ฟอร์มเทพ อคิน ตอร์ยิง ต้อนบ๋วย 4-1 ขึ้นที่ 5

อาควิควงตอร์เรสยิง!หงส์ต้อนบ๊วย 4-1 ขึ้นที่ 5

หงส์แดงลิเวอร์พูลระบายความอัดอั้นไล่สโตรกปอร์ทสมัธบ๊วยของตารางแบบพับสนามข้างเดียว 4-0 โดยเกมนี้นอกจากสุดหล่อเฟร์นานโด ตอร์เรสจะเหมาสองแล้วอัลแบร์โต้ อาควิลานี่ยังเปิดซิงลูกแรกให้ตัวเองพร้อมนำทีมขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 5 เรียบร้อยแล้ว

พรีเมียร์ลีก

วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2553

ลิเวอร์พูล 4-1 ปอร์ทสมัธ

ประตู : 1-0 ตอร์เรส น.26,2-0 บาเบิ้ล น.28,3-0 อาควิลานี่ น.32,4-0 ตอร์เรส น.77,4-1 เบลฮัดจ์ น.88

เกมในบ้านเจอทีมที่ไม่แกร่งมากนักราฟาเอล เบนิเตซจึงเลือกใช้อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ยืนกลางคู่ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ตามสูตรโดยไรอัน บาเบิ้ลได้เป็นตัวจริงในเกมนี้เช่นกัน

ครึ่งแรก

หงส์ลุยแหลกตามคาด
หงส์แดงเริ่มเกมตามสไตล์เดิมคือเปิดเกมรุกบดสายฟ้าแล่บตั้งแต่เขี่ยบอลหมายจะประเดิมลูกแรกให้เร็วที่สุดโดยได้ฟรีคิกริมกรอบโทษช่วงแรก 2 หนและเป็นตอร์เรสที่เก็บตกลูกชุลมุนยิงไปถูกแขนริคาร์โด้ โรช่าตรงระยะ 7 หลาแต่กรรมการปล่อยให้เล่นต่อ

ปอมปีย์ฮีดสู้
พาผ่านไป 6-7 นาทีระดับเกมของเจ้าถิ่นเริ่มคลายลงตามสูตรโดยที่ปอมปีย์เริ่มโต้กลับพาบอลมาอยู่ในแดนลิเวอร์พูลมากขึ้นแต่โดยรวมแล้วยังเป็นแข้งของพลพรรคราฟาเอล เบนิเตซที่พยายามทำเกมเข้าใส่อย่างเป็นเนื้อเป็นหนังมากกว่า

หงส์ต่อบอลเทพ-ขิงกดข้ามคาน
นาที 16 มูฟเมนท์สวยๆของลิเวอร์พูลจากการเล่นของ 4 ผู้ยิ่งใหญ่เริ่มจากอาควิลานี่ได้บอลเลี้ยงเอื่อยๆขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษท่ามกลางแนวรับทีมเยือนที่ยืนเต็มพรืดก่อนฝากบอกให้ตอร์เรสที่ยืนหันหลังแปะบอลเบาๆคืนให้มักซี่ที่วิ่งมาเหมือนจะยิงแต่ป้ายออกให้เจอร์ราร์ดซัดไกลข้ามคานออกไป สุดยอดมูฟเมนท์ที่เราต้องการ!!

อาควิหลุดซัดเกือบหาย
อีกนาทีเดียวต่อมาลิเวอร์พูลน่าขึ้นนำหลังตอร์เรสที่เจอตัวประกับบี้ติดหลังแต่ยังปาดบอลออกปีกให้มักซี่แปทำชิ่งเร็วโด่งให้อาควิลานี่วิ่งเข้าในกรอบแล้ววอลเลย์ตามน้ำหักข้อตรงระยะ 10 หลาบอลพุ่งเฉี่ยวเสาไกลออกไปจนเดอะค็อปร้องซี้ดกันเลยทีเดียว

วันนี้อาควิพยายามขอบอลและทำเกมตามศักยภาพที่มีอยู่ทำให้ลิเวอร์พูลมีตัวช่วยทำเกมเพิ่มขึ้นแต่เหมือนจะยังสนิมเกาะจ่ายบอลเสียหลายหน

ปอมปีย์มอบโชค ตอร์เรสสังหาร 1-0
อย่างไรก็ตามนาที 26 ปอมปีย์มาพลาดเสียประตูอย่างไม่น่าเชื่อหลังเจมี่ แอชดาว์นผู้รักษาประตูเงอะงะรับบอลที่เพื่อนส่งคืนหลังจนเจอร์ราร์ดวิ่งมาบล็อกบอลไปเข้าทางมักซี่ที่พักอกในเขตโทษแล้วไหลตั้งให้ตอร์เรสวิ่งมาแปโล่งๆ 7 หลาเข้าไปง่ายดาย 1-0 แล้ว

ไหลเร็ว!บาเบิ้ลกด 2-0
จากนั้นอีก 2 นาทีหงส์แดงมาได้ลูก 2 อย่างง่ายดายหลังลูกเปิดเข้าเขตโทษเป็นตอร์เรสพักอกลงตรงเสาสองระยะ 7 หลาแล้วหลอกจะยิงก่อนล็อกออกซ้ายแต่ติดตัวประกบจนมาเล่นต่อคราวนี้ไหลคืนใกล้ๆให้บาเบิ้ลดึงจังหวะหรอกจนโอฮาร่าสไลด์จั่วลมแล้วยิงฉีดยาทะลุตัวบล็อกบอลเสียบหน้าต่างไกลเข้าไป งามหยด 2-0

เจ้าชายเลือดผสมเปิดซิงแล้ว!!!
อีก 4 นาทีต่อมาหรือนาที 32 เสียงเดอะค็อปในแอนฟิลด์ดังกระหึ่มหลังเจอร์าร์ดไหลบอลเข้าเขตโทษมุมอับตรงแถวๆเส้นหลังให้ตอร์เรสวิ่งมาแล้วดีดส้นย้อนกลับมาจนหัวขิงวิ่งมาเล่นต่อแล้วพอจังหวะที่จ๊ะเอ๋กับกองหลังที่เข้าหาบอลพร้อมกันเป็นกัปตันทีมพลังไดนาโมปล่อยไม่จับเลยมาเข้าทางอาควิลานี่ที่วิ่งมาซัดด้วยอีซ้ายจากระยะ 7 หลาบอลเลียดเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นลูกแรกของเจ้าชายเลือดผสมในเกาะอังกฤษอีกกด้วย

ตอร์เรสซัดชนเสา
ตอนนี้เกมวันเวย์แล้วนาที 35 ตอร์เรสเกือบเบิ้ลให้ตัวเองหลังเลี้ยงจี้เข้าหาฟินแนนเด็กเก่าตรงริมกรอบโทษแล้วลากตัดเข้าขวาก่อนยิงเร็วติดไซด์บอลพุ่งชนเสาจากนั้น GJ มาเก็บตกแล้วไหลเข้าเส้นหลังให้มักซี่ตบบอลย้อนกลับมาให้เจอร์ราร์ดวิ่งมาแปเน้นๆติดไซด์บอลเฉี่ยวเสาออกหลังสุดเสียว

ปิกิยอนหนีล้ำหน้าแต่ยิงออก
ลิเวอร์พูลบุกเพลินๆก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาทีเกือบโดนตีไข่แตกหลังดิยอฟชิพบอลจากระยะ35 หลาข้ามหัวกองหลังให้ปิกิยอนวิ่งทะลุหลุดกับดักล้ำหน้าก่อนหักข้อยิงในเขตมุมแคบบอลถากเสาไกลออกไปแบบน่าเข้าสุดๆ

ครึ่งหลัง

หงส์นวดน่าได้ 2 หนตคิด
เริ่มเล่นมา 6 นาทีลิเวอร์พูลกลับมาคะนองอีกครั้งและเป็นทีมเวิร์คที่เพลินตาเริ่มตั้งแต่ GJ ลากมาถึงริมกรอบโทษแล้วปาดมาหน้าเขตโทษให้ตอร์เรสพิงบอลแล้วแตะต่อให้อาควิทำชิ่ง 1-2 กับบาเบิ้ลในกรอบก่อนที่อดีตแข้งโรม่าจะป้ายต่อให้เจอร์ราร์ดที่ยืนโล่งๆคล้ายวิญญาณตรงระยะ 8 หลาแต่จับไม่ดีทำให้ต้องมายิงด้วยอีซ้ายติดบล็อกแอชตัน

จังหวะต่อเนื่องกันมาอาควิโชว์แตะลอดดากฟินแนนที่เข้าพรวดตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วแยงบอลให้เจอร์ราร์ดที่ไหลตั้งออกนอกเขตให้บาเบิ้ลวิ่งมายิงแบบแปด้านข้างเท้าบอลแฉลบกองหลังนิดนึงแล้วพุ่งชนคานได้เตะมุม

เรน่าซูเปอร์เซฟ
นาที 55 เรน่าบอกขอมีส่วนร่วมบ้างเมื่อเบลฮัดจ์ลากหนี GJ แล้ววิ่งมาตบบอลจากริมกรอบโทษให้บราว์นซัดเต็มๆด้วยอีซ้ายร้อนถึงเปเป้ต้องปัดมือเดียวตามสัญชาตญาณบอลข้ามคานออกไป

มักซี่ขอลองบ้าง
ถึงนาที 60 มักซี่จะขอเปิดซิงบ้างหลังลูกเตะมุมบอลทะลักล้นออกมานอกเขตโทษเป็นมักซี่ที่วิ่งสวนยิงตูมเดียวบอลบดออกข้างเสาไปเอง

ตอร์เรสหาตำแหน่งส่อง
นาที 72 หลังลิเวอร์พูลเล่นแบบเคาะๆไม่เร่งมากก็มาเสียวอีกหลังมักซี่หลุดถึงเส้นหลังในเขตโทษแล้วตบบอลหักศอกย้อนกลับมาให้ตอร์เรสวางเท้ายิงเต็มๆจากระยะ 12 หลาแต่บอลเลียดเข้ามือแอชดาว์น

หัวขิงเกเรตีศอก
จังหวะที่มักซี่ลากบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วจังหวะ off the ball ที่บราว์นวิ่งประกบมากับเจอร์ราร์ดปรากฏฝ่ายแรกกำลังใช้ท่อนแขนขวางไม่ให้วิ่งทำทางเข้าเขตโทษแต่เจอทีเด็ดหัวขิงที่ชิงตีศอกจามใส่ด้านหลังล้มทั้งยืนแต่ผู้ตัดสินสจ๊วต อัทเวลล์แค่เตือนเท่านั้น

เคสนี้เอฟเอจะไม่สามารถลงโทษย้อนหลังได้หากผู้ตัดสินรายงานลงไปว่าเห็นเหตุการณ์นี้และไม่ได้ให้ใบเหลืองแต่ถ้าระบุว่าไม่เห็นหรือไม่เคลียร์ เจอร์ราร์ดอาจซวยได้

อาควิแทงทะลุตอร์เรสซัด 4-0
ก่อนหมดเวลา 13 นาทีลิเวอร์พูลมายิงลูก 4 จากลูกฟรีคิกเร็วกลางสนามของมาสเคราโน่ที่ฝากให้อาควิลานี่ที่โชว์สายตาจ่ายบอลเลียดทะลุช่องให้ตอร์เรสหลุดเข้าเขตโทษแล้วล็อกตัดออกเท้าขวาจนโรช่าหลังหักก่อนยิงแหวกแซนวิชทั้งโรช่าและฟินแนนบอลเบียดเสาแรกเข้าไปสุดยอด ลูกทะลุช่องแบบนี้หาดูไม่ค่อยได้ในฤดูกาลนี้ ต้องหามาชมกันนะพี่น้องแต่เดอะค็อปอาจต้องทำใจที่เกมแดงเดือดวันอาทิตย์อาควิอาจนั่งสำรองตามสูตรเยือนต้องรับไว้ก่อน

อาควิยิงไกลได้เสียว
นาที 81 อาควิลานี่วันนี้ทั้งยิงและจ่ายเลยมั่นใจสุดๆโดยแตะหนีตรงหน้ากรอบเขตโทษแล้วยิงเลียดติดไซด์แต่แอชดาว์นอ่านทางล้มตัวรับเข้าซองสบาย

ปอมปีย์ตีไข่แตก
แต่นาที 88 สกอร์ไม่ค่อยสวยหลังปอร์ทสมัธมาตีไข่แตกจังหวะที่เบลฮัดจ์วิ่งหลุดมาเปิดบอลตรงริมกรอบโทษเลยมาเสาสองเป็นปิกิยอนวิ่งมายิงหักข้อมุมแคบระยะ 6 หลาบอลกลายเป็นย้อนไปเสาไกลเลยคาร์ราเกอร์ก่อนที่เบลฮัดจ์คนที่เปิดแปเผาขนเข้าไปง่ายๆ

หมดเวลาลิเวอร์พูลเปิดบ้านเอาชนะบ๊วยปอร์ทสมัธสบายๆ 4-1 แซงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 รวมทั้งไล่จี้สเปอร์สอันดับ 4 เหลือแต้มเดียวแต่เตะมากกว่าหนึ่งเกม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เกล็น จอห์นสัน(เคลลี่ น.70),เจมี่ คาร์ราเกอร์,,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,เอมิเลียโน่ อินซัว,อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ *,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,มักซี่ โรดริเกซ,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด(เบนายูน น.74),ไรอัน บาเบิ้ล,เฟร์นานโด ตอร์เรส(เอ็นก็อก น.80)

ปอร์ทสมัธ : เจมี่ แอชดาว์น,สตีฟ ฟินแนน,มาร์ค วิลสัน,ริคาร์โด้ โรช่า,เฮอร์มาน ไฮร์ดาร์สสัน(อาเบยี่ น.75),ไมเคิ่ล บราว์น,ปาเป้ บูบ้า ดิยอป(โมโคเอน่า น.64 ),เจมี่ โอฮาร่า(เวบเบอร์ น.85),อารูน่า ดินดาน ,เฟเดริค ปิกิยอน,นาเดียร์ เบลฮัดจ์























_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####


ขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดี โดย SoccerSuck ครับ