ปฏิบัติการซื้อ หอกเหลือใช้ / จำลอง ฝั่งชลจิตร





โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กรกฎาคม 2552 11:30 น.












       คอลัมน์ หัวใจในกีฬา โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
       

       เป็นการซื้อขายที่ทำให้วงการฟุตบอลอังกฤษตื่นตะลึง ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ และเต็มไปด้วยความหวัง
       
       เดวิด กิลล์ ประธานบอร์ดบริหารแมนเชสเดตอร์ ยูไนเต็ด , เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม และ ไมเคิล โอเว่น ยอดกองหน้าที่กำลังจะกลายเป็นหอกเหลือใช้ ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้านี้
       
       การซื้อขายครั้งนี้มีความหมายเป็นพิเศษต่อวงการฟุตบอลอังกฤษต่อตัวโอเว่น ถ้าพูดภาษาท่องเที่ยว--พรีเมียร์ชิปฤดูกาล 2009-10 มีจุดชมวิวที่ต้องตั้งใจดูเป็นพิเศษ คือ ไมเคิล โอเว่น ในรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
       
       ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ เจ้าของฉายา “เบบี้ โกลด์” ติดทีมชาติตั้งแต่อายุ 18 ปี รวมทัพเล่นฟุตบอลโลก “ฟร็องซ์ 98” และ ฟุตบอลโลกปี 2002 ที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพร่วม รับใช้ชาติ 89 ครั้ง ยิง 40 ประตู ปี 2001 ได้รับเลือกเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป
       
       โอเว่นเป็นดาวยิงขวัญใจของแฟนๆ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และแฟนฟุตบอลอังกฤษ ปี 2004 ย้ายไปเล่นให้รีล มาดริด ที่สเปน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งย้ายกลับบ้านเกิดมาเล่นให้นิวคาสเซิลในสภาพชำรุดทั้งร่ายกายและจิตใจ
       
       โอเว่นสูญเสียความสามารถในการทำประตู ความมั่นใจถดถอย จมอยู่กับอาการบาดเจ็บอย่างไม่รู้เสร็จสิ้น ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการพัฒนาร่างกายและเรียกความฟิต ตลอดช่วง 2 ปีกับต้นสังกัดใหม่ เขาลงเล่นได้เพียง 32 เกม เล่นอย่างเสือลำบากที่พยายามไล่ล่าประตู แบกความคาดหวังของแฟนบอลไว้เต็มบ่า เมื่อไม่อาจสร้างความสุขสมหวังให้แฟนๆ ผลตอบแทนคือเสียงโห่ไล่ บอร์ดบริหารเริ่มกระแนะกระแหน ทำให้ดูไร้คุณค่าและหมดความน่าเชื่อถือ
       
       ก่อนนี้สองสามสัปดาห์ฝ่ายจัดการของเขาจำทำแผ่นพับบรรจุประวัติ ผลงาน และพรรณนาความสามารถของเขา นับเป็นการ “เซลส์” ที่น่าหดหู่ที่สุด
       
       แมนเชสเตอร์ ชิตี้ พร้อมซื้อนักเตะดังและเก่งทุกราย แต่ไม่เคยเหลียวแลโอเว่น แฟนๆ ลิเวอร์พูลต้องการให้เซ็นสัญญาเอาเขากลับมา แต่ ราฟาเอล เบนิเตซ ไม่สนใจ ฮัลล์ ซิตี้ กับ สโต๊ค ซิตี้ อยากได้ตัวเขาไปช่วยงาน ทว่า เขามองไม่เห็นโอกาสกอบกู้สิ่งที่มองไม่เห็นที่เรียกว่า “ศักดิ์ศรี” กลับคืน
       
       การเซ็นสัญญาร่วมทีม “ปิศาจแดง” แม้ยังไม่ได้ลงสนามซ้อม แต่เขาได้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาแล้วครึ่งหนึ่ง เรื่องนี้คงไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว สิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ก็คือ ความมั่นใจ
       
       เมื่อมองไปยังขุมกำลังของ “ปิศาจแดง” ซึ่งหลายคนเป็นเพื่อนร่วมทีมชาติ ไม่ว่า ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไมเคิล คาร์ริค,โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ และ เวย์น รูนี่ย์ คู่ขาในแดนหน้า การกู้คืนความมั่นใจและการทำประตูไม่น่าจะยากเย็นเกินไปนัก เพราะนี่เป็นครั้งสุดท้ายของการพิสูจน์ทุกๆ อย่างแล้ว
       
       ฟาบิโอ คาเปลโล่ เจ้านายเก่า กุนซือทีมชาติอังกฤษ เชื่อมั่นว่าโอเว่นจะคืนฟอร์มในชุด “ปิศาจแดง” นี่เป็นการให้กำลังใจอย่างถูกจังหวะเวลา ถ้าโอเว่นกลับไปเป็น 1 ใน 23 คน ของ “สิงโตคำราม” ชุดทำศึกฟุตบอลโลกที่แอฟการิใต้ นี่คือประวัติศาสตร์ ที่น่าตื่นเต้นสำหรับวงการฟุตบอลอังกฤษ ผมเชื่อว่าด้วยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โอเว่นจะกลับไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง --อายุเขาเพิ่ง 29 ย่าง 30 ปี
       
       โอเว่น กล่าวว่า “ถ้าผมฟิตและเล่นได้ดี ผมจะมีโอกาสที่ดีขึ้นในการกลับไปติดทีมชาติและผมมั่นใจ”
       
       การย้ายมาอยู่กับ “ปิศาจแดง” ของโอเว่น นอกจากสร้างความตื่นตะลึงให้แก่วงการฟุตบอลอังกฤษ มันกลบข่าวการย้ายกับอารมณ์ฉุนเฉียวของ คาร์ลอส เตเบซ ให้แผ่วเบาจนกลายเป็นลมรำเพย
       
       “วันแดงเดือด” เที่ยวหน้า รับประกันว่าโอเว่นได้ลงลุยแข้งกับเพื่อนพ้องน้องพี่ในลิเวอร์พูลแน่นอน แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว
       
       แมนฯ ยูฯ ปฏิการอย่างจอมยุทธ์ ตะโกนโหวกทางซีกตะวันตก ทว่า กลับมุ่งโจมตีทางตะวันออก ปากบอกอยากได้ฟร้องค์ ริเบรี่ กับ คาริม เบนเซม่า แต่กลับไปคว้าหอกเหลือใช้ใกล้มือมาลับใหม่ให้คมกริบ ประหยัดเงินและได้ใจแฟนบอลชาวอังกฤษ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์