ยังไม่ดีพอ!!หงส์นำก่อนต้านไม่ไหวบุกเจ๊าไก่

ยังไม่ดีพอ!!หงส์นำก่อนต้านไม่ไหวบุกเจ๊าไก่


เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือเจ้าบ้าน เลือกปรับทัพจากเกมล่าสุดในพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ก่อนที่เฉือนชนะคริสตัล พาเลซในศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ 1-0 เพียงแค่รายเดียวเท่านั้น คือ เดเล อัลลี แนวรุกตัวเก่งซึ่งจะได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงแทน วินเซนต์ แยนส์เซน

ด้านทีมเยือนของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนแปลงนักเตะจากนัดกลางสัปดาห์ในถ้วยลีกคัพที่บุกถล่มเบอร์ตัน อัลเบี้ยน 5-0 ทั้งสิ้น 2 ราย ได้แก่ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กับ ฟิลิปป์ คูตินโญ ที่จะได้ลงเป็น 11 คนแรกแทนที่ของ เอ็มเร จัน และ ดีว็อก โอริกี

เริ่มเกมได้เพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น เป็นลิเวอร์พูลที่พลาดโอกาสทองในการขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ถวายพานให้ คูตินโญ แปด้วยขวาจ่อๆในเขตโทษ แต่กลับโดน มิเชล ฟอร์ม เหยียดเท้าขวาซูเปอร์เซฟได้แบบเหลือเชื่อ

นาทีต่อมา สเปอร์สมีโอกาสบ้าง จากลูกฟรีคิกบนเส้นกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายที่ คริสเตียน อีริคเซน บรรจงปั่นด้วยขวา แต่ยังโดน ซิมง มิโญเลต์ พุ่งปัดทิ้งออกข้างไปได้อย่างยอดเยี่ยม

จากนั้นนาทีที่ 22 หงส์แดงมีโอกาสอีกครั้ง จากจังหวะที่ มิลเนอร์ ไหลบอลให้ คูตินโญ เลี้ยงตัดเข้าในจากราบซ้ายก่อนจะลองส่องไกลด้วยขวาไปแฉลบขา เอริค ไดเออร์ และโดน ฟอร์ม ปัดทิ้งข้ามคานหวุดหวิด

ถัดมาอีก 3 นาที ยังเป็นทีมเยือนที่บุกได้วูบวาบกว่า จากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน งัดบอลเข้าเขตโทษให้ คูตินโญ พักอกแล้วหวดด้วยขวา แต่ลูกยังไปตรงตัว ฟอร์ม ที่ยืนตำแหน่งดีตะกรุบเข้าซองไว้ได้อีก

นอกจากรูปเกมจะเป็นรองแล้ว คลับไก่ยังต้องมาเสียโควตาเปลี่ยนตัวคนแรกตั้งแต่นาทีที่ 28 เมื่อ ไคล์ วอล์คเกอร์ มีปัญหาบาดเจ็บจนฝืนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง แยนส์เซน ลงมาแทน พร้อมกับโยก ไดเออร์ ไปยืนแบ็คขวา รวมถึง อัลลี มายืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางคู่กับ วิคเตอร์ วานยามา อีกด้วย

จนกระทั่งในช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 43 ลิเวอร์พูลก็มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ฟีร์มิโน วิ่งไปสะดุดขวาของ เอริค ลาเมลา จนล้มลงไป ก่อนจะเป็น เจมส์ มิลเนอร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ส่งให้อดีตแชมป์ยุโรป 5 สมัยบุกนำ 1-0 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

เข้าสู่ครึ่งหลัง หงส์แดงเกือบจะบวกลูกสองเพิ่มได้อีก ในนาทีที่ 52 จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายที่ มิลเนอร์ เปิดให้ โยเอล มาติป สลัดหนีตัวประกบอย่าง แยน แฟร์ทองเก้น ก่อนจะสะบัดศีรษะโหม่งบอลเฉี่ยวคานไปนิดเดียวเท่านั้น

3 นาทีต่อมา ทีมเยือนชวดได้ประตูที่สองอย่าน่าเสียดาย จากจังหวะที่ ไวจ์นัลดุม จ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ อดัม ลัลลานา ตวัดต่อให้ มาเน แปด้วยขวาโล่งๆตุงตาข่าย แต่กลับถูกผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน ตั้งแต่จังหวะออกตัวของ ลัลลานา ที่ยืนเหลื่อมแนวรับคลับไก่อยู่นั่นเอง

จากนั้นนาทีที่ 61 สเปอร์สมีโอกาสใกล้เคียงในการตีเสมอมากที่สุด จากจังหวะที่ ไดเออร์ ไหลบอลเรียดจากริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาเข้ากลางให้ อีริคเซน วิ่งมาแปด้วยซ้ายเน้นๆแต่ลุกพุุ่งโด่งหลุดกรอบออกไปนิดเดียว

ถัดมาอีก 2 นาที เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกรอบ จากลูกฟรีคิกบนเส้นเขตโทษฝั่งขวาที่ ลาเมลา ปั่นโค้งด้วยซ้ายข้างถนัดแต่บอลไปตรงตัว มิโญเลต์ กระโดดปัดทิ้งข้ามคานหวุดหวิด

จังหวะเตะมุมฝั่งซ้ายต่อเนื่องกันเอง เกือบทำให้ไก่เดือยทองตีเสมอได้อีกหน โดยเป็น อีริคเซน ที่เปิดให้ โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์ โขกเต็มศีรษะ แต่กลับโดน มิโญเลต์ พุ่งปัดทิ้งออกหลังไปได้แบบเหลือเชื่อ

หลังจากพยายามอยู่นาน สเปอร์สก็สามารถตีเสมอได้สำเร็จ ในนาทีที่ 72 จากจังหวะที่ ไดเออร์ เปิดบอลด้วยซ้ายจากสุดเส้นหลังฝั่งขวาไปให้ ลาเมลา โหม่งเช็ดต่อให้ แดนนี โรส อัดด้วยซ้ายข้างถนัดเต็มข้อเข้าไปชนิดตาข่ายแทบขาด ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 1-1

สุดท้ายไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ส่งผลให้จบเกมด้วยผลเสมอ 1-1 กอดคอแบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยสเปอร์สขยับขึ้นมารั้งที่ 5 ชั่วคราว มี 5 คะแนน ส่วนลิเวอร์พูลอยู่อันดับ 8 ชั่วคราว มี 4 แต้ม


ยังไม่ดีพอ!!หงส์นำก่อนต้านไม่ไหวบุกเจ๊าไก่


ยังไม่ดีพอ!!หงส์นำก่อนต้านไม่ไหวบุกเจ๊าไก่


ยังไม่ดีพอ!!หงส์นำก่อนต้านไม่ไหวบุกเจ๊าไก่


ยังไม่ดีพอ!!หงส์นำก่อนต้านไม่ไหวบุกเจ๊าไก่


Cr.goal,soccersuck

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์