ปีนี้ จะจะมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!!!!

พรีเมียร์ลิปส์ หลากหลายทฤษฎีได้แชมป์-พลาดแชมป์ของลิเวอร์พูล
กลับมากันถึงตอนต่อของเรื่องทฤษฏีได้แชมป์หรือพลาดแชมป์ ของลิเวอร์พูลกัน ตอนที่แล้วก็ว่ากันไป 2 ทฤษฎีซึ่งจริงแล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่มันพลิกแพลง เพราะการจะเป็นแชมป์ได้จริงๆแล้ว นอกจากกองหน้าต้องยิงประตูสม่ำเสมอ กองกลางทำเกมได้ยอดเยี่ยม และกองหลังเหนียวแน่นไม่พลาดง่ายๆ แล้ว ยังไงๆ การจะขึ้นเป็นแชมป์ก็คงทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ว่าฟุตบอลแต่ละนัด การแข่งขันในแต่ละครั้งมักจะมีภาวะแวดล้อม สถานการณ์ต่างๆที่อาจคาดไม่ถึงสอดแทรกเข้ามาได้ตลอดเวลา
ดังนั้นทฤษฎีที่ 3 ที่จะมาประเมินกันก็คือเรื่องขององค์ประกอบต่างๆ ที่นอกเหนือจากฟอร์มการเล่น อย่างที่บอกตอนแรกเล่นขั้นเทพยังไง แต่ไม่มีดวง ไม่มีโชคก็อาจจะไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ เพราะฉะนั้นลิเวอร์พูลของเอลราฟาเอง ก็ต้องยอมรับในประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน การเตะหรือการแข่งขันในแต่ละนัดนั้น นักเตะจะต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในการลงเล่นของตัวเองให้ได้ เพราะแทคติกที่วางและเตรียมไว้ อาจจะเล่นไม่ได้อย่างใจคิด ถ้าคู่ต่อสู้หรือผู้จัดการทีมอีกฝั่งมาอีกแผนหนึ่ง ดังนั้นเอลบอสคงไม่สามารถลงไปช่วยพวกเขาเตะในสนามได้ หรือต่อจะตะโกนแก้เกมข้างสนามจนคอหอยโป่งก็คงไม่สามารถทำอะไรได้เพราะนักเตะอาจจะไม่
ได้ยินสิ่งที่โค้ชตะโกนสั่งการมา นอกจากนักฟุตบอลต้องใช้สติปัญญาที่พ่อแม่ และประสบการณ์ของตัวเองสร้างสรรค์มา ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการแก้ไขสถานการณ์และควบคุมเกมของพวกเขาไม่ให้เพลี่ยงพล้ำทีมคู่แข่งให้ได้ บรรดาเพลย์เมกเกอร์ทั้งหลายที่อาจจะโดนจับตายจนกระดิกกระเดี้ยไปไหนไม่ได้ จะต้องพยายามแหกด่าน และคิดในระหว่างที่เท้าก็ยังวิ่งไปทั่วสนาม ว่าทำยังไงเขาถึงจะฉีกหนีการประกบ และสามารทำเกมของเขาได้อย่างสะดวก ซึ่งถือว่านี่เป็นปัญหาที่จะมองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว นักเตะจำเป็นต้องเล่นตามแทคติกที่ผู้จัดการวางไว้ก็จริง แต่พวกเขาก็ไม่อาจรู้ก่อนหน้านั้นได้ว่าทีมฝั่งตรงข้ามจะเล่นแบบไหน เพราะคงไม่มีทีมคู่แข่งทีมใดที่จะให้พวกเขาเล่นได้ง่ายๆ แน่
จะบอกว่ารูปเกม ระบบการเล่นของหงส์แดง ลิเวอร์พูลนั้น หลายๆทีม น่าจะเริ่มจับทางได้แล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของเอลราฟ ว่าจะเตรียมทีมและหารูปแบบของเกม และระบบการเล่นใดที่จะทำให้เกมของลิเวอร์พูลหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ อย่าลืมว่าปัจจัยที่จะส่งผลต่อทีมโดยที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยก็คือ บรรดาความพร้อมของนักเตะ ปัญหาการบาดเจ็บที่อาจจะสอดแทรกเข้ามาตลอดฤดูกาล โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บแบบคาดคิดไม่ถึงที่อาจจะเกิดในการแข่งขัน ยิ่งถ้าเกิดกับบรรดานักเตะตัวหลักของทีมแล้วด้วย มันสามารถชี้เป็นชี้ตายอนาคตของทีมได้ทันทีเลย นี่คือสิ่งสำคัญ และเป็นหนึ่งปัจจัยหลักที่มีผลกระทบแน่นอนกับการลุ้นแชมป์ของทีม (ฤดูกาลที่แล้วการผลัดกันเจ็บของเจอราร์ด และตอร์เรส มีส่วนให้การลุ้นแชมป์สะดุด... คงไม่มีใครเถียง) และทุกทีมไม่มีใครอยากจะให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมาแน่ ยิ่งทีมกำลังอยู่ในช่วงพีค หรือกำลังไปได้สวยแล้วละก็ การเสียนักเตะไป ด้วยประเด็นนี้ย่อมทำให้เส้นทางที่เรียบลื่น การเป็นผิวดวงพระจันทร์ไปทันที

เพราะฉะนั้นปัจจัยแวดล้อมที่วิเคราะห์มานั้น หากทีมฝ่าฟันไปได้ นักเตะร่วมแรงร่วมใจแก้ปัญหาแต่ละนัดให้ผ่านไปได้ด้วยดี มีเทพีแห่งโชคเข้าข้าง ทีมประสบกับปัญหาบาดเจ็บของนักเตะน้อยที่สุด (ไม่มีเลยคงเป็นไปไม่ได้แน่) เมื่อผสมกับฟอร์มการเล่นที่สุดใน 2 ทฤษฎีแรกที่เขียนมานั้น รับรองว่าการรอคอยยาวนานถึง 20 ปีอาจจะจบลงในฤดูกาลล่าสุดนี้ก็ได้ ทฤษฎีที่ 3 นี่ต้องบอกว่าสำคัญจริงๆ เล่นดียังไง ฟอร์มพร้อมทั้งแดนหน้า กลาง และหลัง ขนาดไหน แต่หากปัจจัยที่คาดไม่ถึงเหล่านี้เข้ามาร่วมด้วย และทีมไม่สามารถคอนโทรลให้เบาบางลงได้ก็เป็นเรื่องลำบาก เล่นบอลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่อีกครั้งหนึ่งนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ใจ ความมุ่งมั่น โชค ความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ เป็นเรื่องที่ควบคู่กันไป ฟุตบอลสมัยใหม่ โปรแกรมที่ชุกเหลือเกิน ล้วนแต่บีบบังคับให้การลุ้นแชมป์ไม่ใช่เรื่องปอกกล้วยเข้าปาก แมนยูฯ ได้แชมป์ฤดูกาลที่แล้วต้องบอกว่านอกจากความเก่งกาจในการทำทีมแล้ว พวกเขายังได้โชคทอง 2 ชั้นเข้าช่วยด้วย ไม่ต้องอะไรหลายนัดที่ปีศาจแดงเจียนอยู่ เจียนไป แต่ก็รอดมาได้ทุกที แถมยังเก็บแต้มสำคัญี่น่าจะหลุดมือไปแล้วกลับมาอีก เรียกว่าเก่ง บวกเฮง
ลิเวอร์พูลเองก็ต้องการสิ่งนี้ ที่ดูเหมือนจะมาๆ หายๆ แบบไม่ค่อยสม่ำเสมอ และไม่ค่อยจะมาดั่งใจนึกเท่าไหร่ในฤดูกาลก่อน แต่สำหรับซีซั่นนี้ ซึ่งจะว่าไปแล้วว่าด้วยทฤษฎีที่ 3 ของการได้แชมป์ถือเป็นสิ่งละอันพันละน้อย ที่เมื่อประกอบกับสิ่งหลักๆ แล้ว เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้และจำเป็นอย่างยิ่งที่เดียว และทุกทีมก็ต้องการเรื่องพวกนี้มาช่วยหนุนนำเสียด้วย
ส่วนทฤษฎีของการพลาดแชมป์นั้น เชื่อว่าหลายๆ คนรู้ดีกันอยู่แล้วว่า หากไม่สามารถทำได้เลยซักทฤษฎีหรือขาดทฤษฎีใดหนึ่งไป ก็เป็นอันจบเห่สำหรับการลุ้นแชมป์ต่อให้เล่นแจ่มแค่ไหน ถ้าดวงแตก ยิงประตูยังไงก็ไม่เข้า มีปัญหานักเตะนัดกันบาดเจ็บ นักเตะอ่อนล้าจนเกินไป กำลังสำรองไม่เพียงพอและไม่สามารถทดแทนกำลังหลักของทีมได้ การจัดแทคติกที่ผิดพลาด ตลอดจนตัวนักเตะเล่นกันผิดพลาด ทั้งหมด ทั้งปวง ล้วนเป็นสิ่งที่จะทำให้ทีมต้องพลาดหวังอีกแน่นอน
สิ่งสำคัญอีกประการของทฤษฎีการชวดแชมป์ ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น และไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คือหลีกเลี่ยง การเสมอ ในจำนวนมากอย่างไม่เป็นจำเป็นทิ้งไป คงไม่มีเดอะค็อปคงไหนอยากให้เสมอ 11 นัดเหมือนฤดูกาลก่อนอีกแน่นอน อยากจะขอเปลี่ยนเป็นแพ้เพิ่มอีกซัก 2 นัด แล้วเอาคะแนนที่ทิ้งไปกลับคืนมา เท่านั้นก็เพียงพอ และอีกทฤษฎีหนึ่ง (สุดท้ายจริงๆแล้ว) นักเตะใหม่ที่ซื้อมาร่วมทีม ทั้งเกลน จอห์นสัน และล่าสุด อัลเบโต้ อควิลานี่ จะต้องปรับตัวเข้ากับทีมและเพื่อนร่วมทีมให้ได้โดยเร็วที่สุด หลายแรกคงไม่น่าห่วง หากได้ลงเล่นตามตำแหน่งตัวเอง (หวังว่าจะเป็นแบบนั้น) และเล่นได้สุดยอดเหมือนตอนอยู่กับทีมปอมปีย์ รับรองว่าขุมกำลังทางฝั่งขวาแข็งแกร่งแน่ แม้จะเสียอาร์เบลัวไปก็ตาม จะห่วงก็แต่สุดหล่ออิตาลี อควิลานี่ ที่มีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย เพราะหากปรับตัวได้ช้า มาเจอบอลเร็วๆ หนักๆในอังกฤษอีก เป็นเรื่องที่น่าห่วงจริงๆ แม้ทั้ง 2 คน อาจจะแค่ส่วนหนึ่งของทีมแต่อย่าลืมว่า การต่อจิ๊กซอว์ต้องต่อให้ครบ ขาดชิ้นใดชิ้นไปก็เท่ากับไม่สมบูรณ์ [/color
การเริ่มต้นฤดูกาล 2009-2010 ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว.... หวังว่า 38 นัดในฤดูกาลนี้ของลิเวอร์พูลจะดีขึ้นกว่าเดิม แม้อาจจะไม่เพียบพร้อม เพอร์เฟค อย่างน้อยก็น่าจะเป็นอีกฤดูกาลที่พวกเขาจะพร้อมสู้ศึกและนำถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก มาที่แอนฟิลด์ให้ได้เสียที การเสียนักเตะหลักอย่างอลองโซ่ไปนั้น คงไม่ทำให้ทีมเสียศูนย์แน่ หากมองว่าทีมเล่นเป็นระบบ เราเอานักเตะมาใส่เข้าในระบบ ไม่ใช่ให้ระบบเดินตามนักเตะ และด้วยฝีมือของราฟาเอล เบนิเตซ ลิเวอร์พูลไม่กลัวใครแน่นอน


BRING US EPL 09-10 TROPH LIVERPOOL