มาดูผลงานย่ำแย่ของหงส์แดงกันในปีนี้

เซ็งกันใช่มั้ยพี่น้องหงส์แดง? มีอย่างที่ไหนเจอวีแกนในบ้านแต่ดันใช้ศูนย์หน้าคนเดียว?? ตลกเถอะน่า! มันไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียวเสียหน่อยที่ลิเวอร์พูลพลาดท่าในเกมนี้ และวันนี้เราจะมากางหลักฐานให้เห็นชัดๆไปเลยว่าราฟาเอล เบนิเตซ ทำให้เดอะ ค็อป ต้องน้ำตาตกในกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาแล้วกี่นัดในปีนี้!!!



1. ปอร์ทสมัธ 0-0 ลิเวอร์พูล (15 ก.ย.2007)


หลังจากออกสตาร์ทฤดูกาลได้แบบร้อนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะหลังการถล่ม แกะเขาเหล็ก ดาร์บี้จนแทบหาทางกลับจากแอนฟิลด์ไม่เจอถึง 6 ลูก โดยที่เฟร์นานโด ตอร์เรส ระเบิดฟอร์มของศูนย์หน้าระดับโลกที่แฟนบอลหงส์แดงอยากเห็น


ราฟา เบนิเตซ ก็ทำในสิ่งที่ทุกคนแทบไม่เชื่อด้วยการดร็อปตอร์เรส พร้อมทั้งกัปตันอย่างสตีเว่น เจอร์ราร์ด ในเกมแรกที่กลับจากโปรแกรมทีมชาติในช่วงต้นเดือน ก.ย. และให้ปีเตอร์ เคราช์ ลงเล่นนัดแรกของฤดูกาลคู่กับอังเดร โวโรนินในแดนหน้า นัยว่าเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับปอร์โต้ที่รออยู่


สุดท้ายโซล แคมป์เบลล์และพรรคพวกชาวปอมปีย์ก็แทบลูบปากรอเพราะแนวรุกของหงส์แดงอ่อนหัดสุดๆ แถมเปเป้ เรน่า ยังต้องมาเซฟช่วยชีวิตไม่ให้หงส์แดงตายเป็นนัดแรกของฤดูกาลด้วย


2. ลิเวอร์พูล 0-0 เบอร์มิงแฮม (22 ก.ย.2007)


ถัดมาจากความผิดหวังที่แฟรตตัน ปาร์ค ลิเวอร์พูลได้กลับมาเล่นในแอนฟิลด์อีกครั้งโดยพบกับทีมรองบ่อนอย่างเบอร์มิงแฮม ที่ดูอาการแย่ลงมากในฟดูกาลนี้ แต่ราฟา ก็ทำในสิ่งที่ทุกคนแทบไม่เชื่ออีกครั้งด้วยการดร็อปตอร์เรสไว้ข้างสนามอีกครั้ง และให้โวโรนิน ได้จับคู่กับเดิร์ค เคาท์แทน


สุดท้ายเบอร์มิงแฮมที่เหลือ 10 คนก็ยังตั้งรับกันได้ดีพอจะมาบุกแย่งแต้มไปจากแอนฟิลด์ได้แบบสุดสะใจสตีฟ บรู๊ซ ที่รักษาสถิติไม่เคยแพ้ราฟาเลยได้ต่อไป ขณะที่กุนซือจอมโรเตชั่นก็อ้างว่าต่อให้ส่งตอร์เรส ลงมาตั้งแต่แรกก็ไม่มีประโยชน์เพราะเดอะ บรูมตั้งรับกันลึก และอยากให้โวโรนินกับเคาท์ ใช้ความเร็วกับความขยันเจาะทางริมเส้นเข้ามามากกว่า ทั้งๆที่เกมนั้น เอล นินโญ่ ลงมาแค่ไม่กี่นาทีก็ยังมีโอกาสตีลังกายังเกือบเข้าเลย


ทว่าหลังจากนั้น ราฟากลับส่งตอร์เรส ลงเล่นในเกมคาร์ลิ่ง คัพ กับเร้ดดิ้งที่มาเดจสกี้ สเตเดี้ยม และเอล นินโญ่ ก็ยิงแฮตทริกแรกในอังกฤษได้สำเร็จ ........ ขอบใจนะราฟา


3. ลิเวอร์พูล 1-1 อาร์เซนอล (28 ต.ค.2007)


ราฟา ลงทุนไปเกือบ 15 ล้านปอนด์ในการซื้อยอสซี่ เบนายูนและไรอัน บาเบิล หวังมาแก้ไขปัญหาเกมรุกริมเส้นที่บ้อท่ามาหลายปีซึ่งทั้งสองก็ดูจะเริ่มทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ


แต่เมื่อมาถึงเกมสำคัญกับการรับมือ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล จ่าฝูงที่มาเยือนแอนฟิลด์ในขณะนั้น ราฟากลับเลือกใช้ระบบ 4-3-3 โดยยัดชาบี้ อลอนโซ่ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาช่วยงานฮาเวียร์ มาเสคราโน่และสตีเว่น เจอร์ราร์ด โดยในแนวรุกให้เป็นกองหน้าที่ไร้ความเร็วอย่างโวโรนินและเคาท์ ยืนริมเส้น และทิ้งตอร์เรสไว้เป็นตัวเป้า


ผลปรากฎว่าเกมนั้นลิเวอร์พูลแทบรากเลือดโดนกันเนอร์สโชว์ชั้นเชิงที่เหนือกว่าบี้จนเกือบตายตลอดทั้งเกม ขณะที่อลอนโซ่ แม้จะทำผลงานได้พอใช้แต่สุดท้ายก็ต้องเจ็บซ้ำกับแผลเดิมที่กระดูกเท้าแตกและต้องพักการเล่นไปอีก 2 เดือน


4. แบล็คเบิร์น 0-0 ลิเวอร์พูล (3 พ.ย.2007)


อาการบาดเจ็บของเฟร์นานโด ตอร์เรสจากเกมทีมชาติทำให้ราฟา เบนิเตซ ต้องปรับหมากในแดนหน้าใหม่ แต่แทนที่จะเลือกใช้งานคู่ศูนย์หน้า เคราช์-เคาท์ (ที่ดูเข้าท่าเหมือนกันในฤดูกาลที่แล้ว) กุนซือสแปนิชกลับดันสตีเว่น เจอร์ราร์ด ขึ้นมาเป็นศูนย์หน้าตัวต่ำแทนและให้เคาท์ยืนขึ้นสูงกว่า ขณะที่แดนกลางให้โมโม่ ซิสโซโก้ ลงมาจับคู่กับมาสเคราโน่แทนกัปตันสตีวี่จี


ผลปรากฎว่าเกมแดนกลางของลิเวอร์พูลต่อบอลกันเละเทะ โมโม่ ซิสโซโก้ แทบจะเสียคนไปเลยในเกมนี้ จนกระทั่งราฟาต้องส่งปีเตอร์ เคราช์ลงมาในช่วง 18 นาทีสุดท้ายเกมถึงจะเริ่มดีขึ้น ขณะที่เคาท์เองก็ยิงทิ้งยิงขว้างกับโอกาสทองฝังเพชรไม่ต่ำกว่า 5 หน แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยการเสมอกันอยู่ดี


5. เร้ดดิ้ง 3-1 ลิเวอร์พูล (8 ธ.ค.2007)


หงส์แดงเริ่มแรงฤทธิ์สมใจแฟนๆหลังราฟา เบนิเตซไปทะเลาะกับเจ้าของสโมสรชาวอเมริกันจนทำให้ทุกฝ่ายรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่กับเกมสำคัญที่รออยู่ในศึกชี้ชะตาว่าใครจะได้เข้ารอบน็อคเอาต์ของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับมาร์กเซย์


งานนี้ราฟา ก็เลยขอเลือกถ้วยใบใหญ่ไว้ก่อนด้วยการปรับหมากจากทีมที่ไล่ถลุงโบลตันแบบเหนือชั้น 4-0 มาใช้ระบบ 4-3-3 (แบบเดียวที่เล่นกันไม่เป็นพะโล้ในเกมกับอาร์เซนอลนั่นแหละ!) โดยคราวนี้ใช้ตอร์เรส, โวโรนินและเคราช์ลงสนาม และยังดร็อปซามี่ ฮูเปีย ให้แจ็ค ฮอบบ์สเจ้าหนูอ่อนประสบการณ์ลงเล่นด้วย


สุดท้ายลิเวอร์พูล ก็พลาดท่าโดนเร้ดดิ้งที่พกดวงมาแรงกว่าฉวยจังหวะยิงเอาๆทั้ง 3 ลูก ขณะที่หงส์แดงกว่าจะตีเสมอได้ก็แทบตายในลูกแรก ท้ายสุดราฟาก็เลยเลือกทิ้งเกมนี้ถอดเอาตอร์เรส กับเจอร์ราร์ดออกมาพักตั้งแต่เพิ่งถึงช่วงนาทีที่ 70 และลิเวอร์พูลก็แพ้เป็นเกมแรกในพรีเมียร์ลีกสมใจ พร้อมข้อแก้ตัวว่าถอดตัวหลักออกมาเพื่อ ปลอดภัยไว้ก่อน


6. ลิเวอร์พูล 0-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (16 ธ.ค.2007)


ราฟา รอดตายมาได้หวุดหวิดเมื่อหงส์แดงยังเก่งในบอลยุโรปเสมอ (เมื่อจำเป็น!) ด้วยการถล่มมาร์กเซย์ขาดลอย 4-0 ชนิดที่เกมขาดตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว แต่เมื่อกลับมาก็ต้องลงทำศึกแดงเดือดกับ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พกสถิติไม่แพ้ลิเวอร์พูลในลีกเลยตั้งแต่ราฟา เข้ามาคุมทีม


และบอลนัดนี้ก็ยังเป็นงูเหลือมกับเชือกกล้วยอยู่ เพราะราฟาดันเลือกที่จะให้ปีกขาอ่อนอย่างแฮร์รี่ คีเวลล์ ลงเล่นเป็นตัวจริงแทนที่จะใช้ไรอัน บาเบิล ที่เริ่มแสดงให้เห็นว่าสมราคานักเตะดาวรุ่งที่เก่งที่สุดในฮอลแลนด์ สุดท้ายเกมของหงส์แดงก็เลยบอดสนิท เล่นกันแบบกล้าๆกลัวๆ


จบเกมเป็นแบบไหนไม่ต้องบอกใช่มั้ย?


7. แมนฯ ซิตี้ 0-0 ลิเวอร์พูล (30 ธ.ค.2007)


โอเค! สเวน โกรัน อีริคส์สัน อาจจะจัดมาแบบปลอดภัยไว้ก่อนด้วยระบบ 4-6-0 (มีดาริอุส วาสเซลล์ เป็นกองกลางอิสระ!) แต่ก็เป็นอีกครั้งที่บาเบิลโดนดร็อปไว้ข้างสนามและให้แฮร์รี่ คีลล์ ที่สามวันดีสี่วันไข้ลงเป็นตัวจริงต่อไป


เกมนัดนี้สูสีในครึ่งแรก ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะเล่นข้างเดียวในครึ่งหลัง เพียงแต่เป็นการเล่นข้างเดียวที่ไร้ความหมายเพราะเกมรุกทื่อยิ่งกว่าใบมีดโกนที่ใช้มาสิบปี โอกาสครั้งแล้วครั้งเล่าถูกเผาให้ไร้ค่าเหมือนกระดาษทิชชู่ตามร้านสะดวกซื้อ และเสียใจด้วยที่ครั้งนี้ไม่มีปาฏิหารย์อะไรจากสตีเว่น เจอร์ราร์ดหรือเฟร์นานโด ตอร์เรสอีกแล้ว!


8. ลิเวอร์พูล 1-1 วีแกน (2 ม.ค.2008)


สดๆร้อนๆกับอาการ วิตกจริต ของราฟาที่ประกาศก่อนเกมว่านัดนี้ยังไงหงส์แดงก็ต้อง ชนะ!!!


แล้วราฟาทำยังไงรู้มั้ย? ก็แค่ส่งตอร์เรสเป็นกองหน้าคนเดียวแล้วให้เจอร์ราร์ดเล่นเป็นกองหน้าตัวต่ำอีกครั้ง พร้อมส่งชาบี้ อลอนโซ่ มายืนคู่กับมาสเคราโน่ในแดนกลาง และเลือกใช้เจอร์เมน เพนแนนท์ที่เพิ่งจะเรียกความฟิตกลับมาได้มากกว่าจะใช้ไรอัน บาเบิล หรือยอสซี่ เบนายูน ที่ฟอร์มดีมาโดยตลอด โดยที่เกมนี้เล่นในแอนฟิลด์ สนามของตัวเองที่มีคนเข้ามาดูเกือบเต็มความจุ


ตอร์เรสถึงจะเล่นอย่างโดดเดี่ยวเพราะแนวรุกคนอื่นๆเล่นกันสุนัขขี้เรื้อนแถวนั้นยังส่ายหัวไม่ขอเห่าให้เปลืองแรง แต่ก็ยังช่วยให้ทีมได้ประตูขึ้นนำไปก่อน แต่สุดท้ายเพื่อนๆนอกจากจะไม่ช่วยกันอัดคู่แข่งให้ตายสนิท ยังชะล่าใจจนปล่อยให้ทีมเสียประตูแบบไม่น่าเสีย แถมคนยิงตีเสมอนั้นรู้ถึงไหนอายถึงนั่นเพราะมันคือ ไอ้แมวน้ำ ไตตัส บรัมเบิ้ล กองหลังจอมเหวอที่นัดนี้พลิกฟอร์มเป็นพระเอกให้วีแกนได้อย่างเหลือเชื่อ


จบเกมราฟา แก้ตัวว่าให้ตอร์เรสยืนหน้าคนเดียวเพื่อจะเพิ่ม พื้นที่ ในแนวรุกโดยใช้เจอร์ราร์ดและปีกสองข้างอย่างคีเวลล์กับเพนแนนท์ (คนนึงขาอ่อน อีกคนขาพันกันเอง!)


ขณะที่เดอะ ค็อปกว่าครึ่งประกาศยกธงขาวไม่องไม่เอามันแล้วแชมป์ในปีนี้!!!!


Click
- ตูละกลุ้มจริงจริ๊ง!!! -


ขอบคุณเนื้อหาดีดีจาก:msn.co.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์