สู้ไม่ได้ทั้งฝีเท้า....และสมอง

สู้ไม่ได้ทั้งฝีเท้า....และสมอง


เคยบอกไว้แล้วนะครับว่าศึกเร้ดไฟท์ถ้าผลการแข่งขันออกเป็นลิเวอร์พูลที่แพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดผมจะรู้สึกแค่จี๊ดๆเหมือนโดนหยิกแก้มเพราะผมทำใจเตรียมรับเอาไว้ทุกครั้งที่เจอกันมาหลายปีแล้ว

เพียงแต่ครั้งนี้ให้อารมณ์เหมือนถูกต่อยซึ่งๆหน้าจากเพื่อนสนิทมากกว่า

ถ้าเดวิด มอยส์เข้ามาดูฟอร์มคู่ปรับร่วมเมืองหรือคิดจะเอาอะไรที่เป็นประโยชน์ออกจากเกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ดผมว่าคงมีแค่สกอร์ที่เป็นผลดีต่อเอฟเวอร์ตันเท่านั้นแหละครับ

นอกเหนือจากนี้แล้วหลังจบเกมนี้มันจะกลับคืนสู่สภาพเดิมทั้งหมด....

ปกติแล้วแดนกลางลิเวอร์พูลมักเป็นฝ่ายเก็บกินเอาชนะได้เสมอแต่งวดนี้กลายเป็นว่าปิศาจแดงเหนือกว่าถึงขนาดคนที่ช้าๆอย่างพอล สโคลส์เล่นสบายจนวางบอลข้ามหัวเซนเตอร์อยู่หลายครั้ง

สังเกตได้ว่าวันนี้ให้ใครมาวางยาวตัดหลังแบ็คโฟว์มีลุ้นแทบทุกลูกไม่เว้นแม้กระทั่งลูกหวดส่งเดชของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์!!

ส่วนมาร์ติน สเคอร์เทลที่เล่นดีมาหลายนัดก็แสดงให้เห็นว่าเกมใหญ่ที่แปลกๆอย่างเร้ดไฟท์เป็นอะไรที่เค้าต้องเรียนรู้อีกซักพักเพราะวันนี้กลายเป็นบ่อให้แข้งยูไนเต็ดเจาะหนีออฟไซด์อยู่หลายหน

เรื่องของเรื่องก็คือแข้งหงส์แดงเจอยูไนเต็ดที่ไหนเมื่อไหร่ก็ออกอาการเกร็งจนจิตวิตกทุกครั้ง คือจะบอกว่าสภาพจิตใจลูกทีมเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเองก็ไม่ได้นิ่งไปกว่าทีมเยือนซักเท่าไหร่แต่ด้วยคุณภาพของนักเตะทำให้เกมเมื่อวันอาทิตย์จึงเป็นชัยชนะที่เกิดขึ้นเพราะฝีเท้าล้วนๆไม่ใช่เรื่องดวงเรื่องโชคเหมือนที่ผ่านๆมาอีกแล้ว

คนแรกที่จิตหลุดชัดเจนคือโฆเซ่ เรน่าซึ่งอาการแต๋วออกตั้งแต่ตัดบอลคนเดียวแล้วเกือบปลิ้นเข้าประตู จำกันได้ไหมครับ

แม้ว่าในครึ่งหลังเซฟจะๆ 2-3 ครั้งแต่ลูกที่พลาดเป็นอะไรที่เบสิกถึงสองครั้งและแต่ละครั้งเป็นลูกชี้เป็นชี้ตายทั้งหมดอีกด้วย

สองจิตสองใจออกช้าเป็นผลทำให้นักเตะอย่างเวส บราว์นโหม่งพังประตูขึ้นนำโดยสเคอร์เทลซึ่งสูงกว่าไม่ยอมขึ้นเอาดื้อๆในขณะที่ลูกสองเรน่าปล่อยให้ปากประตูโล่งด้วยการออกมาชกลมแล้วก็เสร็จโด้จิ๋วง่ายๆ

อย่างไรก็ตามเรน่าทำพลาดก็จริงแต่ผมกลับเฉยๆเพราะเป็นการพลาดในเกมลูกหนังแต่สำหรับฮาเวียร์ มาสเคราโน่ผมไม่มีอะไรจะให้นอกจากคำว่าไร้ความเป็นมืออาชีพและไม่เคารพเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอล

คุณเล่นเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งเกินไปโดยหลงลืมหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้จัดการทีม ถ้าคุณจะเสียบรูนีย์หรือโรนัลโด้ในจังหวะที่กำลังหลุดไปทำประตูแล้วเกิดถูกไล่ออกขึ้นมาจริงๆคงไม่มีหมามีแมวที่ไหนกล้าตำหนิแน่นอน

แต่นี่รู้ทั้งรู้ว่ามีใบเหลืองติดตัวจากการเข้าบอลเปิดปุ่มโง่ๆตั้งแต่ต้นเกมและกลางสนามยังกล้าฮึดฮัดผู้ตัดสินสตีฟ เบนเน็ตต์ที่แสดงตัวอย่างให้เห็นด้วยการแจกใบเหลืองตอร์เรสที่เข้ามาบ่นไปก่อนแล้วด้วย

มาสเคฯเองก็ไม่ใช่เด็กอมมือถึงขนาดไม่รู้ว่าคุณไม่มีทางไปเปลี่ยนแปลงการตัดสินที่เกิดขึ้นไปแล้วหรือต้องสำเหนียกตัวเองซักเศษเสี้ยวของสมองกับการแขวนตัวเองเข้าไปอยู่ในความเสี่ยงแบบนั้น ขนาดชาบี้ อลอนโซ่ยังตะโกนโวยวายใส่เพื่อนที่เสียค่าโง่ครั้งนี้แบบไม่น่าให้อภัย

ตลกนะครับเนี่ย...ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายได้ฟาว์ลจากจังหวะที่ริโอ เฟอร์ดินานด์ชนตอร์เรสแท้ๆแต่กลับเป็นพวกเค้าเองที่ถูกไล่ออกจนแพ้ยับเยินแบบสู้ไม่ได้ 3-0

สมาธิและแผนที่เตรียมมาตลอดทั้งสัปดาห์ต้องจบเห่ด้วยเหตุการณ์บ้องตื้นง่ายๆ

เรายังไม่ลืมกันใช่ไหมครับว่าเกมของหงส์แดงเดินทัพด้วยสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดและในเมื่อกัปตันทีมคนเก่งวันนี้จ่ายบอลเสียเยอะจนน่าตกใจอาวุธที่เหลืออยู่หนึ่งเดียวและโดดเดี่ยวในแดนหน้าอย่างตอร์เรสก็ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงที่เนมันย่า วิดิชกับริโอ เฟอร์ดินานด์จะช่วยกันประกบและสลับกันซ้อนจนไปไม่เป็น

เดอะ การ์เดี้ยนยังเห็นดีเห็นงามขึ้นหัว Liverpool make it easy for United ซึ่งผมเชื่อว่าถึงแม้มาสเคราโน่ยังอยู่ในสนามก็ไม่มีอะไรมาการันตีว่าลิเวอรพูลจะกลับมาได้อยู่ดี

พูดก็พูดเถอะสมมุติฐานเรื่องนี้ให้น้ำแตกยังไงก็แล้วแต่มันจะไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อันใดขึ้นมาเลยเพราะมันเป็นพาส เทนส์ไปแล้ว

แต่การมาแพ้ภัยตัวเองแบบไร้สมองเช่นนี้ให้ความรู้สึกเจ็บปวดกว่าโดนยิงช่วงท้ายหรือทดเจ็บในเกมไหนๆซะอีกนะครับเนี่ย...

ขอบคุณข่าวสาระดีโดย เบน ฟรีคิก แห่งlentee