สะใจ!หงส์โดนก่อนแซงเฮผี 2-1

วันที่เดอะค็อปรอคอยมาถึงเมื่อลิเวอร์พูลภายใต้การนำของราฟาเอล เบนิเตซเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2004 หลังยิงแซงรวดเดียวสองประตูจากเทพบราว์นทำเข้าประตูตัวเองและไรอัน บาเบิ้ลก่อนหมดเวลา 13 นาทีนำจ่าฝูงชั่วคราวอย่างสุดยอด

ลิเวอร์พูล 2-1 แมนฯยูไนเต็ด

ประตู :
0-1 เตเบซ น.3,1-1 บราว์น (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.27,2-1 บาเบิ้ล น.77

สนาม : แอนฟิลด์

ศึกเร้ดไฟท์หยุดโลกวันนี้ราฟาเอล เบนิเตซใส่ชื่อสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดและเฟอร์นานโด ตอร์เรสไว้ที่ม้านั่งสำรองโดยใช้เดิร์ก เคาท์และร็อบบี้ คีนยืนหน้าคู่ส่วนปีกซ้ายเป็นอัลเบิร์ต ริอร่าแข้งตัวใหม่ลงประเดิมทันที

ด้านปิศาจแดงไม่รอช้าส่งดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟเปิดซิงยืนหอกสามตัวมีรูนีย์และคาร์ลอส เตเบซขนาบข้าง

ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเดินจับมือกับผู้เล่นยูไนเต็ดโดยฟาน เดอร์ ซาร์จับมือและทักทายกับเดิร์ก เคาท์เพื่อนร่วมชาติในขณะที่เบอร์บาตอฟและคีโน่ยิ้มร่าตบหลังกันอย่างสนิทสนม

เริ่มมาแค่นาทีเดียวเบอร์บาตวัดยิงเร็วในเขตโทษบอลถูกแขนสเคอร์เทลยังที่ดีฮาวเวิร์ด เวบบ์ไม่บ้าจี้ปล่อยให้เล่นต่อ

แต่แล้วนาทีที่ 3 ยูไนเต็ดขึ้นนำง่ายๆจากจังหวะที่เบอร์บาตอฟวิ่งไปเอาบอลถึงเส้นหลังก่อนตบเข้ากลางให้เตเบซวิ่งมาโล่งๆแปเลือกทางเหมือนอัดจุดโทษบอลเสียบตาข่ายหมดสิทธิ์ที่เรน่าจะทำอะไรได้ ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 แล้ว จากภาพช้าจังหวะที่เบอร์บาตบบอลเข้ามานั้นมีแข้งลิเวอร์พูลกรูเข้าไปหา 2 คนส่วนอันแดร์สันที่ยืนอยู่หน้ากรอบเขตโทษก็มีอีกสอง

หงส์แดงเลือดขึ้นหน้าลุยแหลกและนาทีที่ 6 ลูกขลุกขลิกหน้าประตูมาเข้าทางเคาท์ยิงแบบดีดๆบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

นาที 12 ลิเวอร์พูลน่าจะตีเสมอสุดๆเมื่อออเรลิโอเตะมุมฟาน เดอร์ ซาร์ถอยหลังคว้าไม่เต็มบอลหลุดมาตรงหน้าเคาท์ที่ยิงยัด 3 หลาแต่นายทวารร่างโย่งยังตะปบทั้งๆที่ยังนอนอยู่

เจ้าถิ่นได้เปรียบตรงที่หันหลังให้แสงอาทิตย์ดังนั้นต้องลูกเซ็ตพีซหรือเปิดบอมบ์ยัดใส่ฟาน เดอร์ ซาร์ต้องมีให้เยอะไม่งั้นครึ่งหลังจะเสียเปรียบแทนแต่นาที 21 เตเบซโดนใบเหลืองคนแรกหลังไปสอยอาร์เบลัวซะดิ้นพล่าน

แต่แล้วนาทีที่ 27 ในไม่ใช้กองทัพตัวเองเจาะไมได้เลยต้องยืมมือเทพของยูไนเต็ดแทนเมื่อลูกเปิดจากหน้าประตูของอลอนโซ่ไปแฉลบเอวร่าและเป็นฟาน เดอร์ ซาร์ที่วิ่งออกมาปัดบอลก่อนที่เคาท์จะเข้าถึงแต่โชคร้ายบอลไปถูกเวส บราว์นที่หวังดีพยายามตามริเอร่ามาเลยถูกขาค่อยๆกลิ้งเข้าประตูไปสุดเฮง เกมเสมอกันแล้ว 1-1

แต่แค่นาทีเศษๆทีมเยือนเกือบพลาดถูกขึ้นนำอีกเมื่อเบอร์บาตอฟเก็บบอลได้ก่อนป้ายออกให้อันแดร์สันตรงกรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วแข้งแซมบ้าแทงเลียดให้เตเบซวิ่งเข้าฮอร์ต 6 หลาดีดบอลเหินข้ามคานออกไปหวุดหวิด จังหวะนี้คาร์ราเกอร์แม้ช้ากว่าแต่ยังสไลด์แหย่เร็วเลยรบกวนสมาธิหอกอาร์เจนติน่าได้ดี

เกมกลับมาตรึงเครียดอีกครั้งเพราะทั้งสองทีมเล่นระมัดระวังกันแจ เรียกว่าบอลอยู่หน้าประตูก็หวดทิ้งไม่มีลังเล

ตอนเกมหยุดป้ายโฆษณาด้านหลังขึ้นเป็นภาษาไทยว่าสนใจสมัคร....แต่หน้าจออยู่แค่นี้เลยไม่รู้ว่าสมัครไหนกันแน่

ช่วงนี้หงส์แดงเริ่มขึงเกมพาบอลมาป้วนเปี้ยนหน้าประตูยูไนเต็ดได้มากขึ้นเรื่อยๆแต่จังหวะสุดท้ายยังพลาดกันเองทำให้ฟาน เดอร์ ซาร์เลยยังไม่ได้เซฟอะไร

ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียวลิเวอร์พูลต่อบอลกันดีทำเกมรุกขึ้นมาสวยแต่เคาท์ได้โอกาสยิงนอกกรอบบอลเบาไปหน่อยเพราะต้องย้อนยิงทำให้ฟาน เดอร์ ซาร์รับเข้าซองสบาย หมดครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลังพักให้น้ำกัน 15 นาทีริเรอ่าฉายแววเทพเมื่อกระชากจากริมเส้นทำท่าจะเข้ากลางแต่ป้ายออกปีกทางเดิมให้ร็อบบี้ คีนเปิดด้วยอีซ้ายบอลพุ่งน่ากลัวกำลังจะเข้าทางเคาท์ที่เสาสองแต่เอวร่าวิ่งมาเคลียร์ทิ้งออกหลังทันที

ลิเวอร์พูลกล้าเล่นต่อบอลกันได้ดีขึ้นอย่างชัดเจนและได้ลุ้นเสียว 2-3 ครั้งภายในระยะเวลาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น

นาที 53 ทีมเยือนได้ลุ้นบ้างหลังถ่ายบอลกันไปมาลงท้ายสโคลส์ตะบันไกลบอลติดไซด์แหกสามเหลี่ยมออกไปแบบเสียวเล็กน้อย

ยูไนเต็ดต้องดึงเกมช้าเพราะว่าตอนนี้เจอลูกคึกของหงส์แดงจนไปไม่เป็นแล้วและนาที 55 สุดยอดโอกาสของเจ้าถิ่นเมื่อคีนตวัดบอลโด่งข้ามหัวเซนเตอร์ให้เบนายูนตัดหลังวิดิชดูดบอลลงพื้นแต่มุมแคบมากเลยตวัดไปติดเซฟฟาน เดอร์ ซาร์ไดเตะมุม

อีกแค่นาทีเดียวลิเวอร์พูลได้เสียอีกเมื่อเคาท์พักอกตรงกรอบโทษฝั่งขวาก่อนแยงจิ้มให้มาสเคราโน่วิ่งมายิงบอลบดไปเข้าทางคีนที่จั่วลมบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

เลยหนึ่งชั่วโมงมาหนึ่งนาทีสเคอร์เทลมันเขี้ยวเติมเกมบุกมาเองก่อนทำชิ่ง 1-2 กับเคาท์หน้าเขตโทษแล้วตะบันยิงเต็มข้อแต่ฟาน เดอร์ ซาร์ยืนตำแหน่งดีกระโดดคว้ารับมือเข้ามือ

นาที 69 ลิเวอร์พูลเกือบพังหลังลิเวอร์พูลทำชิ่งให้เพื่อนสั้นอลอนโซ่เลยสไลด์แต่กิกส์แตะหนีได้ก่อนยิงลูกใบไม้ร่วงเรน่าต้องถอยปัดข้ามคานออกไปนิดเดียว

เกมแทบจะวันเวย์อยู่ข้างเดียวแต่หงส์แดงจบสกอร์ไม่เน้นกันเลยทำให้แบบนี้ยังไม่ดีเท่าไหร่เพราะยูไนเต็ดก็จ้องจะสวนกลับทำประตูอยู่ตลอด

แต่แล้วนาที 77 เจ้าถิ่นมาขึ้นนำ 2-1 จนได้จากจังหวะที่มาสเคราโน่ได้บอลจากเคาท์ตรงริมเส้นและดูเหมือนไม่รู้จะทำยังไงเลยลากกระชากไปเองโดยมีกิกส์ตามเบียดแต่โชว์เหนือแตะลอดดากและทำท่าจะถูกบังให้ออกหลังแต่หน้าง่วงตวัดบอลเข้ามาเป็นเคาท์วิ่งมาเก็บตกและป้ายตั้งให้บาเบิ้ลยิงเน้นๆโดนไม่เต็มแต่กลายเป็นดีบอลเสียบตาข่ายเข้าไป ต้องบอกว่ากิกส์เสียสุนัขเพราะคิดว่าบังบอลดีแล้วแต่ต้องเสียท่าในที่สุด

ก่อนหมดเวลา 5 นาทีราฟาทำท่าจะส่งเอ็นก็อกแทนร็อบบี้ คีนแต่มาสเคาโน่โบกมือบอกเจ็บไม่ไหวแล้วเอลบอสเลยต้องรีบมาล่กบอกผู้ตัดสินที่สี่ว่าอย่าเพิ่งๆเพราะคงจะต้องหาคนมาแทนมาสเคก่อน

ก่อนหมดเวลานาทีเดียววิดิชมาถูกไล่ออกหลังกระโดดโหม่งวิ่งชนแล้วมีศอกใส่อลอนโซ่ ตอนแรกเวบบ์ให้แค่ใบเหลืองเฉยๆแต่ผู้เล่นลิเวอร์พูลมาฟ้องจนต้องชักแดงให้อีกที

ช่วงทดเจ็บบาเบิ้ลโชว์เทพอีกเมื่อกระชากตรงเส้นหลังแคบๆหลุดเข้าเขตโทษก่อนตั้งให้เคาท์ยิงเหน่งๆแต่ดันไปติดเซฟฟาน เดอร์ ซาร์สุดช็อก

เวลาที่เหลือลิเวอร์พูลคุมเกมเอาไว้ได้หมดก่อนยื้อสกอร์เอาชนะยูไนเต็ดเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีและชนะในแอนฟิลด์นับตั้งแต่ปี 2001

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า 6,อัลบาโร่ อัลเบลัว 6,มาร์ติน สเคอร์เทล 8,เจมี่ คาร์ราเกอร์ 7,ฟาบิโอ ออเรลิโอ 7,ยอสซี่ เบนายูน 6(เจอร์ราร์ด น.68,5),ชาบี้ อลอนโซ่ 6,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 7(ฮูเปีย น.87),อัลเบิร์ต ริเอร่า 7(บาเบิ้ล น.71,8*),เดิร์ก เคาท์ 7,ร็อบบี้ คีน 6

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : คาวาเลียรี่,ดอสเซนน่า,ตอร์เรส,บาเบิ้ล,เอ็นก็อก

แมนฯยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟานเดอร์ ซาร์ 6,เวส บราว์น 5,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6,เนมันย่า วิดิช 6,ปาทริซ เอวร่า 5,เวย์น รูนีย์ 5,ไมเคิ่ล คาร์ริค 5(กิกส์ น.46,5),อันแดร์สัน 6(นานี่ น.78),พอล สโคลส์ 5(ฮาร์กรีฟส์ น.66,5),คาร์ลอส เตเบซ 7,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 6

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : คูสแซ็ค,อีแวนส์,โอเช,เฟลทเชอร์






















 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์