ความพ่ายแพ้ของ Liverpool กับ Do The Reds

ความพ่ายแพ้ของ Liverpool กับ Do The Reds

สู้ต่อไป

     หลังเกมการแข่งขันที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อค่ำคืน แฟนบอล ทั้งพันธุ์แท้ และพันธุ์ทางที่เชียร์ลิเวอร์พูล ต่างตกอยู่ในอาการ ช็อก โดยเฉพาะแฟนบอลพันธุ์ทางขาจร ที่ต้องพากันเจ็บตัว ส่วนแฟนบอลขาประจำอย่าง ผม เสียใจครับ แต่ มันคือเกมกีฬา ....ก่อนเล่นกับสเปอร์ก็นึกว่า ทำไมมันต้องมาเปลี่ยนแปลงทีม ตอนที่ เราจะเจอกันด้วย แล้วมาเปลี่ยนแปลงทีมแล้วก็เล่นได้ดี ... แต่มันคือวิถีบอลอยู่แล้ว ใครอยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ แล้วสเปอรืก็เหมือนเดินมาถูกทาง เปลี่ยนปุ๊บชนะปั๊บ แถมล่าสุดยังมาเสมอทีมคู่แค้นแบบเหลือเชื่อ... 
         ก่อนเกมการเล่นราฟา จัดแผนไม่น่าเกลียด เรียกว่าฟูลทีมทีเดียว ขาดไปเพียง ทอร์มิเนเตอร์เท่านั้น แต่คนที่ผมคิดว่าไม่น่าจะเอาลงมาเล่นมากที่สุดในเกมแบบนี้คือ ดอสเซนน่า เพราะ หนัก แต่ช้า...อยากเห็นออเรลิโอ ลงมากกว่า แต่นั่นไม่ใช่ปัยหา เมื่อเตะกันแล้วก็จะมองออกว่า เกมจะออกทิศทางใด..เดิร์ก สากเทอร์โบของเราแผลงฤทธิ์โดยใช้เวลาเพียงน้อยนิดให้เดอะเรดส์สยายปีกขึ้นนำ จากนั้นก็ดูเหมือนทุกอย่างเข้าทางเท้า นักเตะลิเวอร์พูลโดยสิ้นเชิง ไล่ดาหน้าบุกเป็นว่าเล่น นี่!!! นี่คือมิติใหม่ที่ไม่ค่อยได้เห็นในยุค ลุงราฟา มากนัก...แต่แล้วสิ่งที่ผมกลัวก็เกิดขึ้นเมื่อบุกแล้ว บุกอีก แต่ จังหวะน่าได้แล้วไม่ได้ มันจะนำพาภัยมาถึงตัว เมื่อเกมเข้าสู่นาที ท้ายๆ...และแล้วก็จริงอย่างว่า เมื่อท้ายเกมครึ่งแรกสเปอร์ที่ทั้งเกมต่อบอลไม่ขึ้นเริ่มได้เตะมุม และป้วนเปี้ยนแถว หน้าปากประตูบ่อยขึ้น ดีที่หมดเวลาครึ่งแรกไปก่อน
         ลุงราฟาก็คงกระตุ้นเด็กๆได้ดีครับ เพราะหลังจากปลายครึ่งแรกดูเนือยๆ เริ่มครึ่งหลังก็เห็นนักเตะลิเวอร์พูลกลับมาดาหน้าบุกอีกครั้ง แต่ก็ยังหาประตูเพิ่มไม่ได้ จากนั้น พอเริ่มผ่านนาทีไปทีละนิด สมาธิในเกมรุกเริ่มคลาย เริ่มผ่านบอลยาว เสียบอลบ่อย และแล้ว สเปอรืก็มาพบจุดเปลี่ยนที่สำคัญสิ่งที่กลัวที่สุด คือ การส่งกองหน้าร่างสูงใหญ่ลงมา...จากลูกเตะมุมหลังจากโดนกดดันเป็นระยะ คาร่า ก็ทำสิ่งที่เขาไม่อยากทำคือส่งบอลเข้าประตูฝั่งตนเอง หากจำไม่ผิด ครั้งสุดท้ายน่าจะเป็นนัดชิงเอฟเอคัพ ที่เขาพลาดแบบนี้...แต่นั่น เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสภาพจิตใจที่แกว่ง แต่ไม่ใช่ครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่แสดงให้เห็น ...หากเพื่อนๆได้ดูเกมที่พบ แอต มาดริด แบบเดียวกันเป๊ะ บุกจนนำ แล้วก็ส่องประตูที่สองไม่ได้.....แต่ครานั้นโชคดีที่ยื้อออกมาสำเร็จ
      กรรมการชูป้ายทดเวลา หากเป็นแม็ชต์ผ่านๆมา ผมคงภาวนาให้ทดมากๆ แต่ผิดกับครั้งนี้ ผมอยากให้เป่าหมดเวลาไปเลย เพราะรู้ดีว่า ความระส่ำกำลังมาเยือนแผงหลัง และประตูอย่างเรน่า....และแล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดก็อุบัติขึ้นอีกครั้ง เมื่อเบนท์ลี่ ที่ครึ่งแรก กับต้นครึ่งหลัง ลงมาวิ่งคลายเส้นเฉยๆ แต่พอหน้าเป้ามีสอง หมอนี่เล่นเป็นพระเอกในแดนมิดฟิลด์โชว์ลูกทีเด็ด และน่าจะเป็นจุดอ่อนที่สุดที่แก้ไขยาก ในยามนี้ ...บอลมันป้วนเปี้ยนหน้าประตูมาก และบ่อยเกินวิสัยทีมที่จะมีคะแนน..ฉับพลันยักษ์ขาวจากมอสโคว์ตะบันลูกกระทบตาข่าย ภาพเดิมๆของนักเตะเรดสืก็คือยืนเท้าเอว ก้มหน้า รอเขี่ยลูกบอล กลางสนาม...ครับมันจบแล้ว...ว่างเปล่า สำหรับเกมนี้

*****ก่อนเกมผมคิดว่า น่าจะเสมอเพราะ ราฟาคงไม่น่าจะเปิดเกมรุกเต็มตัวใส่สเปอร์มากนักเพราะรู้ดีว่าสเปอร์กำลังจะพฟื้นตัว ผลีผลามไม่ได้....แต่พอสากเทอร์โบยิงได้ ผมก็มองไปว่า หากยื้อสกอร์นี้ได้ จะเป็นผลดีต่อท้ายฤดูกาลมาก เพราะ หากทีมลุ้นแชมป์ด้วยกันบุกมาเยือนสเปอร์ ก็ต้องเจอสเปอร์ที่แข็งแกร่งกว่านี้ ตัดคะแนนไปในตัว แถมเราได้เจอสเปอร์ในสนามตนเองก็คงไม่ยากเกินไป...
****หลังโดนตีเสมอได้ ผมมองว่า อยากให้หมดเวลาไปเลย เพราะรู้ดีว่า บอลออกแนวเปรี้ยวแบบนี้ แต้มเดียวก็ดีถม บุกจนย่อยยับ ยิงเพิ่มไม่ได้ แล้วมาโดนตีเสมอแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มันเหมือน จิตตกสองเด้ง
****พอเจอเจ้ายักษ์ขาวจากมอสโคว์ยิง ผมก็พลันนึกในใจว่า...อืมมม นี่แหละฟุตบอล...เข้าใจแล้วว่าแฟน โบโร่คิดไงตอนจบเกม...แต่ แพ้นัดแรก ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะพังทลายคลืนลงมา และที่สำคัญ ก่อนฤดูกาล สเปอร์ คือหนึ่งในทีมที่ผม ไม่คิดว่าเราจะเอาคะแนนได้จากแม็ชต์เยือนอยู่แล้ว(คำนวนเองในตารางล่วงหน้า)
แม้จะเสียใจนิดหน่อย ก็จะตามเชียร์พวกนายต่อไป...เราคงไม่ปล่อยพวกนายเสียใจตามลำพัง....นี่คือความขลังของ..
ยูว เนฟเวอร์ วอร์ค อะโลน...
       


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์