มาสช์-ตอร์เรสยิง!หงส์แถระทึก2-1

มาสช์-ตอร์เรสยิง!หงส์แถระทึก2-1

หงส์แดงลิเวอร์พูลลุ้นเยี่ยวเหนียวหลังถูกเรดดิ้งบุกมายิงขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 5 ก่อนได้ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ตีเสมอสุดท้ายและเป็นเฟอร์นานโด ตอร์เรสคนดีคนเดิมซัดประตูชัยต้นครึ่งหลังให้ลิเวอร์พูลชนะหวุดหวิด 2-1

ลิเวอร์พูล 2-1 เรดดิ้ง

ประตู :
0-1 มาเตยอฟสกี้ น.5 ,1-1 มาสเคราโน่ น.19,2-1 ตอร์เรส น.48

เริ่มเขี่ยมาออเรลิโอก็เสียบอลตั้งแต่ 10 กว่าวินาทีแรกจนเรดดิ้งได้บุกมาเสียวก่อนแต่แล้วแค่ 5 นทีเจ้าถิ่นก็มาโดนก่อนเลยโดยเริ่มจากอาร์เบลัวสไลด์โดนบนตรงเส้นหลังใกล้มุมธงแต่กรรมการรมองว่าไปทำฟาว์ลฮันท์จนได้ฟรีคิกก่อนที่ออสเตอร์จะปาดมาหน้าเขตโทษให้มาเคยอฟสกี้วิ่งมากดเต็มเท้าติดไซด์บอลพุ่งชนคานเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสุดอลังการ เรดดิ้งนำช็อก 1-0

ลิเวอร์พูลเสียบอลกันง่ายแต่พอโดนเข้าไปก็โหมลุยแหลกโดยที่ทีมเยือนตั้งรับเต็มตัวแบบไม่ต้องคิดมากและนาทีที่ 13 จังหวะสวนเจอร์ราร์ดพกอกตรงกลางสนามก่อนไหลบอลทะลุช่องให้ตอร์เรสหลุดกับดักล้ำหน้าแต่จังหวะยิงฮาห์เนมันน์ออกมาเร็วเลยพุ่งบล็อกชวดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

อีก 4 นาทีเรดดิ้งทุ่มบอลพลาดทำให้เจอร์ราร์ดหมุนตัวยิงไกล 25 หลาบอลพุ่งหุบลงเฉี่ยวคานนิดเดียว ตอนนี้แนวรับหงส์แดงน่าเป็นห่วงเพราะเจอสวนทีไรเรดดิ้งหลุดเข้าเขตโทษทุกทีร้อนถึงเรน่าต้องวิ่งมาสไลด์คว้าบอลจากเท้าสองสามครั้งแล้ว

แต่แล้วนาทีที่ 19 ลิเวอร์พูลมาตีเสมอจนได้และมาจากคนที่ไม่น่าจะมีชื่อทำสกอร์มากที่สุดอย่างมาสเคราโน่หลังได้บอลหน้าเขตโทษระยะ 30 หลาก่อนแตะหนีสตีเฟ่น ฮันท์ที่พยายามเข้าเร็วแล้วลากไปจนถึงระยะ 20 หลาก่อนตะบันช่องนิดเดียวเบียดเสาเข้าไปอย่างไม่น่าเชื่อ ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1 แล้ว และเป็นลูกแรกของแข้งหน้าง่วงกับหงส์แดงอีกด้วย

เกมมาถึงครึ่งชั่วโมงบาเบิ้ลแผลงฤทธิ์เมื่อเจอรุมสองตรงกรอบโทษฝั่งซ้ายก่อนกระชากเข้าในด้วยอีขวาแล้วตะบันยิงด้วยพาวเวอร์ 99 บอลพุ่งเต็มแรงชนิดฮาห์เนมันน์ผวาปัดสองมือล้มทั้งยืนได้เตะมุม แฟนบอลปรบมือชอบใจกันเกรียวกับการเล่นชายเดี่ยวของปีกฮอลแลนด์ครั้งนี้

อีก 3 นาทีหลังต่อบอลกันสองสามจังหวะเป็นอาร์เบลัวที่เปิดครอสบอลระดับเอวจากปีกขวาให้เคาท์วอลเลย์ในเขตโทษแต่บอลกดไม่ลงข้ามคานออกไปแบบมีเสียว

ลิเวอร์พูลยังต่อบอลหมายจะเอาประตูขึ้นนำให้ได้แต่บอลไม่คืบหน้าเพราะเจอเข้าเร็วเลยต้องส่งคืนหลังไปมาจนถึงช่วงทดเจ็บอลอนโซ่เล่นชิ่ง 1-2 กับเจอร์ราร์ดหน้าเขตโทษแต่หัวขิงจ่ายบอลเลยโดนตัดแต่อลอนโซ่โชว์สัญชาติญาณตัวรับดักอีกชั้นตอนเรดดิ้งจะส่งให้เพื่อนเพื่อสวนกลับก่อนตะบันด้วยอีซ้าย 20 หลาบอลพุ่งย้อยเฉี่ยวเสาไกลออกไปแบบน่าเข้าสุดๆ หมดเวลาลิเวอร์พูลเสมอกับเรดดิ้งผู้มาเยือน 1-1

ครึ่งหลังเล่นไปแค่ 3 นาทีลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วหลังบิคีย์ไปดักเข่าตอร์เรสเป็นฟรีคิกตรงริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนที่เจอร์ราร์ดจะรับหน้าที่วางบอลยาวเป็นเส้นตรงแถมเตะช้อนใต้ลูกติดสกรูพุ่งมาที่หัวตอร์เรสที่โผนโขกแค่ 8 หลาบอลตกพื้นผ่านมือฮาห์เนมันน์เข้าไปอย่างเหนือชั้น เจ้าถิ่นนำ 2-1 และเป็นลูกที่ 20 ของเอล นินโญ่ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้แล้ว

เรดดิ้งเน้นทำฟาว์ลบ่อยจนน่าเบื่อเล่นเอานักเตะเจ้าถิ่นทำหน้าเซ็งจนฮันท์ไม่รอดมาเตะรวบตัดขาอาร์เบลัวจนรับใบเหลืองแถมติดแบนทันทีหลังรับใบที่ห้าในซีซั่นนี้

นาที 62 ตอร์เรสกระชากติดเครื่องตรงกลางสนามแล้วแทงออกซ้ายให้บาเบิ้ลเลี้ยงจี้เข้าหน้าเขตโทษซึ่งมีแข้งเรดดิ้งถึงสามก่อนแตะเข้าเขตโทษแล้ววิ่งตามไปยิงด้วยอีซ้ายบอลแสกหน้าฮาห์เนมันน์ที่วิ่งสวนออกมาปิดมุมแต่ข้ามคานออกไปแบบสุดเสียว

อีก 10 นาทีต่อมาออเรลิโอสวมบทริเซ่เห็นไม่มีใครเข้าเลยลากเข้าระยะทำการ 30 หลาก่อนอัดเต็มข้อด้วยอีซ้ายบอลพุ่งเลียดตรงเป็นท่อแป๊บแต่ฮาห์นัมนน์โคตรไวล้มตัวปัดสุดยอด

ตอนนี้เกมเสียวตรงที่ลิเวอร์พูลยิงลูกสามไม่ได้ซักทีทำให้เรดดิ้งก็ชวนทะเลาะไม่เลิกจนแนวรับต้องรับภาระหนักส่วนแนวรุกยังไม่เฉียบขาด

ช่วงทดเจ็บเรดดิ้งได้ฟรีคิกก่อนที่คิตสันจะเก็บตกแล้วยิงเผาขนยังดีที่เจอร์ราร์ดสไลด์บล็อกออกหลังหวุดหวิด ผู้เล่นทีมเยือนร้อจะเอาจุดโทษฟ้องบอลโดนมือกัปตันทีมลิเวอร์พูลด้วย

เรดดิ้งบดลิเวอร์พูลแบบทิ้งทวนชนิดที่ว่าเดอะค็อปนั่งเสียววาบโดนจังหวะเตะมุมฮาห์เนมันน์วิ่งมาเล่นกับเขาด้วยยังดีที่เจ้าถิ่นช่วยกันเคลียร์ออกมาก่อนที่อลอนโซ่จะยิงไกลจากแดนตัวเองบอลย้อยได้ลุ้นแต่ออกหลังไปนิดเดียว หมดเวลาลิเวอร์พูลชนะรวดเป็นนัดที่ 5 รอลุ้นเอฟเวอร์ตันเจอฟูแล่มในวันอาทิตย์ต่อไป

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า 6,อัลบาโร่ อาร์เบลัว 6,เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล 8,ฟาบิโอ ออเรลิโอ 5,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 9*,ชาบี้ อลอนโซ่ 8,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 7(ฮูเปีย น.90),เดิร์ก เคาท์ 5(เบนายูน น.81),ไรอัล บาเบิ้ล 7(ริเซ่ น.83),เฟอร์นานโด ตอร์เรส 7

สำรองไม่ได้ลงสนาม : อีตองด์เช่,เคราช์


เรดดิ้ง : มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ 7,เลียม โรเซเนียร์ 7,อังเดร บิเคย์ 7,อีวาร์ อินกิมาร์สสัน 7,นิคกี้ ชอรีย์ 6,เจมส์ ฮาร์เปอร์ 7,จอห์น ออสเตอร์ 6(เคเบ้ น.72,5),มาเร็ค มาเตยอฟสกี้ 8(ซิสเซ่ น.74,5 ),สตีเฟ่น ฮันท์ 7,เควิน ดอย์ล 5,เชน ลอง 5(คิตสัน น.63,6)

สำรองไม่ได้ลงสนาม : เฟเดริซี่,ซองโก้







































 

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีจากซ๊อคเกอร์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์