สถิแตก!หงส์บุกคว่ำเชลซี

หงส์แดงลิเวอร์พูลดับฝันเหล่าพลพรรคสิงห์โตพันล้านด้วยการบุกมาเอาชนะเชลซีถึงถิ่นจากประตูโทนแฉลบของชาบี้ อลอนโซ่ตั้งแต่นาทีที่ 10 ก่อนขึ้นนำจ่าฝูงเดี่ยวมี 23 แต้มและล้มสถิติไร้พ่ายในสแตมฟอร์ด บริดจ์เป็นครั้งแรกในรอบ 86 นัดหรือ 4 ปีครึ่งอย่างสุดยอดอีกด้วย

เชลซี 0-1 ลิเวอร์พูล

ประตู :
0-1 อลอนโซ่ น.10

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์


ช่วงต้นทั้งคู่พยายามต่อบอลเข้าทำกันและสลับกันเป็นฝ่ายครองเกมแต่พอหลังผ่านหนึ่งนาทีไปเชลซีเริ่มทดสอบแนวรับลิเวอร์พูลแล้ว

ช่วงนี้เคาท์ต้องลงมาช่วยเกมรับคอยหยุดแอชลีย์ โคลที่ดันขึ้นสูงเหมือนเป็นปีกซ้ายอีกตัวและนาทีที่ 4 อลอนโซ่ลื่นเสียบอลให้อเนลก้ากระชากหลัดเข้าหน้าเขตโทษก่อนที่คาร์ราเกอร์จะสไลด์ตัดแต่บอลไปเข้าทางเดโก้ที่วิ่งมากดเต็มเท้าบอลแฉลบพี่เอ๋อออกหลังเสียเตะมุม

เกมยังสูสีแต่เป็นเชลซีที่ครองบอลพาบอลมาป้วนเปี้ยนฝั่งลิเวอร์พูลมากกว่าและผ่านมาจะ 10 นาทีแล้วทีมเยือนยังไม่มีโอกาสได้ส่องหรือสร้างสรรค์โอาสมาถึงหน้าเขตโทษเลยแม้แต่ครั้งเดียว

แต่แล้วนาทีที่ 10 หงส์แดงขึ้นนำอย่างสุดช็อกจากจังหวะทุ่มบอลของอาร์เบลัวตรงมุมธงเป็นเคาท์โขกย้อยบอลโด่งเข้าเขตโทษโบซิงวาเตะเคลียร์ไม่ดีไปเข้าทางอลอนโซ่ที่วิ่งมายิงด้วยอีซ้ายบอลเหมือนจะไม่มีน้ำหนักมากแต่ไปแฉลบเทอร์รี่บอลเปลี่ยนทางจนเช็กหลงทางเสียบกลางประตูเข้าไป ลิเวอร์พูลนำแล้ว 1-0

เชลซีเลือดขึ้นหน้าเหมือนถูกหยามก็เปิดเกมรุกใส่แหลกแต่หงส์แดงก็จ้องจะสวนกลับและเริ่มต่อบอลสวยๆหลายครั้งโดยที่เจอร์ราร์ดเล่นเป็นมิดฟิลด์คอยสนับสนุนคีโน่จากแถวสอง

นาที 16 ริเอร่านัวเนียนหนีโบซิงวาแบบติดขัดๆก่อนลาจี้เข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วตัดสินใจตะบันยิงบอลพุ่งกระทบข้างตาข่ายได้แค่เสียว

จังหวะได้บอลของลิเวอร์พูลก็ต่อบอลได้ดีพอใช้ได้แต่บางจังหวะพอตันก็จะหวดทิ้งขึ้นหน้าเพื่อควมปลอดภัยไว้ก่อนจากนั้นริเอร่ารับใบเหลืองคนแรกหลังไปดักเข่าใส่โบซิงวาทที่กระชากหนีตรงริมเส้น

นาที 24 ลิเวอร์พูลเกือบได้ 2-0 จากลูกทีมของอาร์เบลัวและเป็นพี่เคาท์รับหน้าที่โขกชงอีกแล้วก่อนที่เจอร์ราร์ดจะปล่อยให้บอลตกแล้วตะบันด้วยอีซ้ายระยะ 25 หลาบอลพุ่งแสกหน้าเช็กที่กระโดดลอยตัวปัดปลายมือข้ามคานออกไปนิดเดียว

อีก 5 นาทีต่อมาแลมพ์วางบอลยาวให้อเนลก้าโขกชงกาลูวิ่งไปตามเอาบอลในเขตโทษแต่ยังดีที่เรน่าออกมาสไลด์ตระครุบก่อนนิดเดียว

เสียงเชียร์ของแฟนสิงห์ไฮโซเริ่มดังหลังเชลซีเริ่มโหมบุกหนักและแลมพ์ได้ยิงไกลครั้งแรกในนาที 33 บอลแฉลบออกหลังเสียเตะมุม

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายตอนนี้กลายเป็นเจ้าถิ่นขึงหนักอยู่ข้างเดียวและแนวรับลิเวอร์พูลต้องตั้งรับกันอย่างหนักแม้กระทั่งร็อบบี้ คีนยังมาวิ่งไล่ด้วยจนตอนนี้มีการทำฟาว์ลจากทีมเยือนมากขึ้นเรื่อยๆ

นาที 37 เจอร์ราร์ดได้ขึ้นเกมทางปีกซ้ายจังหวะสวนกลับแต่เพื่อนไม่มีเลยชะลอก่อนถูกคาร์วัลโญ่ตามบี้เลยเสียบอลให้เดโก้พาบอลลากขึ้นมาจากกลางสนามก่อนจี้เข้าหาเขตโทษแล้วยิงด้วยอีซ้ายบอลทะลุแนวรับออกหลังไปเอง หมดครึ่งแรกลิเวอร์พูลพลิกล็อกบุกมานำอยู่ 1-0

ครึ่งหลังแก้เกมกันมาช่วง 3-4 นาทีแรกกลายเป็นหงส์แดงที่ขึงเกมใส่เชลซีและพาบอลมาป้วนเปี้ยนหน้าเขตโทษได้อย่างต่อเนื่องแต่จังหวะสุดท้ายเน่ากันไปเอง

นาที 54 ลิเวอร์พูลต่อบอลจังหวะเดียวได้สวนงามตั้งแต่เจอร์ราร์ดกับอลอนโซ่ตรงกลางก่อนมาที่เคาท์ซึ่งปาดจังหวะเดียวให้คีนป้ายต่อให้อาร์เบลัวกระชากเข้าถึงหน้าเขตโทษแต่มาลูด้าตัดสินใจทำฟาว์ลตัดเกมรับใบเหลืองไป

เชลซีเริ่มกลับมาบดอย่างหนักอีกครั้งแต่จังหวะสวนกลับนาที 57 เรน่าเล่นเร็วให้คีนวิ่งมาเอาบอลตรงปีกซ้ายก่อนจะคืนให้ริเอร่าซึ่งแทงบอลให้อลอนโซ่ซึ่งเหลือบเห็นเคาท์ยืนอยู่หน้ากรอบโทษเลยป้ายต่อให้แต่หอกทีมชาติฮอลแลนด์เงอะงะเลยยิงออกหลังไปซะงั้น

นาที 61 จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมน่าจะเป็นของลิเวอร์พูลเมื่ออลอนโซ่ปั่นฟรีคิก25 หลาอ้อมกำแพงบอลชนเสาก่อนถูกเคลียร์ทิ้งอย่างสุดช็อก จังหวะนี้เช็กได้แต่ยืนมองอย่างเดียวแล้ว

อีก 3 นาทีต่อมาอลอนโซ่ทำชิ่ง 1-2 กับเจอร์ราร์ดก่อนที่กัปตันทีมพลังไดนาโมจะแตะจังหวะเดียวให้บาเบิ้ลหลุดเข้าเขตโทษแต่บอลแรงเลยเกี่ยวไม่ทัน

เช้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้ายเชลซีเริ่มขึงเกมอย่างหนักแต่จังหวะสวนของลิเวอร์พูลน่ากลัวใช้ได้เพราะราฟาส่งเอาบาเบิ้ลลงมาแทนคีนโน่ตั้งแต่นาที 60 แล้ว

นาที 73 เชลซีน่าจะตีเสมอได้สุดๆจากจังหวะที่แลมพ์ล้วงเอาบอบม้วนหน้าเขตโทษตรงระยะ 35 หลาก่อนชิพตามสไตล์ให้ดิ ซานโต้โขกชงให้แอชลีย์ โคลวิ่งสอดเข้ามาซัดด้วยอีซ้ายแต่บอลปลิ้นถากเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

อีก 3 นาทีลิเวอร์พูลรอดตายอีกแล้วคราวนี้อเนลก้าปาดบอลเข้าเขตโทษให้เดโก้หลุดมาทางซ้ายแล้วล็อกหลอกอาร์เบลัวที่วิ่งมาจนถลำแต่จังหวะยิงเน้นๆแค่ 6 หลาเป็นคาร์ราเกอร์ที่สไลด์บล็อกเส้นยาแดงผ่าแปด

ทีมเยือนไม่งอมืองอเท้าง่ายๆอีกนาทีเดียวบาเบิ้ลกระชากหนีคาร์วัลโญ่ก่อนตะบันยิงไกลบอลผ่านมือเช็กที่บินสุดเหยียดบอลผ่านสามเหลี่ยมชนิดน่าเข้าสุดๆ

ตอนนี้หงส์แดงหันมาตั้งรับสุดๆตามทรงบอลที่เชลซีโหมบุกใส่แบบไม่คิดชีวิตและนาที 87 เจอร์ราร์ดวางบอลยาวให้เคาท์หลุดขึ้นมาทางปีกขวาจังหวะสวนกลับโล่งๆก่อนลากไปถึงเส้นหลังก่อนอัดยัดเข้าในเป็นเช็กที่ล้มตัวปัดเอาไว้ ในกรอบเขตโทษเหลือแค่บาเบิ้ลเพียงคนเดียวเท่านั้น

ช่วงเวลาที่เหลือหงส์แดงช่วยกันตั้งรับอย่างเหนียวแน่นก่อนบุกมาเอาชนะเชลซี 1-0 ขึ้นนำจ่าฝูงเดี่ยวด้วยสถิติไร้พ่ายส่วนเชลซีนอกจากแพ้นัดแรกในซีซั่นนี้แล้วยังเสียสถิติไม่แพ้ใครในสแตมฟอร์ด บริดตจ์ 86 นัดหรือ 4 ปีครึ่งลงในที่สุด

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก,โจเซ่ โบซิงวา(ซินแคลร์ น.85),ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่,จอห์น เทอร์รี่,แอชลีย์ โคล,จอห์น โอบี มิเกล,ซาโลมง กาลู(ดิ ซานโต้ น.58),เดโก้,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,ฟลอร็องต์ มาลูด้า(เบลเล็ตติ น.58),นิโกลาส์ อเนลก้า

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : คูดิชินี่,อิวาโนวิช,แฟร์เรียร่า,อเล็กซ์

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,อัลบาโร่ อาร์เบลัว,เจมี่ คาร์ราเกอร์,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,ฟาบิโอ ออเลริโอ,ชาบี้ อลอนโซ่,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,เดิร์ก เคาท์(ไลว่า น.88),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,อัลเบิร์ต ริเอร่า(ฮูเปีย น90),ร็อบบี้ คีน(บาเบิ้ล น.60)

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : คาวาเลียรี่,ดอสเซนน่า,เบนายูน,เพนแนนท์













http://d.yimg.com/a/p/sp/tools/med/2008/10/ipt/1225031422.jpg[/img]













 


ขอบคุณเนื้อหาข่าวและภาพคุณภาพดีจาก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์