ตอเรสแฮปปี้ ...ผมก็แฮปปี้

         เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงตัวเก่ง ลิเวอร์พูล สุดปลื้ม หลังเหมาซัด 2 ประตู นำ หงส์แดง เปิดบ้านจิก เชลซี 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ รับการเก็บ 3 แต้มในเกมนี้สำคัญมาก เพราะทำให้โอกาสลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังเปิดกว้างอยู่

         เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปนของ ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาแสดงความยินดี หลังสวมบทฮีโร่ ยิงคนเดียว 2 ประตู ในเกมชนะ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และยังเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่ เอล นินโญ่ ยิงประตูได้ที่สนาม แอนฟิลด์ อีกด้วย 

         ตอร์เรส ซึ่งยิงประตูให้ หงส์แดง ในนาทีที่ 89 และ 90 จนช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะครั้งสำคัญ และมี 51 คะแนน ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูง 2 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด กล่าวว่า ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นอย่างมาก หลังจากที่ชนะ เชลซี มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมด้วยที่ยิง 2 ประตูแรกของผม นับตั้งแต่ที่ได้รับบาดเจ็บไป ผมยิงประตูในบ้านได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆ สำหรับผม

        หนทางในการลุ้นแชมป์ยังอีกยาวไกล ตอนนี้เรารู้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้าวนำหน้าเราไปแล้ว และอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูง แต่เราก็จะมีโอกาสมากขึ้นเช่นกัน และเราจะสู้กับพวกเขาอย่างเต็มที่จนกระทั่งจบซีซั่น อดีตหัวหอก ตราหมี แอตเลติโก มาดริด กล่าว

         พร้อมกันนั้น ตอร์เรส ยังได้กล่าวชมหัวจิตหัวใจของแข้ง เดอะ เร้ดส์ ที่สู้ไม่ถอย จนกระทั่งได้ 2 ประตูในช่วงท้ายเกม โดยระบุว่า นี่คือหัวจิตหัวใจของ ลิเวอร์พูล เรารู้ว่า ในอังกฤษ คุณลงเล่น 90 นาที และมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะมีการยิงประตูเกิดขึ้นในทุกนาที

          เราต้องทำงานหนักจนกระทั่งจบเกม และบ่อยครั้งที่เราได้รับรางวัลตอบแทนในนาทีที่ 90 หรือ 92  เรารู้ว่าพวกเขามีผู้เล่นน้อยกว่า (แฟร้งค์ แลมพาร์ด โดนไล่ออก) และน่าจะเน้นเกมรับ เพราะสกอร์ 0-0 คงเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขา แต่เราต้องชนะ เรามีผู้เล่นมากกว่า 1 คน รวมทั้งมีโอกาสมากมาย และเราก็ทำงานของเราได้สำเร็จ

          เรารู้มาก่อนลงเล่นเกมนี้ว่า การพบ เชลซี เป็นโปรแกรมการแข่งขันที่สำคัญมาก ซึ่งนักเตะทุกๆ คนรู้เรื่องนี้ดี ผมรู้สึกว่าตั้งแต่ต้นจนจบเกม เราทำงานหนักมาก กระตือรือร้น และมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ หลังจากขึ้นนำ 2-0 เรามีความสุขมาก กระนั้น เราก็รู้อยู่เต็มอกว่า เราจำเป็นต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ตอร์เรส กล่าวในที่สุด