ดาร์บี้เดือด 2 แดง!! เคาท์โขกหายหงส์เคี้ยวท๊อฟฟี่ 1-0

หงส์แดงลิเวอร์พูลเอาตัวรอดในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมทช์ครั้งที่ 213 สุดระทึกหลังเหลือ 10 ตัวตั้งแต่ครึ่งแรกแต่ได้เดิร์ก เคาท์มาโขกประตูโทนในนาที 55 เบียดชนะ 1-0 นำทีมขยับขึ้นอันดับ 4 มี 44 แต้มและไม่แพ้ใคร 7 นัดติดต่อกันแล้วส่วนเอฟเวอร์ตันมาเหลือ 10 ตัวช่วงท้ายหลังพีนาร์มเอาคืนเจอร์ราร์ดติดแบนในช่วงเกมโหดสุดโง่กันไป

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2553


ลิเวอร์พูล 1-0 เอฟเวอร์ตัน

ประตู : 1-0 เคาท์ น.55


เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมทช์เกมที่ 213 วันนี้ราฟาเอล เบนิเตซส่งมักซี่ โรดริเกซเป็นตัวจริงแต่มายืนปีกซ้ายส่วนหน้าตัวเดียวยังเป็นดาวิด เอ็นก็อก

ด้านเดวิด มอยส์ที่พาทีมเอฟเวอร์ตันไม่แพ้ใครมา 9 นัดติดต่อกันผู้เล่นเต็มสูบไม่ว่าจะเป็นซาฮา,พีนาร์,เคฮิลล์,โดโนแวนและเฟไลนี่

ครึ่งแรก

สงครามเริ่มทันที
เริ่มเกมมาไม่ถึง 10 วินาทีคาร์ราเกอร์เข้าอัดพีนาร์จนเจ็บไปเลยจากนั้นเอฟเวอร์ตันกดดันลิเวอร์พูลด้วยลูกเตะมุมก่อนเอาตัวรอดมาได้ เรียกว่าเมอร์ซีย์ไซด์

หัวขิงลักไก่ฟรีคิก
นาทีที่ 4 เจอร์ราร์ดเจอเก็บตรงริมกรอบเขตโทษก่อนได้ฟรีคิกและกัปตันทีมพลังไดนาโมเปิดยัดหลอกยิงร้อนถึงฮาวเวิร์ดต้องเหินชกสองมือทิ้งพ้นเขตอันตราย

เกมสูสี
สไตล์เกมดาร์บี้แมทช์ไม่มีต่อบอลสวยๆเนียนๆเพราะสู้กันด้วยแรงและการบอมบ์เข้าใส่และมีการทำฟาว์ลกันบ่อยจนเกมหยุดถี่เหลือเกินแต่ดูเหมือนตอนนี้เจ้าถิ่นจะทำได้ดีกว่าเอฟเวอร์ตันแล้ว

แอกเกอร์โผล่ยิงข้ามคาน
นาที 13 หงส์แดงเกือบขึ้นนำหลังลูกเตะมุมของเจอร์ราร์ดถูกโหม่งเคลียร์แล้วลูคัสสะกิดด้วยหลังเท้าไปเข้าทางแอกเกอร์วอลเลย์ด้วยอีขวาตรงระยะ 8-9 หลาบอลโด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

เรน่าเซฟลูกฟรีคิก
นาที 21 คีย์เกียกอสจ่ายบอลง่ายๆให้มาสเคราโน่พลาดเลยถูกโดโนแวนมาเก็บตกลากจากกลางสนามมาถึงหน้าเขตโทษแล้วถูกเคาท์สะกิดทำฟาว์ลเลยเจอใบเหลืองก่อนที่เบนส์จะรับหน้าที่ปั่นตรงระยะ 25 หลาข้ามกำแพงแต่บอลไม่หนีเรน่ามากนักเลยวิ่งมาปัดมือเดียวข้ามคานออกไปได้

เกมเริ่มระอุ
เกมโคตรเดือดจนแฟนบอลชักมีอารมณ์ร่วมเพราะเคาท์เจอพีนาร์ทำฟาว์ลล้มลงไปแล้วแต่เฟไลนี่มาแถมวิ่งมาหวดบอลใส่หน้าลงไปนอนจนแข้งลิเวอร์พูลมาตะคอกใส่กรรมการกันหลายคนก่อนที่เจอร์ราร์ดจะมาคุยแล้วไล่ลูกน้องให้ไปไกลๆโดยเฉพาะมาสช์ที่เจอหัวขิงผลักอกเพราะยังพูดมาก ส่วนเคาท์ลุกขึ้นมาตะคอกจะกินกรรมการกันเลยทีเดียว

เอ็นก็อกซัดเฉี่ยวเสา
นาที 31 หลังแจกใบเหลืองกันไปอีกฝั่งละใบคือทั้งพีนาร์และคาร์ราเกรอ์จังหวะที่เอฟเวอร์ตันแงะบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายในแดนตัวเองปรากฏจ่ายไม่ดีมาเข้าทางมาสเคราโน่ที่ห้อขึ้นมาแล้วไหลให้เจอร์ราร์ดที่ป้ายนิ่มๆมาที่หน้าเขตโทษให้เอ็นก็อกที่เหมือนช้าไปนิดทำให้จังหวะยิงเจอตัวบล็อกโถมเข้ามาเลยยิงออกหลังหลุดเสาไปเอง

หงส์งานเข้าเหลือ 10 ตัว!!
เกมนี้สงสัยต้องเตรียมเครื่องมือผ่าตัดมาไว้ที่ข้างสนามเลยดีกว่าเพราะเข้าบอลนี่มีแถมมีเปิดปุ่มกันตลอดเวลาและนาที 33 คีย์เกียกอสสไลด์เปิดปุ่มสองเท้าเข้าหาเฟไลนี่ที่เหยียบเข้าที่หน้าแข้งเต็มๆแต่สุดท้ายหลังปฐมพยาบาลเสร็จมาร์ติน แอ็ตกินสันแจกใบแดงให้คีย์เกียกอสทันทีเพราะส่อเจตนาไม่ดีส่วนเฟไลนี่รอดตัวไม่โดนอะไรเช่นกัน

เฟไลนี่เล่นไมไหว
เฟไลนี่ออกไปปฐมพยาบาลอยู่พักนึงแล้วลุกขึ้นมาทิ้งน้ำหนักลงที่เขาปรากฏโดดเหยงไม่ไหวทำให้เดวิด มอยส์ต้องส่งมิเกล อาร์เตต้ามาเล่นแทน

หัวขิงปั่นฟรีคิกชนคาน
นาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลน่าจะได้จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญหลังได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาเป็นเจอร์ราร์ดปั่นข้ามกำแพงแล้วไซด์ไปชนคานหมดสิทธิ์ที่ฮาวเวิร์ดจะเซฟทันแล้วด้วย

เคฮิลล์โขกจ่อๆข้ามคาน!!
หงส์แดงหันมารับกันเต็มตัวเพราะตัวน้อยกว่าและทดเจ็บนาทีที่ 3 เอฟเวอร์ตันน่าจะขึ้นนำเหลือเกินหลังโดโนแวนเปิดบอลจากหน้ากรอบโทษให้พีนาร์โขกชงย้อนไปจุดนัดพบให้เคฮิลล์ตอร์ปิโดโขกแบบไร้ตัวประกบแค่ 6 หลาแต่ดันข้ามคานเหลือเชื่อ ระดับเคฮิลล์ลูกนี้ต้องเข้าสถานเดียว

ครึ่งหลัง

ท๊อฟฟี่ลุยใส่ทันที
เริ่มมาไม่กี่นาทีลูกวางยาวมาหน้าเขตโทษของเนวิลล์หล่นใส่หัวคาร์ราเกอร์จนเคฮิลล์เก็บตกแล้วจังหวะยิงต้องซัดมุมแคบเลยเข้ามือเรน่าที่ยืนรับเข้าซองพอดี

หงส์รับแล้วรอสวน
เกมของเอฟเวอร์ตันเหนือกว่าเพราะลิเวอร์พูลจำใจต้องเน้นรับเนื่องจากตัวน้อยกว่าและดูเหมือมอยส์จะสั่งมาให้เจาะตรงแบ็คขวาซึ่งมาสเคราโน่ต้องถอยไปอุดรอยโหว่แทนคาร์ราเกอร์ที่โยกมายืนเซนเตอร์

เคาท์โขกเต็มๆ 1-0
แต่แล้วนาที 55 ลิเวอร์พูลกลับมาขึ้นนำหน้าตาเฉยหลังลูกเตะมุมของเจอร์ราร์ดมาหล่นใส่หัวเคาท์ที่ขวิดเผาขนแค่ 3-4 หลาตุงตาข่ายไม่มีเหลือ ต้องบอกว่าลูกนี้หัวขิงโยนแม่นมากเพราะเคาท์แทบไม่หยู่ในสถานะที่เอาตัวรอดได้เลยเนื่องจากเจอทั้งเนวิลล์รั้งตัวแถมฮาวเวิร์ดบี้เป็นแซนด์วิชอีกคนด้วยแต่หงส์แดงนำแล้ว 1-0

หงส์เริ่มเหนือกว่า
เกมของลิเวอร์พูลหลังขึ้นนำดีขึ้นมากเลยทีเดียวเพราะการตั้งรับของพวกเขามีจุดหมายแล้วคือรักษาประตูแต่ตอนนี้เกมรุกกลับพลิกมาเหนือกว่าเรียกว่าลำเลียงบอลมานัวหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือนได้นานต่อเนื่อง

อีทีร้อนรนเปลี่ยนสองตัว
เกมของเอฟเวอร์ตันตายสนิทจนไม่รู้ว่าใครเหลือ 10 ตัวกันแน่จนเดวิด มอยส์ทนไม่ไหวส่งยาคูบูและอนิเชบี้มาคู่เลย

ท๊อฟฟี่เริ่มคุมเกมแต่ไม่ได้ยิง
พอเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายทีนี้ลิเวอร์พูลเริ่มรับหนักจนเกมเป็นของเอฟเวอร์ตันมากขึ้นเรื่อยๆแต่จะว่าไปแล้วยังไม่เห็นเรน่าเซฟอะไรเลย

หวิดมวยหมู่แล้ว
ก่อนหมดเวลา 6 นาทีเกือบมีมวยอีกแล้วเมื่อเจอร์ราร์ดสไลด์เสียบบอลใส่พีนาร์แล้วถามถีบเข้ายอดอกไฮติงก้าเลยจะมาเอาเรื่องแถมอานิเชบี้มาโวยใส่จะเอาเรื่องแล้วพอแอกเกอร์มาท้าชนเลยเจอผลักอกเกมวุ่นวายหนักจริงๆ

ยาคูบูเกือบยิงงาม
นาทีสุดท้ายยาคูบูพิงบอลหน้าเขตโทษกับมาสเคาก่อนพลิกยิงด้วยอีซ้ายลักไก่ทำให้เรน่าต้องบินปัดข้ามคานรอดตายหวุดหวิด เสียแค่เตะมุม

ท๊อฟฟี่มาอีกชุดเกือบ 1-1
ช่วงทดเจ็บเอฟเวอร์ตันเกือบตีเสมอได้หลังอนิเชบี้พิงบอลหลุดเข้าเขตโทษหลุดเข้ามุมแคบก่อนล้มตัวกวาดยิงตรงเส้นหลังยังดีที่เรน่าปิดมุมใช้มือเดียวปัดบอลโด่งแล้ววิ่งตามมาเอาต่ออีกที

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์ ,โซโตริออส คีย์เกียกอส,
ดาเนี่ยล แอกเกอร์,เอมิเลียโน่ อินซัว,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,ลูคัส เลว่า,เดิร์ก เคาท์ (สเคอร์เทล น.90),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ,มักซี่ โรดริเกซ(ออเรลิโอ น.90),เดวิด เอ็นก็อก(บาเบิ้ล น.63)

เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด,ฟิล เนวิลล์,ซิลแวง ดิสแต็ง,จอห์น ไฮติงก้า ,เลจตัน เบนส์,มารูยาน เฟไลนี่ (อาร์เตต้า น.40),แลนดอน โดโนแวน,ลีออน ออสแมน,ทิม เคฮิลล์,สตีเฟ่น พีนาร์
หลุยส์ ซาฮา(อนิเชเบ้ น.72 )














 


ขอบคุณข่าวจาก www.lentee.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์