จอมแจกแต้ม!หงส์พ่ายหมดสภาพ

"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล

จ่อตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกเต็มทนและกลายเป็นบ๊วยทีมใหม่ของกลุ่มเอด้วยไปเรียบร้อยแล้วหลังถูก"อดีตทีมบ๊วย"เบซิคตัสถองหน้ายู่ 2-1 ทำให้เตะมาสามนัดแพ้สองเพิ่งมีแต้มเดียวโอกาสตกรอบจ่ออยู่รำไรและอนาคตอาจต้องไปเล่นยูฟ่า คัพอย่างรวดเร็วอีกด้วย

เบซิคตัส 2-1 ลิเวอร์พูล

สนาม : อิโนนู สเตเดี้ยม, อิสตันบูล

ประตู : 1-0 ฮูเปีย น.13(ทำเข้าประตูตัวเอง), 2-0 โบโบ้ น.81, 2-1 สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด น.85

เริ่มเกมมาทั้งสองทีม

ต่างเปิดฉากแลกกันตั้งแต่เริ่มต้นเกม เพียงแต่ดูจะเป็นทางลิเวอร์พูล ที่ได้ลุ้นมากกว่าเล็กน้อย โดยมีหลายครั้งที่ใกล้เคียงกับการได้ประตูแต่จังหวะสุดท้ายยังดูไม่เฉียบคม

แต่ในขณะที่ทีมเยือนกำลังพยายามปั้นเกมรุกเจาะซ้ายเจาะขวาอยู่ดีๆ
 
จู่ๆก็ต้องมาเสียประตูแบบไม่คาดฝันแถมซวยสุดๆด้วยในนาทีที่ 13 เมื่อเดลกาโด้ สปีดแซงคาร์ราเกอร์ เข้าไปในเขตโทษ รองกัปตันหงส์แดงสไลด์หยุดบอลได้สวยในจังหวะแรกแล้ว

แต่คาร์ราเกอร์

ก็ดันมาตกม้าตายจังหวะต่อมาที่พยายามจะเตะสกัดบอลแต่ดันไปโดนขาของฟินแนน ก่อนจะเข้าทางเซอร์ดาร์ อุซคาน ยิงทันทีซึ่งจังหวะสุดท้ายลูกก็ยังไปแฉลบขาฮูเปีย เข้าไปชนิดที่เรน่าได้แต่เซ็งกับประตูนี้ ขณะที่เบซิคตัส เฮกันสนามแทบแตกกับสกอร์ 1-0

หงส์แดงเสียประตูง่ายๆ

ไปก็พยายามจะรีบร้อนกลับมาตีเสมอให้ได้โดยเร็ว และก็ทำได้ดีในจังหวะยิงไกลของริเซ่ นอกกรอบเขตโทษที่อาริคานต้องปัดด้วยปลายมือออกไป ก่อนที่อาริคาน จะต้องออกมาป้องกันประตูอีกครั้งในจังหวะที่เจอร์ราร์ด ทะลุเข้ามาในเขตโทษแล้วแต่ยิงไปติดเซฟนายทวารเจ้าถิ่น

หลังจากนั้นลิเวอร์พูล
 
ยิ่งเล่นยิ่งร้อนรนบวกกับเจอเสียงเชียร์กดดันจากแฟนเจ้าถิ่นทำเอาเล่นกันผิดพลาดง่ายๆตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือเกมรับ จนกลายเป็นอยู่ในสภาพอึดอัดกันไปเอง

อย่างไรก็ตาม

เมื่อผ่าน 30 นาทีไป ทางทีมเยือนก็เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ตามปกติ ขณะที่เจ้าถิ่นลงไปปักหลักตั้งรับเหนียวแน่นรอสวนกลับอย่างเดียว ซึ่งโอกาสในช่วงนี้ก็มีการลากตัดมายิงไกลของบาเบิล ที่เหินข้ามคานออกไป

แต่จนแล้วจนรอดลิเวอร์พูลก็เร่งไม่ขึ้น

แถมยังโดนเกมเพรสซิ่งของเบซิคตัส เล่นงานจนทำอะไรไม่ถูก และต้องจบครึ่งแรกไปด้วยการตามหลังแบบมึนตัวเอง แต่เจ้าถิ่นก็ต้องเสียกูร์ตูลุส ที่บาดเจ็บต้องให้โกราย อัฟซี่ลงมาแทนในนาทีที่ 41

เกมเข้าสู่ครึ่งหลัง
 
โดยที่ลิเวอร์พูล ก็ยังเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าแต่เป็นการครองบอลที่ไร้ความหมายเนื่องจากเจาะเกมรับของเบซิคตัสไม่ได้เลย แถมยังเล่นผิดพลาดกันเหมือนในช่วงปลายครึ่งแรกเป๊ะ

อย่างไรก็ตาม
 
หงส์แดงยังไม่ย่อท้อและเกือบจะได้รางวัลของความพยายามเมื่อบาเบิล เลื้อยทางซ้ายตัดมาก่อนเปิดให้โวโรนิน โขกตั้งให้เจอร์ราร์ด วอลเล่ย์ด้วยซ้ายลูกพุ่งเฉี่ยวเสาไปแค่ไม่กี่นิ้ว ทำเอากัปตันจีกุมหัวขิงด้วยอารมณ์เสียดายสุดๆ จากราฟาก็ส่งเบนายูน ลงมาแทนเพนแนนท์ที่ดูมีอาการบาดเจ็บ พร้อมกับการที่ลิเวอร์พูล เริ่มปูพรมถล่มทุกรูปแบบไม่ว่าจะเจาะตามช่องด้วยลูกสั้น และการวางบอมบ์เข้าเขตโทษ ทำเอาเจ้าถิ่นป่วนเหมือนกัน

แต่เบซิคตัส

ก็ขู่ได้น่ากลัวจากลูกสวนกลับเร็ว อัฟซี่ ไหลตามช่องให้โบโบ้ วิ่งมาซัดตูมเดียวในเขตโทษ ซึ่งถึงแม้ลูกจะข้ามคานออกไปแต่ก็เป็นการเบรกเกมของทีมเยือนที่กำลังเริ่มไหลได้ชะงัก นานๆลิเวอร์พูล จะได้ลุ้นซักครั้งซึ่งก็มีจากลูกที่เจอร์ราร์ดทำชิ่งกับเพื่อนหลุดเข้าไปแต่จังหวะสุดท้ายอาริคานออกมาเร็วดักไว้ได้ ขณะที่เบซิคตัส ก็มีโอกาสเหมือนกันจากอุซูลเมซ ที่หลุดเข้าไปดวลกับเรน่าเหมือนกันแต่ยิงไม่เข้ากรอบ

หงส์แดงมารอดตัวอีกครั้งเมื่อลูคัส

ที่ลงมาแทนมาสเคราโน่ พลาดลื่นล้ม เบซิคตัสเลยขึ้นเกมมาทางขวาที่อัฟซี่ หลุดไปโล่งๆในเขตโทษและเลือกตบมาให้โบโบ้ที่เสาไกลแต่กลับยิงข้ามคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ แต่โบโบ้ ก็มาแก้ตัวได้ในนาทีที่ 81 เมื่อยกบอลหลบฮูเปียที่เข้าพรวดอย่างเหนือชั้นก่อนจะกระชากแปบอลลอดขาเรน่า เข้าไปสุดเนียน ทำให้เบซิคตัสหนีห่างเป็น 2-0 ทำเอาความหวังของลิเวอร์พูลในการเข้ารอบต่อไปดับเกือบสนิท

ทว่าเจอร์ราร์ด

ก็ยังมาทำประตูตีตื้นมาให้หงส์แดงได้ก่อนหมดเวลา 5 นาที เมื่อกองหลังเบซิคตัส โขกเคลียร์บอลไม่ขาด เจอร์ราร์ด ที่ยืนรอแถวจุดโทษก็พุ่งตอร์ปิโดโขกสวนทางเข้าสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม ทำให้ลิเวอร์พูล ยังไม่ตายสนิท แต่แม้จะพยายามแค่ไหนแต่สุดท้าย "หงส์แดง" ก็ไล่ไม่ทัน จบเกมเบซิคตัส เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-1 ได้แต้มเพิ่มเป็น 4 คะแนนพอได้ลุ้นเข้ารอบ ส่วนลิเวอร์พูล อาการสาหัสมีแต้มเดียวและต้องเอาชนะให้ได้ทุกนัดใน 3 เกมที่เหลือเพื่อหวังปาฏิหารย์ในการเข้ารอบ