พ่ายคารัง สมใจราฟาฯ ร่วงเอฟเอคัพ

ไปอีกถ้วย!หงส์ช็อกแพ้เรดดิ้งร่วงคาบ้าน

หงส์แดงลิเวอร์พูลยุคราฟาเอล เบนิเตซยังการันตีความตกต่ำได้อย่างต่อเนืองหลังกำลังจะเข้ารอบอยู่แล้วแต่ถูกเรดดิ้งทีมท้ายตารงจากเดอะแชมเปี้ยนชิพตีเสมอจากจุดโทษช่วงทดเจ็บก่อนมาเสียท่าช่วงต่อเวลาร่วงเอฟเอ คัพตามแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชนิดฮาที่หลังดังกว่าแถมเฟร์นานโด ตอร์เรสเจ็บตั้งแต่ต้นเกมอีกต่าหาก

เอฟเอ คัพรอบ 3 นัดรีเพลย์

วันพุธที่ 13 มกราคม 2553


ลิเวอร์พูล 1-2 เรดดิ้ง
(หลังเสมอในเวลา 90 นาที 1-1)

ประตู : 1-0 เบอร์ทรานด์ น.45+1(ทำเข้าประตูตัวเอง),1-1 ซิเกิร์ดสสัน น.90+1(จุดโทษ),1-2 ลอง น.100


ราฟาเอล เบนิเตซปรับทัพเล็กน้อยโดยให้ดิเอโก้ คาวาเลียรี่เฝ้าเสาแทนโฆเซ่ เรน่าและใช้งานฟิลลิป เดเก้นเป็นแบ็คขวาเพื่อเคาะสนิมแทนเกล็น จอห์นสันที่เจ็บ ส่วนตัวเป้งๆลงกันอย่างครบครันทั้งเฟร์นานโด ตอร์เรส,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดและลูคัส

ก่อนเกมมักซี่ โรดริเกซลงมาโบกมือให้เดอะค็อปหลังเพิ่งย้ายมาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัวได้หมายเลข 17

ครึ่งแรก

หงส์เร่งเกมรุกตามฟอร์ม
หงส์แดงลุยแหลกตั้งแต่วินาทีแรกและดูเหมือนตอร์เรสจะโดนตามเก็บเหมือนนัดแรกไม่มีผิดเพี้ยนจากนั้นนาทีที่ 3 เจอร์ราร์ดเปิดบอลจากริมกรอบโทษแต่อินกริมาร์สสันสะกิดบอลหมายสกัดยังดีที่ผ่านเสาสองไม่เข้าประตูตัวเอง

คาวาเลียรี่ออกแรงเซฟ
นาทีที่ 9 เรดดิ้งได้ฟรีคิกตรงหน้าประตูเยื้องตรงหัวมุมด้านซ้ายหลังลูคัสไปทำฟาว์ลและเป็นซิเกิร์ดสสันปั่นหลอกยิงข้ามกำแพงไปที่เสาแรกร้อนถึงคาวาเลรี่นายทวารสำรองต้องบินทุบออกหลังไปก่อน

ตอร์เรสยิงก๋อง
นาที 19 เจอร์ราร์ดพลิกบอลตรงครึ่งวงกลมในแดนเรดดิ้งก่อนบรรจงไหลเลียดให้ตอร์เรสหลุดเข้าเขตโทษแต่มุมแคบขวาสุดแถมไปฝืนยิงบอลเบาค่อยๆออกเสาไป

คาร์ร่าทำเอ๋อเกือบโดนก่อน
แต่อีก 3 นาทีต่อมาเจ้าถิ่นเกือบช็อกหลังอาควิลานี่จ่ายบอลให้ตอร์เรสไม่ดีเจอตัดสวนกลับมาเป็นไซม่อน เชิร์ชวิ่งมาเอาตรงปีกขวาแล้วหลอกแอกเกอร์จนหลังหักก่อนเปิดมาที่จุดนัดพบเสาสองแล้วคาร์ราเกอร์ที่เข้าถึงก่อนไม่รู้คิดยังไงถึงปล่อยข้ามทำให้ราเซียคส้มหล่นยิงยังดีบอลปลิ้นข้ามคานออกไป

เรดดิ้งเกือบนำอีกแล้ว
เกมรับลิเวอร์พูลชักยังไงๆอยู่เพราะนาที 26 ได้เตะมุมดีๆเจอสวนกลับเกือบพังอีกเมื่อแม็คอานัฟฟ์กระชากบอลเดี่ยวขึ้นมาตรงปีกขวาก่อนเปิดตวัดมาที่ระยะ 6 หลาแต่เชิร์ชพุ่งโขกถึงก่อนแอกเกอร์กับอินซัวเน้นๆแต่ดันวืดบอลออกหลังผ่านเสาเล่นเอาเดอะค็อปหัวใจเกือบวาย

ตอร์เรสเจ็บถูกเปลี่ยนออก
ก่อนถึงครึ่งชั่วโมงเฟร์นานโด ตอร์เรสได้รับบาดเจ็บและราฟาเอล เบนิเตซคงปลอดภัยไว้ก่อนส่งดาวิด เอ็นก็อกลงมาแทน

มักซี่,ดัลกลิช,ริชชี่นั่งหน้าเครียด
เกมของลิเวอร์พูลเป็นรองนานแล้วเรียกว่าเรดดิ้งต่อบอลหาช่องกันได้ดีกว่าและยิ่งมาเสียตอร์เรสไปแบบนี้เกมนี้น่าจะเหนื่อยเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมาอีกเช่นเดิม

กล้องจับมาที่มักซี่แข้งใหม่นั่งหน้าเครียดไม่รู้กำลังมึนที่ต้องแย่งตำแหน่งกับเดิร์ก เคาท์ลูกรักหมายเลข 2 หรือเปล่าส่วนเอียน รัชและเคนนี่ ดัลกลิชนั่งคิ้วขมวดติดกันอีกด้วย

เบนายูนปั่นเกือบซวบ
ก่อนหมดเวลา 5 นาทีเดเก้นแบ็คพ่อเลี้ยงลากโท่งๆมาถึงหน้าเขตโทษแล้วปาดออกซ้ายให้เบนายูนยิงไซด์ปั่นบอลเลี้ยวเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปแบบน่าเข้าสุดๆ

เรดดิ้ง Og. หงส์ 1-0 ทดเจ็บ
แต่แล้วช่วงทดเจ็บลิเวอร์พูลขึ้นนำแบบโชคช่วยหลังลูกเตะมุมของเจอร์ราร์ดเรดดิ้งโขกเคลียร์แล้วลูกคัสซึ่งยืนอยู่นอกเขตโหม่งคืนให้กัปตันตรงริมกรอบโทษก่อนยกข้ามหนีตัวประกบบอลไปถึงเอ็นก็อกที่ยืนหันหลังพิงตัวมาร์คตรงระยะ 6 หลาเลยแตะเบาๆให้เจอร์ราร์ดปาดบอลเลียดหมายจะให้เพื่อนเข้าฮอร์ตแต่ดันไปแฉลหน้าแข้งเบอร์ทรานด์เข้าประตูตัวเองซะงั้น

ครึ่งหลัง

ราฟาเปลี่ยนเอาไรอัน บาเบิ้ลมาแทนสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดไม่รู้พักหรือส่งแข้งทีมชาติฮอลแลนด์มาเล่นเรียกราคาหรือเปล่าแต่การต่อบอลทำเกมของเจ้าถิ่นเหมือนจะดีขึ้นเล่นเอาเรดดิ้งต้องถอยไปรับกันช่วงแรกๆ

หงส์ทีมเวิร์คเริ่มเนียน
ไม่น่าเชื่อว่าพอไร้ตอร์เรสกับเจอร์ราร์ดแข้งลิเวอร์พูลเล่นดีกว่าครึ่งแรกผิดหูผิดตาโดยเฉพาะทีมเวิร์คการจ่ายบอลทำทางดูเนียนตาและผ่านมาจนถึงนาที 60 คนที่เล่นโดดเด่นกลับเป็นเคาท์และเดเก้นในฝั่งขวา เล่นแบบนี้แหละถึงจะเรียกว่าซ้อมกันมาและไม่ต้องพึ่งเงินอย่างเดียว

หงส์รอดเหลือเชื่อ
แต่นาที 66 ลิเวอร์พูลเกือบช็อกหลังลูกฟรีคิกปีกขวาบอมบ์โด่งเข้าเขตโทษแข้งเจ้าถิ่นตามตัวกันไม่ดีปล่อยให้อินกริมาร์สสันโถมาโขกเหน่งๆ 6 หลายังดีที่วืดไม่งั้นตุงแน่นอน

อาควิเกือบเปิดซิง
นาที 72 อาควิลานี่ลุ้นทำประตูแรกในอังกฤษหลังเบนายูนหลอกล่อตัวประกบตรงริมกรอบโทษแล้วเปิดครอสข้ามเอ็นก็อกเป็นเจ้าชายน้อยตอร์ปิโด 6 หลาผิดเหลี่ยมไม่ตรงกรอบแถมเจอตัวประกบฟาดหน้าเป็นของแถมอีกต่างหาก

ช็อก!แม็คอานาฟฟ์โซโล่เดี่ยวยิงไม่เข้า
ก่อนหมดเวลา 10 นาทีเรดดิ้งน่าจะตีเสมอได้อย่างที่สุดหลังแม็คอานาฟฟ์ลากบอลตั้งแต่แดนตัวเองหลบ 4 คนไล่ตั้งแต่อาควิลานี่แล้วมาหนีทั้งแอกเกอร์,คาร์ราเกอร์ก่อนหลุดเข้าเขตโทษเดี่ยวๆกับคาวาเลียรี่ที่ทิ้งตัวดักคนละทางแต่ตอนยิงแข้งทีมเยือนแปสวนกะเล่นทางบอลค่อยๆผ่านเสาออกไปสุดช็อก ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เป็นประตู แบบนี้เรียกหยามศักดิ์ศรีเกมรับทีมพรีเมียร์ลีกสุดๆ

เอ๋อพลาดอีก
ช่วงท้ายๆเดอะค็อปนั่งกันไม่ติดเพราะเจอบุกหนักนาที 85 คาร์ราเกอร์ปล่อยให้ลูกเปิดข้ามหัวจนเชน ลองตัวสำรองวิ่งมาเสือกหัวโขกเหน่ง 8 หลายังดีที่บอลข้ามคานไปเอง

หงส์เกือบเน่า คาวาเลียรี่เซฟช่วยชีวิต
ทดเจ็บนาทีแรกเกือบมีต่อเวลาซะแล้วหลังซิเกิร์ดสสันเก็บตกบอลหน้าเขตโทษก่อนปั่นไซด์ต่ำแต่คาวาเลียรี่ล้มตัวปัดแล้วตัวซ้ำวิ่งมาเล่นก็ล้ำหน้าเลย

หงส์ซวยเสียจุดโทษ 1-1
แต่ช่วงทดเจ็บเกิดปาฏิหาริย์เมื่อลูกคลุกคลิกเบนายูนไปหวดเชน ลองตัวสำรองในเขตโทษเสียจุดโทษก่อนที่ซิเกิร์ดสสันรับหน้าที่สังหารหลอกคาวาเลียรี่ไปคนละทางตีเสมอ ต้องต่อเวลากันใหม่

ต่อเวลาครึ่งแรก
เริ่มมาลิเวอร์พูลก็ปูพรมเข้าใส่หลังจากหยามตีเสมอจนต้องมาเหนื่อยกันอีก 15 นาทีแต่เรดดิ้งกลายเป็นบอลได้ใจไปแล้วเพราะถือว่าตายแล้วเกิดใหม่ก็ว่าได้และตอนนี้สเคอร์เทลมาแทนเดเก้นแล้วให้คาร์ร่าที่เป็นบ่อไปเน่าตรงแบ็คขวาห่างๆประตูเอาไว้

บาเบิ้ลซัดตรงตัว
เล่นมา 7 นาทีอินซัวลากขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วเจอรุม 3 เลบรีบส่งเผือกร้อนให้บาเบิ้ลที่ต้องตามมานัวแย่งกับกองหลังทีมเยือนแล้วตวัดยิงตรงเส้นเขตโทษแต่เฟเดริชี่ล้มตัวรับเอาไว้พอดี

หงส์ช็อก เรดดิ้งพลิก 2-1
แต่แล้วอีก 3 นาทีต่อมาหรือนาทีที่ 100 หงส์แดงต้องสังเวยประตูจนได้โดยเริ่มจากเบนายูนที่ถูกกุนนาร์สสันแบ็คหลอกตรงปีกขวาก่อนมาแตะลอดดากอินซัวแล้วเปิดเข้ามาที่จุดนัดพบ 6 หลาและเป็นกุนนาร์สสันโขกเช็ดเผาขนตุงตาข่ายไม่มีเหลือ

ยูนหลุดเดี่ยวไม่เข้า!!
นาทีสุดท้ายของการต่อเวลาเบนายูนหลุดเดี่ยวโคตรๆก่อนเลี้ยงไปล่อเป้ากับเฟเดริซี่แต่ตอนยิงหมดราคาเพราะแปไปตรงๆจนติดบล็อกซะงั้น แก้ตัวไม่สำเร็จจริงๆ

ต่อเวลาครึ่งหลัง
ลิเวอร์พูลเล่นบอลสเปะสปะซะแล้วเพราะต้องรีบเร่งเอาประตูและนาที 112 ลูคัสทำชิ่งกับเคาท์ก่อนปาดให้เอ็นก็อกได้พลิกยิงในเขตโทษระยะ 10 หลาแต่ดันไปแป๊กบอลออกหลังสุดเศร้า

ช่วงเวลาที่เหลือลเวอร์พูลทำได้แค่โยนไปโยนมาแถมไร้ตัวที่จะพลิกไปเองอย่างตอร์เรสหรือเจอร์ราร์ดทำให้งานนี้จึงจบลงตั้งแต่ถูกนำและตกรอบชวดเฝ้าบ้านนั่งนับเงินเจอเบิร์นลีย์ให้ดูโอมะกันและเดอะค็อปเจ็บช้ำอีกนัดในฤดูกาลนี้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
ดิเอโก้ คาวาเลียรี่,ฟิลิป เดเก้น (สเคอร์เทล น.91),เจมี่ คาร์ราเกอร์,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,เอมิเลียโน่ อินซัว,ลูคัส เลว่า,อัลแบร์โต้ อาควิลานี่,เดิร์ก เคาท์,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด(บาเบิ้ล น.46),ยอสซี่ เบนายูน,เฟร์นานโด ตอร์เรส(เอ็นก็อก น.29)

เรดดิ้ง : อดัม เฟเดริซี่,ไบรยาร์ กุนนาร์สสัน ,แมทธิว มิลส์ ,อีวาร์ อิกริมาร์สสัน ,ไรอัน เบอร์ทรานด์,โยบี่ แม็คอานาฟฟ์,คาลิฟ่า ซิสเซ่(ซิสเซ่ น.59),เย็ม คาราคาน (ลอง น.81),กลิฟี่ ซิเกิร์ดสสัน,เกรกอร์ซ ราเซียค(เคเบ้ น.65),ไซมอน เชิร์ช


 



























http://www.lentee.com/soccer/viewtopic.php?t=228987&sid=d35247e0a9cabe9ebd9ba5a7199387bc

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์