ตอร์เรสแฮทริค!หงส์บุกยำเรดดิ้ง4-2

แผนล้ำลึกของราฟาเอล เบนิเตซ

หลังเก็บตัวเทพอย่างเฟอร์นานโด ตอร์เรสลงเล่นในเกมคาร์ลิ่ง คัพก่อนสำแดงเดชอัดแฮทริคใส่เรดดิ้งก่อนพา"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลเอาชนะ 4-2 เข้ารอบสี่อย่างสวยงามท่ามกลางเกมที่อัดกันเดือดเลือดพล่าน

เรดดิ้ง 2-4 ลิเวอร์พูล

สนาม : มาเดจสกี้ สเตเดี้ยม

ประตู : 0-1 ยอสซี่ เบนายูน น.23, 1-1 คอนเวย์ น.27, 1-2 เฟร์นันโด ตอร์เรส น.50 2-2 จอห์น ฮอลล์ส น.64, 2-3 เฟร์นันโด ตอร์เรส น.72, 2-4 เฟร์นันโด ตอร์เรส น.86

เกมนี้ราฟาเอล เบนิเตซ

ทำเซอร์ไพรซ์เมื่อเฟร์นันโด ตอร์เรส ดาวยิงเบอร์หนึ่งที่นั่งสำรองในเกมพรีเมียร์ลีกมาได้ลงตัวจริงในเกมนี้ แต่ก็มีตัวสำรองหลายรายที่ได้โอกาส โดยเฉพาะลูคัส ไลวา และเซบาสเตียน เลโต้ เริ่มเกมมา 3 นาที เลวา ตัดบอลได้ก่อนแทงให้ตอร์เรส วิ่งตีคู่ไปกับบิเคย์ ก่อนที่กองหลังเจ้าถิ่นจะสไลด์บอลออกไปได้หวุดหวิด แต่เอล นินโญ่ ก็ลงไปนอนกองอยู่หลายนาที โชคดีที่ยังกลับมาเล่นต่อได้

ช่วงแรกเป็นเรดดิ้งที่พาบอลบุกยำอยู่ข้างเดียว

โดยที่แข้งทีมเยือนต่อกันไม่ติดและต้องป่วนหนักเรียกว่าแนวรับก็เหวอมิดฟิลด์ก็เอาไม่อยู่ ปั่นป่วนเป็นรายตัวจนเสียงเชียร์ในสนามร้องให้นักเตะเดอะ รอยัลกดดันให้หนัก โอกาสที่ชัดเจนที่สุดครั้งแรกของเกมเป็นของทางเจ้าถิน เมื่อจอห์น ฮอลส์ เปิด ลิต้าโขกเต็มๆ แต่ดันเบาและตรงตัวอิตองด์เช่ ที่ยืนเฉยๆก็รับได้ แต่แล้วหลังป่วนอยู่นานโอกาสแรกของลิเวอร์พูลก็เป็นประตูทันทีโดยนาที 23 เบนายูน โชว์ลีลาเลื้อยแตะลอดขาบิเคย์ ก่อนจะกดเต็มเท้าขวาบอลพุ่งเป็นจรวดเข้าไปเสียบใต้คานอย่างสวยงามให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0

อย่างไรก็ตาม

เรดดิ้ มาไล่ตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 27 เมื่อได้เตะมุม นักเตะหงส์แดงโหม่งเคลียร์บอลออกมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ คอนเวย์ กระโดดวอลเลย์ด้วยซ้ายบอลสวนทางเข้าไปแบบสุดมัน ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 จากนั้นขุนพลนักเตะรอยัลส์ ก็เป็นฝ่ายเดินหน้าบี้แหลกได้อย่างเร้าใจ และมีโอกาสใกล้เคียงอีกครั้งในช่วงก่อนหมดเวลาครึ่งแรกจากบ็อบบี้ คอนวีย์ ที่ได้ตวัดยิงในเขตโทษ แต่อิตองด์เช่ ยังล้มตัวเซฟเอาไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ แต่เจ้าถิ่นชนะคะแนนขาดเรื่องรูปเกม

แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันได้เพียงแค่ 5 นาที

ลิเวอร์พูล ก็กลับมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง โดยมาจากจังหวะการตัดบอลได้กลางสนามของเลโต้ ก่อนที่ปีกหน้าหวานจะแทงตามช่องให้ตอร์เรส วิ่งเบียดชนะดูเบอร์รี่ได้สำเร็จ และเลือกแปเล่นเสาสองอย่างเหนือชั้น กลับมานำอีกรอบ 2-1 ก็ทำให้ทีมเยือนเล่นกันได้อย่างมั่นใจมากขึ้น แต่เรดดิ้งก็พยายามจะกลับสู่เกมให้ได้ และงัดทั้งเกมหนักและลูกกลางอากาศมาอัดใส่ และหลังจากที่พยายามอัดใส่อยู่นานก็มาตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกเตะมุมเช่นเคยแต่คราวนี้เป็นชอรีย์ เปิดเข้ามากลางประตู อิตองด์เช่ออกมาชกบอลไม่ขาด ลูกตกตรงหน้ากรอบ 6 หลาแข้งหงส์สามสี่คนพุ่งเข้าบล็อกแต่บอลกระดอนมาเข้าทางจอห์น ฮอลล์ส ยิงเข้าไปง่ายๆ

ราฟา ทนไม่ไหวขอส่งริเซ่ ลงมาแทนออเรลิโอ
 
ซึ่งก็ได้ผลทันที เมื่อแบ็กนอร์เวย์ ทะลุขึ้นไปทางซ้ายก่อนจะแตะหลบดูเบอร์รี่ และเลือกจ่ายเข้ากลางมาถึงตอร์เรส แปเสยใต้คานเข้าไปแบบเฉียบขาด เรดดิ้ง เกือบตีเสมอได้เหมือนกันจากลูกโอเวอร์เฮดคิกของลีรอย ลิต้าแต่อิตองด์เช่ แก้ตัวโดดปัดด้วยปลายมือออกไปได้

หลังจากนั้นราฟา ส่งสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ลงมาแทนปีเตอร์ เคราช์

อีกคนเพื่อช่วยค้ำเกมในแดนกลาง และก็ได้ผลดีเกินคาด เมื่อเจอร์ราร์ดจ่ายตัดแนวรับเรดดิ้งขาดกระจุยให้ตอร์เรส หลุดเดี่ยวเกือบครึ่งสนามโล่งๆชนิดเจ้าตัวหันหลังมามองซ้ายทีขวาทีอย่างใจเย็นก่อนยึกยักซอยขาอยู่กับที่หลอกเฟเดริชี่นายทวารเจ้าถิ่นจนขาตายก่อนจะเลี้ยงเข้าไปเลือกยิงสบายๆให้สกอร์ขาดเป็น 4-2 ก่อนหมดเวลาแค่ 4 นาที และเป็นแฮตทริกแรกของ "เอล นินโญ่" ในแดนผู้ดีด้วย

ราฟาให้โอกาสแจ็ค ฮอบบ์ส เจ้าหนูดาวรุ่งกัปตันทีมสำรองได้ลงมาช่วงท้ายเกม ก่อนที่จะไม่มีใครทำอะไรกันได้อีก จบเกม "หงส์แดง" บุกมาชนะไปอย่างสะใจ 4-2 เข้ารอบ 4 ได้สำเร็จ

ขอขอบคุณ เนื้อหาข่าวคุณภาพดี โดย:


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์