วิเคราะห์ก่อนเกมส์ นิวคาสเซิล VS ลิเวอร์พูล

คู่นี้แข่งขันเวลา 19.45 น. ตามเวลาบ้านเรา หาก หงส์แดง ชนะ พวกเขาจะลดช่องว่างลงเหลือ 3 แต้มก่อนชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคือผลงานของทั้งสองทีมหลังจาก นักเตะของตัวเองไปรับใช้ทีมชาติมาในยูโร 2008 รอบคัดเลือก

 สัปดาห์พรีเมียร์ลีกหลังจากอังกฤษตกรอบคัดเลือกยูโร 2008 กลับมาแข่งขันอีกครั้ง

 สโมสรชั้นนำของพรีเมียร์ลีกมีนักเตะออกไปรับใช้ทีมชาติของตัวเองมากมาย กลับมาในสภาพไม่ค่อยพร้อมเท่าที่ควร กระนั้นโปรแกรมสัปดาห์นี้ต้องบอกว่า ทีมใหญ่ได้เล่นในเกมที่อาจไม่ยากลำบากสำหรับพวกเขาเมื่อต้องเจอกับทีมระดับล่าง

 อาร์เซนอล จ่าฝูง รับมือกับ วีแกน, แมนฯยูไนเต็ด ออกไปเยือน โบลตัน ขณะที่เชลซี เยือน ดาร์บี้ เคาน์ตี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่สามทีมดังเก็บสามแต้มได้ไม่ยากลำบากอะไร ส่วนอีกทีมหนึ่งในกลุ่มบิ๊กโฟร์คือ ลิเวอร์พูล เจองานหนักไม่น้อยเมื่อต้องบุกไปเยือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ถึงเซนต์ เจมส์ ปาร์ค

ผลฤดูกาลที่แล้ว ; นิวคาสเซิล ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
ผลงานล่าสุด ;

  นิวคาสเซิล อันดับ 11 แข่ง 12 นัดมี 18 คะแนน , 3 นัดล่าสุด เสมอ 1 แพ้ 2
  ลิเวอร์พูลอันดับ 5 แข่ง 12 นัดมี 24 คะแนน 3 นัดล่าสุด ชนะ 2 เสมอ 1

 สถิติคู่นี้พบกันมาแล้ว 144 ครั้งในลีกสูงสุด นิวคาสเซิล ชนะ 40 เสมอ 37 ลิเวอร์พูลชนะ 67

 ฤดูกาลที่แล้ว นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล หวุดหวิด 2-1 ฤดูกาลนี้ในสภาพฟอร์มปัจจุบัน มันก็ไม่ง่ายสำหรับ หงส์แดงเช่นกัน เนื่องจากปีนี้ นิวคาสเซิล โชว์ฟอร์มในบ้านยอดเยี่ยมมาก ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 ส่วน หงส์แดง แม้ฟอร์มนอกบ้านชนะ 4 เสมอ 2 ยังไม่แพ้ใคร แต่มีนักเตะไปเล่นทีมชาติถึง 11 คน

 อีกทั้งจุดหนึง่ที่น่าสนใจคือ แซม อัลลาไดซ์ สมัยอยู่โบลตัน คือทีมที่สร้างปัญหาให้กับลิเวอร์พูลพอสมควร เกมนี้ แฟนหงส์อาจต้องลุ้นกับการแพ้ทางกับ อัลลาไดซ์ อีกครั้ง

 สภาพทีมล่าสุดของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไม่มี ไมเคิล โอเว่น กองหน้าตัวหลักซึ่งตอนนี้ไปรักษาตัวถึงเยอรมัน หลังจากชวดรับใช้ทีมชาติอังกฤษ โอกาสในการเล่นกองหน้าจะตกเป็นของ โอบาเฟมี มาร์ติน แทน ส่วนตำแหน่งอื่นๆไม่มีปัญหาอะไร เดเมียน ดัฟฟ์ กลับมาซ้อมได้อีกครั้ง แต่ไม่น่าจะได้เล่นตัวจริง โดยแกนหลักของทีมจะเป็นชุดที่เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ 1-1

 โดย อัลลาไดซ์ จะยึดระบบ 4-4-2 ใช้กองหน้าคู่กันระหว่าง มาร์ติน กับ วิดูกา เพื่อเล่นงาน ลิเวอร์พูล ทันที อาศัยความได้เปรียบในการเล่นต่อหน้าแฟนบอลและสถิติที่ดีในเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ปีนี้ เป็นพลังผลักดันให้ทีมลุยกับหงส์แดง  แดนกลางเลือก เอมเร กับ บาร์ตัน ริมเส้นใช้ เจมส์ มิลเนอร์ ทางซ้าย และ อลัน สมิธ ทางขวา กองหลังยังเป็นชุดเดิม เทย์เลอร์, เฟย์, โรเซนาล และ เอนซอกเบีย

 ผู้รักษาประตู ฮาร์เปอร์
 กองหลัง เทย์เลอร์, เฟย์, โรเซนาล, เอนซอกเบีย
 กองกลาง สมิธ, บาร์ตัน, เอมเร, มิลเนอร์
 กองหน้า วิดูกา, มาร์ติน

 ทางฝั่งทีมเยือน หงส์แดง ของ ราฟาเอล เบนิเตซ อาจปวดหัวในการจัดตัวเกมนี้ และไม่รู้จะโรเตชั่นใครก่อนหลัง เนื่องจากเกือบทั้งทีม (11) คนกลับไปรับใช้ทีมชาติของตัวเองในยูโร รอบคัดเลือกและฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเช่นเดียวกัน เกมนี้อ่านใจ ราฟา ได้ยากลำบากว่าจะเลือกใครลงสนามในตำแหน่งตัวจริง

 อย่างไรก็ตามมีข่าวดีเรื่องสภาพร่างกายของ เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ แฮร์รี คีวล์ ซึ่งคาดว่าน่าจะพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ในการพบกับ นิวคาสเซิล และมีโอกาสลงเล่นตัวจริงทั้งคู่ตั้งแต่ต้นเกมเลย ส่วนตำแหน่งที่ต้องลุ้นอยู่ในแดนกลาง  มาสเชราโน, โมโม, เจอร์ราร์ด ขณะที่ด้านขวานั้น ยอสซี เบนายูน ยังไม่หายจากการบาดเจ็บ

 เกมนี้ ราฟา อาจปรับริมเส้นใช้ ไรอัน บาเบล เล่นทางขวา และ คีวล์ เล่นทางซ้าย คู่กลางน่าจะเป็น เจอร์ราร์ด กับ มาสเชราโน ส่วนกองหน้าคู่นั้น ตอร์เรส จะได้โอกาสเล่นกับ อังเดร โวโรนิน  ตั้งแต่ต้นเกม ส่วน ปีเตอร์ เคราช์ สำรองตามฟอร์ม

 ผู้รักษาประตู เรนา
 กองหลัง อาร์เบลัว, คาร์ราเกอร์,ฮูเปีย, ออเรลิโอ
 กองกลาง บาเบล, เจอร์ราร์ด, มาสเชราโน, คีวล์
 กองหน้า ตอร์เรส,โวโรนิน

 น่าจะเป็นที่สนุกสนานอีกครั้งหนึ่ง เมื่อคู่นี้มาพบกัน หลายปีที่ผ่านมาแต่ละเกมยิงประตูเกิน 2 และเป็นเกมเปิด บุกแลกสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอล แม้ว่าสภาพทีมของทั้งสองทีมอาจไม่สดที่จะเล่นเกมขนาดนั้น แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเกมที่เดินเข้าหากันตลอด

 นิวคาสเซิล จะใช้ มิลเนอร์, เอนซอกเบีย เป็นตัวเดินเกมทางซ้ายเพื่อเล่นงานลิเวอร์พูล ถือว่าเป็นจุดแข็งของพวกเขา และจะใช้ร่างกาย ความสดของ บาร์ตัน ในการบู๊กับแดนกลางลิเวอร์พูล เพื่อตัดเกมส่วนนี้และไม่ให้ โวโรนิน กับ ตอร์เรส ได้เล่นบอล ส่วนทางฝั่งลิเวอร์พูล เดินเกมริมเส้นสองข้าง ทางซ้าย คีวล์ ขวา บาเบล

 ดูจากสภาพทีมแล้ว หงส์แดง ไม่พร้อมสมบูรณ์พอที่จะเล่นงาน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้โดยง่าย เกมนี้น่าจะเล่นเกมช้า เน้นความแน่นอน รอ สาลิกาดง พลาด แล้วลงโทษ ขณะเดียวกันเกมรับของลิเวอร์พูลต้องเผชิญหน้ากับ วิดูกา และมาร์ติน ซึ่งเล่นบอลกลางอากาศได้ดีเช่นกัน

 คู่นี้ สูสีกันมาก หงส์แดงไม่ได้ดูเหนือกว่า สาลิกาดงแต่อย่างไร

ผลที่คาด :
 สภาพทีมที่ไม่เป็นใจทำให้ หงส์แดง อาจทำได้เพียงแค่แบ่งแต้งกับ สาลิกาดง และหากแนวรับพลาดง่ายๆ เสียประตูก่อน อาจแพ้ในเกมได้เลย

เกมนี้เสมอ 1-1