ฟอร์ลันยิงดับหงส์ 1-0 วัดดวงนัดหน้า

.

ฟอร์ลันยิงดับหงส์ 1-0 วัดดวงนัดหน้า

ผลงานนอกบ้านแทบการันตีความพ่ายแพ้สำหรับหงส์แดงลิเวอร์พูลบุกมาเสียท่าแอตเลติโก มาดริดชนิดเชิงบอลสู้ไม่ได้จากประตูโทนของดิเอโก้ ฟอร์ลันต้องไปลุ้นเลกสองที่แอนฟิลด์ในสัปดาห์หน้ากันต่อ

ยูโรป้า ลีกรอบรองชนะเลิศนัดแรก

วันพฤหัสที่ 22 เมษายน 2553


แอต.มาดริด 1-0 ลิเวอร์พูล

ประตู : 1-0 ฟอร์ลัน น.9


ครึ่งแรก

หมีลุยก่อน
หงส์แดงตั้งใจมารับและสวนกลับทำให้ทรงเกมจึงไม่น่าแปลกใจที่ตราหมีได้ครองบอลเป็นฝ่ายเข้าทำก่อนโดยจังหวะสวนกลับทีมเยือนพยายามวางยาวให้เอ็นก็อกวิ่งไล่แต่ยังไม่เป็นผล

ฟอร์ลันแสบยิง 1-0
แต่แล้วแค่ 9 นาทีลิเวอร์พูลตามหลังอย่างรวดเร็วจากลูกที่ราอูล การ์เซียลากขึ้นมาถึงริมกรอบโทษแล้วเปิดตบย้อยให้ฟอร์ลันวิ่งมาโขกที่จุดนัดพบแต่ดันโขกแป๊กแล้วบอลดันตกตรงหน้าเลยซัดซ้ำอัดตัวเรน่าผ่านคาร์ราเกอร์ที่พยายามจะเคลียร์แต่จั่วลมเข้าไปง่ายๆ จังหวะนี้ผู้เล่นทีมเยือนประท้วงบอกฟอร์ลันโขกวืดบอลไปถูกแขนก่อนแต่กรรมการไม่สนใจ

หงส์รวนหนัก
พอเสียประตูเกมของลิเวอร์พูลไม่ได้ดีขึ้นเลยเพราะถูกตราหมีพับสนามเข้าทำอยู่ฝ่ายเดียวเรียกว่าตอนนี้แนวรับเหนื่อยลิ้นห้อยกันเลยทีเดียว

ปัญหาของหงส์แดงยามเป็นทีมเยือนในฤดูกาลนี้คือการมาเน้นรับเหมือนเชิญชวนให้คู่ต่อสู้ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่เป็นฝ่ายเข้าทำโดยที่การสวนกลับยังไม่มีทีมเวิร์คจนเป็นเหตุทำให้เกมออกแนวเล่นข้างเดียวซึ่งตรงกันข้ามกับยามอยู่แอนฟิลด์ที่คู่แข่งจะมาตั้งรับให้ลิเวอร์พูลได้ครองบอลแต่เกมสวนกลับจะดีกว่าเสมอ

หัวขิงยิงเข้าข้าง
นาที 19 หงส์แดงเกือบตีเสมอหลังลูคัสวางยาวจากกลางสนามให้เจอร์ราร์ดวิ่งสอดทะลุใช้หัวแต่งลูกแล้วหลุดเข้าไปซัดด้วยอีซ้ายมุมแคบในกรอบแต่บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

หงส์พยายามรุกสู้
ผ่านมาเกือบๆจะครึ่งชั่วโมงลิเวอร์พูลเริ่มขยับทำเกมรุกได้ขึ้นหน่อยนึงแต่ยังไร้รูปแบบโดยใช้การโยนจากแนวรับเพราะกลางไม่มีตัวพลิกบอลแล้วรอแย่งบอลจังหวะสองที่แนวรับแอต.มาดริดโหม่งเคลียร์ ส่วนตัวรุกที่พอทำเกมได้ตอนนี้มีเพียงแค่เจอร์ราร์ดกับเบนายูนเท่านั้น

ตราหมีกลับมาโจมตี
จากนั้นไม่นานตราหมีก็กลับมาครองบอลได้ตามเดิมและที่น่าสนใจคือมูฟเมนท์+เชิงบอลดีกว่าเยอะไม่ว่าจะเป็นการเข้าพรวดก็เจอแตะลอดดากหรือเรเยสเล่น 2 คนกับฟอร์ลันในฝูงแนวรับลิเวอร์พูล 3-4 ก็สามารถทำชิ่งฝ่าไปถึงหน้าเขตโทษได้ งานนี้หงส์แดงอาจต้องพึ่งลูกฟรีคิกหรือเตะมุมซะแล้ว

หมดครึ่งแรกตราหมีนำอยู่ 1-0 และท่าไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรอาจจะโดนเพิ่มอีกโดยจากรูปเกมที่ออกมาไรอัน บาเบิ้ลน่าจะมาเพิ่มความคล่องในตำแหน่งปีกขวาแล้วให้เคาท์ยืนหน้าแทนเอ็นก็อกมากกว่า

ครึ่งหลัง

หงส์แดงเริ่มต้นได้โอเคเลยการเคาะบอลแล้วขยับดีกว่าครึ่งแรกถมถืดแต่จะมาตามสไตล์แค่ 3-4 นาทีแรกแล้วกลับไปรับตามเดิมหรือเปล่าคงต้องตามดูกันต่อ

ฟอร์ลันหลุดเดี่ยวทำหมูหก
นาที 53 ไม่รู้ฟอร์ลันคิดอะไรอยู่หลังเพื่อนตักบอลโด่งข้ามเซนเตอร์ให้หลุดล้ำหน้าแต่แทนที่จะเอาบอลลงแล้วลากไปล่อเป้ากับเรน่าตัวตัวแต่ดันกระโดดแยงบอลเหมือนคืนหลังให้เรน่าแล้วไลน์แมนไมยกธงด้วย เล่นเอาอดีตหอกผีถึงกับกุมหัว

เรน่าช่วยชีวิตหงส์
อีก 5 นาทีต่อมาหงส์แดงเกือบโดนเม็ดสองจากจังหวะกระชากพาทัวร์ของฟอร์ลันหลุดถึงเส้นหลังแล้วตบบอลย้อยปลิ้นมาเสาสองให้อูฟาลูซี่แบ็คจอมบุกสไลด์ยิงเหน่งๆแต่เรน่าเฝ้าเสาอยู่พุ่งตะปบทิ้งออกหลังเสียเตะมุม

ราฟาแก้เกมส่งบาเบิ้ล
นาที 65 ราฟาอยู่เฉยไม่ไหวส่งไรอัน บาเบิ้ลลงมาแทนดาวิด เอ็นก็อกเพื่อเพิ่มความหวือหวาในแนวรุกให้มากกว่านี้

แต่วันนี้นักเตะหงส์เข้าพรวดกันเยอะนี่มาสเคราโน่เจอดากไปอีกคน แบบว่าเหมือนบอลเด็กเล่นกับผู้ใหญ่ยังไงไม่รู้เข้าบอลแต่ละคนไม่มีเชิงกันเลย


เคาท์ทำลั่นขวดโอกาสทอง
เกมของทีมเยือนเริ่มดีขึ้นและนาที 70 บาเบิ้ลอุตสาห์แทงบอลทะลุไปหน้าเขตโทษให้เคาท์แต่ดันจับไม่ดีเลยเข้ามุมแคบหมดโอกาสหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษอย่างน่าเสียดาย เวรกรรมของชาวหงส์จริงๆ

เรน่าเซฟ-เอ๋อเคลียร์
อีก 4 นาทีต่อมาลิเวอร์พูลรอดตายหลังอูฟาลูซี่ลากตัดตรงหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยอีซ้ายบอลพุ่งเลียดสุดแรงร้อนถึงเรน่าต้องล้มตัวปัดแล้วจังหวะที่ฟอร์ลันจะเข้ามาซ้ำคาร์ราเกอร์หวดทิ้งทันเวลานิดเดียว

หงส์ยังตื้อจะเอา 1-1
ก่อนหมดเวลา 4 นาทีลิเวอร์พูลหวิดได้ประตูตีเสมอหลังเจอร์ราร์ดได้ลูกหลุดทะลุตัดหลังแนวรับเข้าไปปาดบอลเลียดจากริมกรอบโทษแต่ถูกเคลียร์ทิ้งที่จุดนัดพบก่อน


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แอต.มาดริด :
ดาวิด เด เอเกีย,โทมัส อูฟาลูซี่,อันโตนิโอ โลเปซ,หลุยส์ แปเรีย,อัลบาโร่ โดมิเกซ,ซิเมา(บาเลร่า น.77 ),อัสซุนเซา,ราอูล การ์เซีย,โฆเซ่ เรเยส(คามาโช่ น.90+2),ดิเอโก้ ฟอร์ลัน(ซัลวิโอ น.85),โฆเซ่ มานูเอล ฆูราโด้

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์,โซติริออส คีย์เกียกอส ,เกล็น จอห์นสัน,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,ยอสซี่ เบนายูน,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,ลูคัส เลว่า,เดิร์ก เคาท์,ดาวิด เอ็นก็อก(บาเบิ้ล น.64)
















_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์