บุกหนัก!หงส์เจาะเรือไม่เข้าเจ๊า0-0

บุกหนัก!หงส์เจาะเรือไม่เข้าเจ๊า0-0

หงส์แดงลิเวอร์พูลพลาดท่าชวดชัยชนะใสๆอีกครั้งหลังมีโอกาสปิดสกอร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้นับไม่ถ้วนแต่กลับพลาดกันไปเองจนสุดท้ายต้องยอมรับสภาพเสมอ 0-0 และปล่อยให้อาร์เซนอลหนีห่างไปเป็น 10 คะแนนแล้ว

แมนฯซิตี้ 0 - 0 ลิเวอร์พูล

ประตู :
-

สเวน โกรัน เอริคส์สันเรียกดีทมาร์ ฮามันน์และเอลาโน่กลับมาประจำการเป็นตัวจริงโดยมาร์ติน เปตรอฟดาวเด่นจากเกมเสมอแบล็คเบิร์นก็ได้อาละวาดทางปีกซ้ายเช่นเดิม

ด้านลิเวอร์พูลจำใจต้องให้อาร์เบลัวจับคู่กับคาร์ราเกอร์หลังซามี่ ฮูเปียยังเจ็บอยู่ในขณะที่ฮาเวียร์ มาสเคราโน่กลับมาทวงตัวจริงคือจากชาบี้ อลอนโซ่โดยคู่หน้าเป็นตอร์เรสกับเคาท์เช่นเดิม

เกมเริ่มมาแค่นาทีเดียวหลังไมคาห์ ริชาร์ดสปล่อยให้สตีฟ ฟินแนนเปิดบอลจากขวาให้ตอร์เรสที่เข้าไม่ถึงบอลแค่ 2 หลาเท่านั้นเอง

อีก 3 นาทีเอล นินโญ่พยายามกระชากหนีริชาร์ดแต่ทั้งคู่ปะทะกันจนร่วงไปนอนกองจนต้องปฐมพยาบาลตอนนี้เหมือนกองหลังทีมชาติอังกฤษมีปัญหามากกว่าทางหอกกระทิงดุซะแล้ว

แต่นาทีที่ 9 แมนฯซิตี้เกือบออกนำก่อนจากจังหวะที่เอลาโน่เปิดบอลเข้ากลางแต่อาร์เบลัวเคลียร์ไม่ขาดบอลตกมาเข้าทางไอร์แลนด์ที่ยิงแป๊บบอลกระทบพื้นเด้งโด่งกลายเป็นตั้งให้ดาริอุส วาสเซลล์ได้โขกแค่ 5 หลาแต่เรน่าพุ่งปัดออกหลังเสียเตะมุมหวุดหวิด

ตอร์เรสถูกริชาร์ดสตามประกบเป็นเงาจนแทบหายไปจากเกมในขณะที่เกมโดยรวมของหงส์แดงก็ชักเท่าไม่ดีต้องกันมาตั้งรับกันจ้าละหวั่นหลังถูกเจ้าถิ่นขึงเกมบุกหนักโดยเปตรอฟเริ่มมีบทบาททางปีกซ้ายมากขึ้นเรื่อยๆแต่คาร์ราเกอร์ยังโชว์ทีเด็ดเคลียร์ทิ้งแบบไม่มีลังเลเช่นเดิม

นาที 25 ทีมเยือนได้เสียวบ้างหลังคิวล์วางยาวจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ตอร์เรสทางริมกรอบโทษฝั่งขวาก่อนแปตั้งเข้ากลางจังหวะเดียวให้เคาท์ยิงแต่ริชาร์ดทิ้งตัวบล็อกอย่างไม่น่าเชื่อ

จากนั้นนาทีถัดมาตอร์เรสผ่านบอลให้ตอร์เรสจับด้วยอีซ้ายก่อนตะบันยิงเต็มๆตรงมุมแคบฝั่งซ้ายกรอบโทษแต่โจ ฮาร์ทตระครุบจังหวะแรกก่อนตามรับเอาไว้ได้อีกครั้ง

อีก 2 นาทีซิตี้น่าจะได้ประตูสุดๆหลังไอร์แลนด์แตะบอลต่อให้เอลาโน่ยกบอลหนีคาร์ราเกอร์แต่แรงไปนิดทำให้เรน่าชิงรับเอาไว้ได้ก่อน

หงส์แดงมีโอกาสสวยๆอีกครั้งหลังออเรลิโออัดด้วยอีกซ้ายข้างถนัดบอลพุ่งติดไซด์ทำท่าเสียบเสาแต่โจ ฮาร์ทพุ่งปัดปลายมือหลุดเสาออกไปแค่เซนต์เดียวเท่านั้น

นาที 31 ทีมเยือนซึ่งมีโอกาสจะแจ้งมากมายก็มาได้แค่เสียวอีกครั้งหลังคิวล์ได้บอลจากลูกที่เพื่อนจ่ายตัดหลังแบ็คมาให้ก่อนเปิดตบตรงเส้นหลังและแม้กองหลังซิตี้จะโหม่งเคลียร์ได้แต่ก็มาเข้าทางคอย์ทที่ยิงนอกเขตไปแฉลบบอลปลิ้นเฉี่ยวเสา ถ้าเป็นเชลซีอาจมีลุ้นเข้าไปประตูแน่นอน

ทีมเยือนเริ่มเป็นฝ่ายเข้าทำได้มากขึ้นตามลำดับโดยนาที 34 ฟินแนนพลิกบอลหนีเปตรอฟทางปีกขวาก่อนตบเข้าในก่อนที่เจอร์ราร์ดจะยิงเก็บตกแต่ติดบล็อกเปตรอฟอย่างน่าเสียดาย

เกมของทั้งคู่กลับมาสูสีแย่งบอลกันตรงสนามบ่อยขึ้นแต่พอเข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรกมากขึ้นเรื่อยๆเป็นลิเวอร์พูลที่ได้ตั้งเกมรุกอยู่ข้างเดียว

โดยก่อนหมดเวลานาทีเดียวเบนายูนรับบอลจากเพื่อนก่อนพลิกบอลหน้าเขตโทษแล้วยิงเต็มๆแต่บอลเฉี่ยวเสาหลุดออกไปนิดเดียว หมดครึ่งแรกทั้งคู่ยังเสมอกันอยู่ 0-0 และเป็นลิเวอร์พูลที่มีโอกาสยิงมากกว่าถึง 9 ครั้ง

ครึ่งหลังหงส์แดงมาน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆจนเจ้าถิ่นต้องลงไปตั้งรับกันหนักข้อและนาที 50 ตอร์เรสถูกทำฟาว์ลหน้าเขตโทษระยะ 20 หลาเป็นเจอร์ราร์ดที่วิ่งมายิงบอลทะลุกำแพงเฉี่ยวเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ยิ่งเล่นทีมเยือนทำเอาแนวรุกของเรือใบหายไปจากเกมและเหลือเพียงแค่ว่าจะได้ลูกแรกปิดเกมตอนไหนหรือจะโดนก่อนซะเอง

เกมมาถึงหนึ่งชั่วโมงลิเวอร์พูลที่โหมหนักก็ผ่อนลงเพราะตอนนี้เรือใบเข้าบีบเร็วและจังหวะสวนน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

เกมนี้เคาท์เล่นดีพอใช้ได้เพราะล้วงบอลเก็บบอลรวมทั้งหาพื้นที่ให้ตัวเองได้ดีแต่ตอนนี่ประสิทธิภาพแนวรุกของหงส์แดงไม่เด็ดขาดทำให้แนวรับแบกความกดดันหนักมากขึ้นเรื่อยๆ

โอกาสทำประตูจะแจ้งของทั้งสองทีมในครึ่งหลังแทบไม่มีให้เห็นเรียกว่าเรียกเสียงฮือฮาหน้ากรอบเขตโทษสุดท้ายก็ทะลักเสียบอลหรือไม่ก็ออกหลังไปเอง

ก่อนหมดเวลา 5 นาทีบาเบิ้ลทะลุเลี้ยงจากปีกซ้ายมาถึงเส้นหลังอย่างน่ากลัวแต่ถูกดันน์และโอนูฮาสไลด์เสียบคู่ออกหลังหวุดหวิด

นาที 87 ลิเวอร์พูลปวดกบาลสุดๆหลังเคาท์โขกเหน่งๆบอลเลยตัวโจ ฮาร์ทไปแล้วแต่ดันน์ยังตามมาล้วงเคลียร์บอลก่อนเลยเส้นอย่างไม่น่าเชื่อ

ทีมเยือนพับนสนามบุกแหลกหมายจะเอาประตูชัยให้ได้แต่ตอนนี้เหมือนยิ่งเล่นแบ็คโฟว์เรือใบแกร่งทั่วแผ่นจริงๆ

ช่วงเวลาที่เหลือลิเวอร์พูลหมดมุกทั้งๆที่เหนือกว่าชัดเจนสุดท้ายต้องยอมรับสภาพผลเสมอไปอย่างจำใจส่วนเรือใบแม้ไม่แพ้แต่ก็ไม่ชนะในบ้านตัวเองสองนัดติดและมีคิวต้องพิสูจน์ตัวเองนอกบ้านต่อไปอีก

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้ :
โจ ฮาร์ท,เนดัม โอนูฮา,ไมคาห์ ริชาร์ดส,ไมเคิ่ล บอลล์,สตีเฟ่น ไอร์แลนด์(เฟอร์นันเดส น.61),ดิทมาร์ ฮามันน์,เวดราน คอร์ลูก้า,มาร์ติน เปตรอฟ,บลูเมอร์ เอลาโน่(เบียงคี่ น.70),ดาริอุส วาสเซลล์(จีโอวานนี่ น.74)

สำรองไม่ได้ใช้ : อีซัคส์สัน,จีโอวานนี่,การ์ริโด้

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,สตีฟ ฟินแนน,เจมี่ คาร์ราเกอร์,อาร์บาโร่ อาร์เบลัว,ยอสซี่ เบนายูน,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,แฮร์รี่ คิวล์(บาเบิ้ล น.74),เฟอร์นานโด ตอร์เรส,เคาท์

สำรองไม่ได้ใช้ : อีตองด์เช่,ริเซ่,โวโรนิน,ชาบี้ อลอนโซ่


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์