ฝันเปียก!หงส์พ่ายรองบ๊วยลิเกลาโลง

ฝันเปียก!หงส์พ่ายรองบ๊วยลิเกลาโลง

ทีมไหนท้อแท้หมดกำลังใจมาเจอหงส์แดงลิเวอร์พูลได้ตั้งตัวใหม่ทุกทีล่าสุดมิดเดิลสโบรห์ที่ไม่ชนะใครในลีกมา 14 นัดเปิดบ้านขย่มทีมลุ้นแชมป์พังพาบ 2-0 ทำให้ตอนนี้แมนฯยูไนเต็ดที่ไม่ได้ลงเล่นถูกหวยนำอยู่ 7 แต้มแถมเตะน้อยกว่าหนึ่งนัดและร่วงไปอยู่ที่สามเรียบร้อยแล้ว

มิดเดิลสโบรห์ 2-0 ลิเวอร์พูล

ประตู : 1-0 อลอนโซ่ น. 32(ทำเข้าประตูตัวเอง),2-0 ตุนกายน.63

หลังกรำศึกหนักกับเรอัล มาดริดมาเมื่อกลางสัปดาห์ราฟาเอล เบนิเตซปรับทัพหลายตำแหน่งโดยให้มาร์ติน สเคอร์เทลยืนแบ็คขวาให้คาร์ราเกอร์จับคู่กับฮูเปียส่วนเบนายูนฮีโร่ได้พักและนาบิล เอลซาร์ลงแทนเช่นเดียวกับไรอัน บาเบิ้ลรับหน้าที่ปีกซ้ายหลังอัลเบิร์ต ริเอร่าติดแบนและสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดยืนห้อยหลังเดิร์ก เคาท์

ด้านมิดเดิลสโบรห์ที่คึกคักจากชัยชนะเหนือเวสต์แฮมแทบไม่ต้องปรับอะไรมากเพราะส่งตัวหลักครบทั้งดาวนิ่ง,ตุนกาย,โอนีลแถมได้อาลิอาดิแยร์ที่หายเจ็บกลับมาอีกด้วย

ครึ่งแรก

เริ่มเกมมาหงส์แดงเป็นฝ่ายลุยใส่ก่อนโดยใช้การต่อบอลทำชิ่งกันแต่ยังไม่ผ่านแนวรับเดอะโบโร่ที่วันนี้ตั้งใจจะดับหงส์แดงโดยเฉพาะหลังโค่นเวสต์แฮมร่วงเอฟเอ คัพเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ยังไม่ทันไรสเคอร์เทลก็เติมเกมรุก 2-3 ครั้งแบบร้อนวิชาหลังถูกจับมายืนแบ็คขวาแต่ตอนนี้เล่นมา 7-8 นาทียังไม่มีโอกาสเลยสำหรับทั้งสองทีม

พูดไม่ทันขาดคำนาทีที่ 9 ทีมเยือนน่าจะขึ้นนำสุดๆหลังเอล ซาร์ฝากบอลให้เคาท์ที่แม้จะจับบอลลนลานหน้ากรอบโทษไปหน่อยแต่ก็ยังทำชิ่งไหลให้ปีกโมร็อกโกหลุดเข้าไปล่อเป้าโจนส์ที่ล้มตัวบล็อกลูกยิงเต็มๆก่อนที่บาเบิ้ลจะเข้ามานัว

อีก 2 นาทีต่อมาดาวนิ่งเปิดบอลจากปีกซ้ายย้อยมาที่กรอบ 6 หลาออเรลิโอมัวแต่ช้ามองบอลทำให้โอนีลแหย่ขาดีดยิงเผาขนยังดีบอลไม่ไกลตัวเรน่าที่ล้มตัวปัดก่อนตระครุบเอาไว้ได้อีก

นาทีที่ 14 หงส์แดงเกือบอีกแล้วหลังฮูเปียโชว์การจ่ายบอลแทงทะลุให้ออเรลิโอหลุดขึ้นมาทางปีกซ้ายก่อนที่แบ็คหน้าหยกครอสเข้ามาให้เคาท์จับบอลลงแล้วยิงด้วยอีซ้ายตรงจุดโทษพอดีบอลแสกหน้าโจนส์ที่มือไวปัดข้ามคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ

เกมแดนกลางเป็นของทีมเยือนอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและการต่อบอลทำชิ่งต้องบอกว่าทำได้ดีเอามากๆแถมนาที 16 เจอร์ราร์ดพลิกบอลสวยแล้วแทงทะลุให้บาเบิ้ลวิ่งกระชากเข้าเขตโทษก่อนยิงจากมุมแคบตรงกรอบ 8-9 หลาซึ่งโจนส์ล้มตัวเซฟก่อนตามมาตระครุบอีกที

นาที 26 ลิเวอร์พูลเกือบเสียหลังดาวนิ่งหลุดเข้ากรอบโทษทางซ้ายก่อนเปิดเข้าในล้นยาวออกมาจนเจอบาเบิ้ลมาล้วงกระชากสวนกลับก่อนฝากให้เจอร์ราร์ดที่ออกขวาให้นาบิล เอล ซาร์สับขาหลอกตรงกรอบโทษฝั่งขวาแล้วตบกลับมาให้อลอนโซ่ยิงแบบปั่นไซด์ตามสไตล์บอลโค้งข้ามคานออกไปนิดเดียว

วันนี้เอล ซาร์เล่นโอเคเลยการมีส่วนร่วมกับเกมและพาบอลหนีทางปีกขวาป่วนแข้งเจ้าถิ่นได้ดีในระดับนึงแต่ตอนนี้อยู่ที่ปัญหาการจบสกอร์ในกรอบโทษที่ยังไม่มีเลยยกเว้นลูกของเอล ซาร์ในนาทีที่ 9

อีก 3 นาทีต่อมาลูกยาวยาวขึ้นมาเป็นบาเบิ้ลกระโดดชงย้อนให้เคาท์ป้ายออกซ้ายให้ออเรลิโอเปิดเข้าเขตโทษเป็นเจอร์ราร์ดที่วิ่งมาเข้าฮอร์ตแต่ไม่ยอมยิงด้วยซ้ายแตะบอลเหนือออกซ้ายแล้วเอี้ยวตัวยิงด้วยขวาตรงระยะ 6 หลาแต่บอลเบาทำให้โจนส์ล้มตัวเซฟด้วยขวาเอาไว้ได้

แต่แล้วหงส์แดงงานเข้าก่อนจากลูกเตะมุมในนาที 32 ดาวนิ่งเปิดโค้งมาบอลเลยทุกคนมาตกใส่ข้างเท้าอลอนโซ่แฉลบเข้าประตูตัวเองสุดช็อก บุกตั้งนานไม่ได้เสียง่ายโคตรแต่จากภาพช้าคุณชายมัวแต่ไปยื้อยึดฉุดกับวีเทอร์จนเสียสมาธิตอนบอลเข้าไปแล้วมือวิเทอร์ยังคว้าเสื้อแข้งทีมชาติสเปนอยู่เลย

ก่อนหมดเวลา 5 นาทีลิเวอร์พูลตัดบอลหน้าเขตโทษตัวเองได้ก่อนที่อลอนโซ่จะพาบอลขึ้นมาถึงระยะ 30 หลาก่อนแทงออกซ้ายหน้ากรอบโทษให้เคาท์แต่หอกไตรกีฬาจับบอบกระเด้งห่างตัวทำให้ชวดโอกาสยิงประตูอย่างน่าเสียดาย

จังหวะสวนกลับเป็นดาวนิ่งหนีสเคอร์เทลตรงปีกซ้ายก่อนหลุดเข้าไปซัดหักข้อแต่เรน่าล้มตัวตระครุบเอาไว้ได้อีกและแม้ช่วง 3-4 นาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลจะขึงเกมอยู่ข้างเดียวแต่การจ่ายบอลยังช้าและขวางไปมาทำให้โบโร่ลงไปตั้งรับกันบานเบอะก่อนหมดครึ่งแรกลูกทีมราฟาตามหลังอยู่ 1-0


ครึ่งหลัง

เริ่มมาแค่ 3 นาทีหงส์แดงเผาโอกาสอีกแล้วหลังบาเบิ้ลพยายามเลี้ยงจี้ตรงกรอบโทษฝั่งซ้ายก่อนบอลนัวเนียเป็นเจอร์ราร์ดวิ่งมาฉกกระชากถึงเส้นหลังบอลเลยตัดหลังเคาท์ที่ดึงตัวประกบมาได้และเป็นเอลซาร์ที่วิ่งย้อนกลับมายิงเหน่งๆด้วยอีซ้ายตรงระยะ 12 หลาแต่บอลกลับโด่งข้ามคานสุดช็อก ไม่เข้ายังเคืองนี่ไม่เข้ากรอบด้วย

การต่อบอลเนิ่บๆช้าๆไปมาของทีมเยือนทำให้โบโร่เล่นเกมรับง่ายมากและคาร์ราเกอร์ต้องคอยดันมาช่วยเกมรุกเพราะขืนเป็นแบบนี้ต่อไปอาจจะแพ้เป็นนัดที่สองในฤดูกาลนี้ได้เลย

แต่แล้วนาที 63 เกมรับของทีมเยือนหลวมโครกเมื่อแกรี่ โอนีลได้บอลตรงปีกซ้ายก่อนอาลิอาดิแยร์วิ่งเลาะเส้นทำทางมาให้แบบนี้ออเลริโอโดยรุมเลยทำให้อีดตแข้งอาร์เซนอลหลุดกระชากหลุดถึงเส้นหลังในกรอบโทษแล้วป้ายตบให้ตุนกายยิงเน้นๆบอลผ่านมือเรน่าเข้าไปง่ายๆ

จากนั้นนาทีเศษๆเจอร์ราร์ดกระชากหลุดตรงเส้นหลังก่อนล็อกแล้วยิงมุมแคบติดเซฟโจนส์จากนั้นนัวเนียแย่บอลกันชุลมุนสุดท้ายเอลซาร์ไม่มีจังหวะถูกเคลียร์ทิ้งหวุดหวิด

นาที 68 เดอะค็อปเซ็งกันเป็นแถวหลังเจอร์ราร์ดกระชากเข้าเขตโทษก่อนตบบอลมาที่จุดนัดพบให้เคาท์วิ่งมาแปยิงเน้นๆ 8 หลาไร้ตัวประกบแต่พ่อท่านจั่วล้มแบบลนลานอีกแล้ว

อีก 4 นาทีต่อมาทีมเยือนบุกเพลินๆเจอสวนและตุนกายป้ายเข้ากรอบให้คิงได้ตั้งป้อมยิงเหน่งๆไร้ตัวประบแต่เรน่าซี่งปรี่ออกมาปิดมุมเซฟช่วยชีวิตรอดไม่เสียเม็ดสาม

มีความหวังแล้วครับเมือนาที 77 ราฟาส่งบุตรบุญธรรมอย่างลูคัสแทนเจอร์ราร์ดที่สภาพไม่เต็มร้อย มีความหวังที่ว่าคือหวังแพ้ได้ง่ายขึ้นจ๊ะ

ก่อนหมดเวลา 12 นาทีโบโร่เล่นเป็นพระเอกและดาวนิ่งเปิดบอลจากปีกซ้ายย้อยโด่งเข้ากรอบโทษเลยมาถึงโอนีลที่เอียงตัววอลเลย์ตามน้ำแบบไม่ต้องจับบอลเฉียดเสาแบบน่าเข้าสุดๆ

ช่วงเวลาที่เหลือลิเวอร์พูลสิ้นลายพ่ายโบโร่ 2-0 เสียท่าเป็นนัดที่ 2 ในฤดูกาลนี้และร่วงไปอยู่อันดับ 3 หลังเชลซีเอาชนะวีแกน 2-1 ส่วนโบโร่ชนะเป็นนัดแรกในรอบ 15 นัดหนีจากรองบ๊วยมาอยู่อันดับ 17 อย่างงดงาม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

มิดเดิลสโบรห์ : แบร๊ด โจนส์,จัสติน ฮอย์ท,เดวิด วีเทอร์,โรเบิร์ต ฮูธ,เอ็มมานูเอล โปกาเตตซ์,แกรี่ โอนีล,แมทธิว เบตส์ ,ชูลิโอ อาร์ก้า(วอล์กเกอร์ น.89),สจ๊วต ดาวนิ่ง,ตุนกาย ซานลี่ (อดัม จอห์นสัน น.79),เฌเรมี่ อาลิอาดิแยร์(คิง น.68)

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์(เบนายูน น.71),ซามี่ ฮูเปีย,มาร์ติน สเคอร์เทล,ฟาบิโอ ออเรลิโอ,ชาบี้ อลอนโซ่,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,เดิร์ก เคาท์,สตีเฟ่น เจอร์าร์ด(ลูคัส น.77),ไรอัน บาเบิ้ล,นาบิล เอลซาร์(เอ็นก็อก น.69)













 


ขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีจากlentee