนี้ผู้ตัดสินกลับทำเก๋าไม่ให้จุดโทษ

ก่อนหมดเวลาไม่กี่นาทีโวโรนินรับบอลจากมาสเคราโน่ก่อนกระชากหนีเข้าเขตโทษแต่มุมแคบทำให้ลูกยิงเต็มข้อถูกฮาห์เนมันน์ดักเสาทุบออกหลังเสียเตะมุม

จากนั้นหมดครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 1-1 โดยแผนสามหอกของหงส์แดงเหมือนจะไม่เวิร์คและตัวสำรองริมเส้นอย่างบาเบิ้ลและคิวล์น่าจะมีโอกาสในเกมนี้แน่

ครึ่งหลังให้น้ำให้ท่าผึ่งลมกันมา 15 นาทีลิเวอร์พูลไม่พูดพล่ามทำเพลงเปิดเกมรุกใส่เรดดิ้งทันทีและแค่ 2 นาทีอาร์เบลัวทุ่มให้เคราช์หลุดไปตบบอลจาเส้นหลัง

นาที 52 ฮอบบ์เกือบพังประตูแรกในนัดเปิดตัวพรีเมียร์ลีกหลังริสเซ่เปิดฟรีคิกด้วยซ้ายจากปีกขวาบอลข้ามฝูงนักเตะเป็นกองหลังดาวรุ่งที่สอดมาเสาสองคนเดียวโล่งๆแต่ตอนยิงตามน้ำหวดแป๊กบอลออกหลังอย่างน่าเสียดาย

ซอนโก้เหมือนจะเอาตอร์เรสไม่อยู่และมักจะโชคดีรอดตัวเสมอโดยจังหวะเอล นินโญ่กระชากหนีเข้าเขตโทษโล่งๆเป็นแข้งผิวหมึกมาสไลด์จากด้านหลังทับข้อเท้าหอกหน้าละอ่อนเต็มๆแต่ผู้ตัดสินยังเฉย

หงส์แดงยำใหญ่พับสนามแหลกและนาที 55 ได้ฟรีคิกไกล 25 หลาเป็นเจอร์ราร์ดเขี่ยให้ริเซ่วิ่งยิงบอลทะลุกำแพงแต่ไซด์หนีฮาห์เนมันน์ไม่มากเลยถูกปัดออกหลังไปได้

แต่ถึงหนึ่งชั่วโมงเรดดิ้งที่แทบไม่ได้บุกเลยก็มาขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่ฮันท์ติดเครื่องลากขึ้นมาแต่ถูกเจอร์ราร์ดอัดร่วงตรงหน้าเขตโทษเยื้องๆฝั่งขวาและเป็นชอร์ลี่ย์ที่ปั่นไซโด้วยอีซ้ายบอลหล่นลงพื้นไม่โดนใครเสียบตาข่ายชนิดเรน่าล้มตัวปัดไม่ทันแต่จากภาพช้าเหมือนถากเส้นผมดอย์ลนิดนึง และนาทีถัดมาราฟาส่งคิวล์ลงแทนตอร์เรสที่น่าจะมีอาการเจ็บจากจังหวะถูกซอนโก้เสียบ ดูท่าแล้วหงส์แดงมีแววแพ้เป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้ค่อนข้างสูง

นาที 63 ดอย์ลก็พลิกบอลหนีหน้าเขตโทษหมุนตัวตะบันด้วยอีซ้ายบอลพุ่งแสกคานออกไปแบบมีเสียว ตอนนี้เรดดิ้งเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆแล้ว

อีกสองนาทีต่อมาซิสโซโก้ใจใหญ่กระชากขึ้นมาเองพอถึงหน้าเขตโทษเห็นท่าไม่ดีเพราะมีกองหลังเพียบเลยไหลเบาๆให้เจอร์ราร์ดวิ่งมาปั่นไซด์โป้ง 30 หลาบอลชนคานดังสนั่นโดยที่ฮาห์เนมันน์ยืนมองเฉยๆแล้ว

และนาที 66 จังหวะสวนกลับของเรดดิ้งก็มาได้ประตูที่สามเมื่อคิทสันไหลจากริมเส้นให้ฮาร์เปอร์ซึ่งวิ่งทำทางบึ่งมาจากตรงกลางสนามทะลุหลุดเข้าเขตโทษแล้วมาล็อกหนีเรน่าก่อนยิงโล่งๆเข้าไปไม่มีเหลือ เรดดิ้งนำห่าง 3-1

อีก 3 นาทีต่อมาหงส์แดงยังพลาดโอกาสเองอีกหลังจังหวะต่อบอลกันขึ้นมาเป็นซิสโซโก้ที่เบิ้ลเร็วจังหวะเดียวให้คิวล์วิ่งหลุดเข้ามากดในเขตโทษด้วยอีซ้ายแต่บอลถากเสาไกลออกไปนิดเดียวเท่านั้นเอง

ราฟาเห็นลูกทีมใช้โอกาสเปลืองเลยถอดใจเปลี่ยนเอาเจอร์ราร์ดออกตั้งแต่นาที 71 แล้วส่วบาเบิ้ลมาแทนท่าทางจะเก็บตัวไว้ลุยกับมาร์กเซย์และสารภาพยอมแพ้ไปในตัวแล้ว ตอนนี้ผู้เล่นหงส์แดงคงต้องเอาตัวรอดกันเองแล้วหลังไร้ตัวเทพไปแล้วสองคน

นาที 74 คาร์ราเกอร์ทนไม่ไหวขึ้นมาเติมเกมรุกแล้วทำชิ่ง 1-2 กับโวโรนินจนหลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะตบเข้ากลางให้เคราช์แปดันแรงเกินไปเลยทำให้หอกร่างโย่งเข้าไม่ถึง

เกมรุกเมื่อไร้เจอร์ราร์ด,ตอร์เรสหรือแม้กระทั่งเกมรับที่ไม่มีคาร์ราเกอร์หลังราฟาเอาฮูเปียมาแทนเพื่อเลี่ยงติดแบนดูวังเวงเหมือนรอคอยความพ่ายแพ้ในสายตาเดอะค็อปอย่างบอกไม่ถูก

ช่วงเวลาที่เหลือลิเวอร์ลดความอันตรายลงไปอย่างชัดเจนทำให้เกมรุกขาดๆเกินๆแถมช่วงทดเจ็บเคราช์ยิงนอกเขตบอลชนเสาอย่างโชคร้าย

จากนั้นหมดเวลาลิเวอร์พูลแพ้เป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้และสถิติเสียประตูน้อยที่สุดก็หล่นไปอยู่อันดับสามโดยมีเกมสำคัญกับโอลิมปิก มาร์กเซย์ในวันอังคารนี้รออยู่อีก

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เรดดิ้ง :
มาร์คัส ฮาห์เนมันน์,แกรม เมอร์ตี้,อิบราฮิมา ซอนโก้(บิเคย์ น.81),อิวาร์ อิกิมาร์สสัน,นิคกี้ ชอร์รี่ย์,สตีเฟ่น ฮันท์,เจมส์ ฮาร์เปอร์,ไบรยาร์ กุนนาร์สสัน,บ็อบบี้ คอนเวย์(ลิต้า น.88),เควิน ดอย์ล,เดฟ คิทสัน

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : อดัม เฟเดริซี่,คลิฟ่า ซิสเซ่,เชน ลอง

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,อัลบาโร่ อาร์เบลัว,เจมี่ คาร์ราเกอร์(ฮูเปีย น.82),แจ็ค ฮอบบ์,ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด(บาเบิ้ล น.71),ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้,อังเดร โวโรนิน,ปีเตอร์ เคราช์,เฟอร์นานโด ตอร์เรส(คิวล์ น.61)

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : ชาร์ลส์ อีตองด์เช่,เดิร์ก เคาท์





















 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์