สาวก เดอะ ค็อป แอบลุ้นลึกๆ เคนนี่ ดัลกลิช สุดยอดฮีโร่ ลิเวอร์พูล ไม่ปัดโอกาสกลับมาทำหน้าที่กุนซือลูกหนังอีกครั้ง แม้กำลังมีความสุขกับบทบาททูตของสโมสร โต้หากหวนคืนตำแหน่งนายใหญ่ ก็จะไม่กลายเป็นกุนซือตกยุคเหมือนที่ถูกตั้งแง่ชัวร์ เพราะปรัชญาเกมลูกหนังไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากการบริหารจัดการนักเตะ และพาทีมคว้าชัยชนะมาครอง
เคนนี่ ดัลกลิช ตำนานนักเตะและผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรท้ายตารางแห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดประตูพร้อมกลับมารับงานคุมทัพในถิ่น แอนฟิลด์ อีกครั้ง หลังจากหายหน้าไปจากการทำหน้าที่กุนซือยาวนานกว่า 10 ปี เมื่อเห็น หงส์แดง ทำผลงานสุดย่ำแย่ จมปลักอยู่ในโซนตกชั้นในฤดูกาลนี้
ชื่อของ คิงเคนนี่ วัย 59 ปี กลายมาเป็นประเด็นร้อนของบรรดา เดอะ ค็อป, สื่อมวลชน และสำนักรับแทงพนันถูกกฎหมาย ที่ต่างยกให้ตำนานลูกหนังแดนวิสกี้ อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการเข้ามากอบกู้วิกฤตของสโมสรดังแห่งถิ่น เมอร์ซี่ย์ไซด์ ในอนาคต
อย่างไรก็ดี ดัลกลิช ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องเด่นประเด็นร้อนต่างๆ เกี่ยวกับ เดอะ เร้ดส์ ทั้งการตกอยู่ในโซนท้ายตาราง การตกลงขายทีมให้ นิวอิงแลนด์ สปอร์ตส์ เวนเจอร์ส (เอ็นอีเอสวี) รวมถึงโอกาสในการเป็นผู้จัดการทีมต่อจาก รอย ฮ็อดจ์สัน ที่กำลังกดดันหนักในเวลานี้ เพียงแต่เจ้าตัวไม่ได้บอกปัดการกลับมาทำหน้าที่บัญชาเกมข้างสนาม แม้ยอมรับว่า กำลังสนุกกับบทบาททูตประจำทีมเยาวชนของสโมสร และงานด้านอื่นๆ อยู่ในเวลานี้ก็ตาม
สุดยอดขวัญใจแฟนบอล เร้ด แมชีน ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว รอยเตอร์ส ว่า อย่างแรกเลย คุณจำเป็นต้องได้รับการร้องขอมา อย่างที่สอง มันจำเป็นต้องเหมาะสม หากคุณได้รับการร้องขอ เพราะคุณไม่ได้บอกว่า ไม่ ผู้คนก็เลยคิดว่า คุณบอกว่า ใช่ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องถูกต้องอย่างแท้จริงเช่นเดียวกัน ผมคงจะไม่บอกอะไรมากไปกว่า ผมมีความสุขมากๆ ในเวลานี้ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรที่เด็ดขาดชัดเจนเช่นเดียวกัน
นอกจากนั้น ดัลกลิช ที่พา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายในปี 1990 ก่อนออกไปอยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ กลาสโกว์ เซลติก ยืนยันว่า การไม่ได้ทำหน้าที่เทรนเนอร์มานานกว่า 10 ปีนั้น ไม่ได้หมายความว่า จะทำให้ตนไม่ทันต่อการพัฒนาในวงการลูกหนังยุคปัจจุบันแต่อย่างใด
อดีตนักเตะที่เคยครองแชมป์ลีกกับ ลิเวอร์พูล 8 สมัย ทั้งในฐานะนักเตะ และผู้จัดการทีม กล่าวต่อไปว่า ผมไม่เคยห่างหายไปจากเกม ผมไม่คิดว่า มันเปลี่ยนแปลงอะไรเลย หรือไม่ใช่? มันไม่เหมือนกับเทคโนโลยีสักหน่อย หรือเป็นแบบนั้น? มันยังคงเป็นเรื่องของคน มันยังคงเป็นเรื่องของผลการแข่งขัน ผู้คนอาจเปลี่ยนแปลงไป แต่หลักการไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย มีเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มากขึ้นตอนนี้ ในเรื่องของสภาพร่างกายนักเตะ แต่มันก็เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ผมอยู่กับ แบล็คเบิร์น แล้วนี่นา
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
