ความทรงจำสีจางๆ วันนี้ขอเสนอ บ๊อบ เพสลี่ย์

บ๊อบ เพสลี่ย์ ยอดกุนซือตำนานหงส์แดง



  บ๊อบ เพสลี่ย์ ยอดกุนซือ แห่งมิลเลนเนี่ยม paisley3

  • บ๊อบ เพสลี่ย์ เป็นทั้งนักเตะ และผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เขาคือคนในที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของทีมเป็นระยะเวลานานพอสมควร เขาย้ายจากทีม บิชอบ ออคแลนด์ เป็นทีมสมัครเล่น ก่อนรวมทีมลิเวอร์พูลในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองพอดี ตลอดการค้าแข้งเขาเล่นแบ๊กซ้าย และมีสถิติลงสนามให้กับทีมนานถึง 278 นัด ก่อนที่จะเลิกเล่นในปี 1954 จากนั้นเขาก็เป็นผู้ช่วย ฟิล เทย์เลอร์ ผู้จัดการทีมยุคนั้น หลังจากทีมตกชั้น เขาก็ได้ผ่านการอบรมเป็นนักกายภาพบำบัด และเมื่อ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ เข้ามาคุมทีม เขาถูกเลือกให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมและดูแลงานโค้ชทั้งหมดนัยว่าเขาได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้รวมทั้งเรื่องการทำทีมจาก บิลล์ แชงค์ลี่ย์อย่างลึกซื้ง นอกเหนือจาก มรดก
    ที่ได้รับการจาก แชงค์ลี่ย์ เขาสามารถสานต่องานชิ้นนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบจนได้รับการบันทึกว่าเขาเป็นกุนซือที่เยี่ยมยอดที่สุดในวงการฟุตบอลอักฤษเลยทีเดียว

  • bobpaisley0902qoute2ao1

  • ผมอาจจะเป็นคนๆ หนึ่ง ที่เป็น บางส่วน แห่งความเรืองรองในถิ่นแอนฟิลด์ ในช่วงครึ่งศตวรรษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลิเวอร์พูลที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะสามารถพูดได้เต็มปากว่า ผมรู้ถึงความพิเศษบางสิ่งบางอย่างของลิเวอร์พูล และอะไรที่ทำให้ลิเวอร์พูลนี้มีความอหังการยิ่งใหญ่มาจนบัดนี้ และผมก็ยังได้รู้จักคนมากมายหลายคน ที่มีส่วนอย่างยิ่งใหญ่ในการช่วยกันสร้าง สถาบันลูกหนัง แห่งความเกียรไกรทีไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครเลย

    09462_003  Manager 


  • เป็นประโยคอมตะไม่รู้ลืมสำหรับผม เช่นเดียวกับหลายๆ คนที่มีความผูกพันกับลิเวอร์พูล ประโยคนี้ทำให้ผมรำลึกถึงคนที่ผมเดินตามเขา ในฐานะผู้จัดการทีมแห่งลิเวอร์พูล..บิล แชงคลี และไม่ต้องสงสัยเลยว่าชื่อของเขา..บิล แชงคลี คือชื่ออมตะแห่งตำนานยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พูล ซึ่งมีแต่ความมลังเมลืองยิ่งใหญ่ที่จะเป็นนิรันดร์แห่งถิ่นแอนฟิลด์ และไม่เพียงแต่ยุคของแชงคลีเท่านั้น สโมสรลิเวอร์พูลยังคงมีเรื่องราวแห่งอดีตที่น่าสนใจมากมาย อันล้วนแต่ราวกับเป็นคบเพลิงที่ส่องประกายเรืองรองแต่งแต้มสีสันให้กับประวัติศาสตร์แห่งสโมสรลูกหนังที่เกรียงไกรที่สุดแห่งเกาะอังกฤษ...และไม่ว่าจะเป็นความอลังการยิ่งใหญ่..หรือความสำเร็จเรืองรองแค่ไหน พวกเราล้วนมีส่วนเสี้ยว

    137353351x180ig5


  • สำหรับผมแล้วมันคือส่วนหนึ่งของชีวิตที่ดูเหมือนวันวานเหมือนถิ่นเหมือนบ้าน ลิเวอร์พูลมีอะไรมากมายที่แปรผัน จากสามัญสู่ยิ่งใหญ่สุดเทียมทานในช่วงสิบห้าปีที่ผมอยู๋ในถิ่นแอนฟิลด์..ผมไม่ใช่เพียงสักขีพยานแห่งความสำเร็จของสโมสรลูกหนังนี้..แต่ผมคงเป็นส่วนหนึ่งในความหมายนั้น..มากมายนักที่มักกล่าวว่า ลิเวอร์พูลคือบัลลังก์ลูกหนังอันแกร่งกระเดื่องแห่งอังกฤษที่จะไม่มีวันถดถอยสูญสิ้น เป็นสถาบันแห่งความยิ่งใหญ่ที่ราวกับมี มนต์ขลัง ที่ให้เป็นมรดกสืบทอดกันรุ่นแล้วรุ่นเล่า คนของลิเวอร์พูล ราวกับอยู่ยงคงกระพันในถิ่นแอนฟิลด์
    ที่รับช่วงรับใช้สโมสรไปสู่ความสำเร็จรุ่นแล้วรุ่นเล่าอย่างน่าพิศวง ไม่มีสโมสรลูกหนังใดที่จะเป็นระบบ สถาบัน และความเป็นปึกแผ่นมากไปกว่านี้อีกแล้ว ทั้งที่กาลเวลาย่อมผ่านพ้นไป เช่นเดียวกับยุคของนักเตะรุ่นแล้วรุ่นเล่าผู้จัดการทีมคนแล้วคนเล่า..แต่ความศักดิ์สิทธิ์อลังการของลิเวอร์พูลคงอยู่... อะไรคือเคล็บลับ มนต์ขลังแห่งความสำเร็จที่มีอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์..?

    09462_002 paisleymontagejpgvk5


  • ประวัติแห่งความสำเร็จ ระบบการสร้างทีมอย่างเฉียบขาด ได้สร้างจารีตให้กับลิเวอร์พูลไว้ ซึ่งไม่ใช่เพียงในยุคของเรา หรือจากทศวรรษ 1960 ที่ผ่านมาจนจวบปัจจุบันนี้..หากลิเวอร์พูลมีตำนานแห่งความยิ่งใหญ่มาเนิ่นนานแล้วในช่วงชีวิตของผมมีหลายส่วนที่ฝังแน่นอยู่ที่นี่...ยามเมื่อผมมองย้อนไปสู่อดีต มันช่างแจ่มจรัสเหมือนวันวานจริงๆ จากชีวิตนักเตะที่ทุ่มเทต่อสู้จนเป็นนักเตะคนหนึ่งในชุดทีมใหญ่ ที่มีประวัติการเล่นให้กับทีมอย่างโชกโชน..จากนั้นผมก็เป็นนักกายภาพบำบัด เจ้าหน้าที่ทีมเมื่อแขวนสตั๊ดแล้ว..แล้วก็เป็นผู้ฝีกสอนทีมสำรอง..เป็นเทรนเนอร์ของทีมชุดใหญ่..เป็นรองผู้จัดการทีม..และในที่สุดก็มาถึงตำแหน่งผู้จัดการทีม

    42277156paisley203af4 bootjpg


  • มาถึงตรงนี้ผมก็ยังเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของทีมชุดใหญ่ ซึ่งผมสามารถพูดได้เต็มปากว่า..ผมล้วนมีความสุขอย่างมากในหน้าที่และตำแหน่งต่างๆ ที่ผมได้รับเปลี่ยนไปเรื่อยตามกาลเวลาในถิ่นแอนฟิลด์นี้..แต่อย่างไรก็ตาม..วิถีทางของผมมิใช่ก้าวพุ่งผงาดไปสู่ความสำเร็จเพียงลำพังคนเดียว มีผู้คนมากมายที่เป็นส่วนของลิเวอร์พูลที่สร้างเส้นทางเดินนั้นขึ้นมาแล้วผมเพียงแต่เดินไปบนเส้นทางนั้นเท่านั้น

    reservesjpg


  • เมื่อครั้งที่ผมต้องรับภาระคุมทีมต่อจาก บิล แชงคลี สิ่งที่ผมเป็นกังวลมากที่สุดก็คือ ลูกทีมนักเตะลิเวอร์พูลจะไม่ยอมรับผมในฐานะ เจ้านาย ของพวกเขา..แต่แล้วเขาก็ห้อมล้อมยอมรับแล้วผมก็ก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างไม่มีพลาด มีอะไรมากมายที่ก่อกอปรกันขึ้นมาเป็น มนต์ขลังแห่งถิ่นแอนฟิลด์ ที่แฟนลิเวอร์พูลจะสามารถด่ำดื่มและทราบไปถึงแก่นแท้นั้น แต่ที่แน่ๆ ก็คือ พลังแห่งเดอะ ค็อป ที่ไม่เสื่อมคลาย

    09462_004


  • บ๊อบ เพสลี่ย์ กุนซือผู้กุมบังเหียนอยู่ระหว่างช่วงปี 1974-1983 อดีตกุนซือผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ลูกหนังอังกฤษและน่าจะรวมไปถึงความยิ่งใหญ่ในระดับสโมสรยุโรป ในยุคสมัยของเขาด้วยแฟนของลิเวอร์พูลรุ่นเก่า หรือกลางเก่ากลางใหม่ ส่วนถ้าเป็นพวกรุ่นใหม่ๆจริงๆ หลายๆ คนอาจจะเกิดไม่ทันหรือโตไม่ทันบางคนหรือหลายคนไม่พอใจที่ทำไม บ๊อบ เพสลี่ย์ จึงไม่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น เซอร์ หรือท่านเซอร์ของอังกฤษ ถ้าผลงานทั้งหมดที่เขาทำให้ลิเวอร์พูลเป็นสุดยอดทีมอันยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานอย่างแท้จริงของอังกฤษ และทีมหนึ่งของยุโรปในระหว่างช่วงระยะเวลา 9 ปีที่เขาเป็นผู้จัดการทีม หงส์แดง! นับจากปี 1974-1983 ที่เขาเป็นเจ้านายใหญ่ของชาวถิ่นแอนฟิลด์ และนำ ลิเวอร์พูล ครองตำแหน่งแชมป์รายการต่างๆ ได้อย่างมากมายรวมแล้วถึง 19 แชมป์ด้วยกันไล่ตั้งแต่แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย, แชมป์ยูฟ่า คัพ 1 สมัย, แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษในชื่อเดิม ดิวิชั่น 1 รวม 6 สมัย และแชมป์ลีก คัพ อีก 3 สมัย(ติดต่อกันด้วย)

    skipperjpg


  • ในประวัติศาสตร์ของสโมสรลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นทีมที่ครองแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้สูงสุดเกินกว่าสโมสรอื่นใดทั้งหมด คือ 18 สมัย...6 ครั้งในจำนวนนั้นเป็นผลงานในช่วงเกมกุมบังเหียนของ บ๊อบ เพสลี่ย์ และเป็น 6 ครั้งในระยะเวลาเพียงแค่ 9 ปีอีกด้วย นับจากฤดูกาล 1975-76, 1976-77, 1978-79, 1979-80, 1981-82 จนถึง1982-83 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขาก่อนที่จะวางมือ และเป็น โจ เฟแกน ที่สืบทอดตำแหน่ง(เรียกว่า 2 ปีเว้นปีโดยตลอดเลยทีเดียว และในฤดูกาลต่อจากนั้นคือ 1983-84 เฟแกนก็นำลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 เดิม 3 สมัยติดต่อกันได้สำเร็จด้วย

    Bob


  • ลิเวอร์พูลได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ รวมทั้งหมด 4 สมัย และ 3 ใน 4 ครั้งนั้นก็อยู่ในยุคของเพสลี่ย์คือ ฤดูกาล1976-77, 1977-78 และ 1980-81 ก่อนที่เฟแกนจะทำให้ได้ครั้งที่ 4 ในฤดูกาล 1983-84 และลิเวอร์พูลเคยได้แชมป์ยูฟ่า คัพ ก่อนหน้าฤดูกาล 2000-2001 ที่เพิ่มผ่านพ้นไปนี้ 2 สมัย ในฤดูกาล 1972-73 ซึ่งอยู่ในยุคของบิลล์ แชงค์ลี่ย์ และในฤดูกาล 1975-76 ซึ่งเป็นผลงานของเพสลี่ย์อีกเช่นกัน

    3233jpg


  • นอกจากนั้นลิเวอร์พูลเคยเป็นแชมป์ลีก คัพ มาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง ซึ่ง 3 ครั้งแรกสุดก็เป็นผลงานของเพสลี่ย์ยอดกุนซือคนนี้อีกต่างหากด้วย 3 ปีรวดเลยทีเดียว คือในปี 1981, 1982 และ 1983 ก่อนที่เฟแกนจะทำให้ลิเวอร์พูลได้ถ้วยใบนี้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในปี 1984 และมาได้ครั้งที่ 5 ในปี 1995 ขณะที่มี รอย อีแวนส์ เป็นกุนซือจริงอยู่ที่ว่าในจำนวนแชมป์เอฟเอ คัพ ซึ่งลิเวอร์พูลได้ไปครองนั้นทั้งหมดรวมฤดูกาล 2000-2001 ด้วย 6 สมัยแม้ในยุคของเพสลี่ย์เขาจะไม่อาจนำทีมเป็นแชมป์ถ้วยใบเก่าที่สุดของอังกฤษนั้นได้เลย...และจะเห็นได้ว่า โจ เฟแกน ก็เป็นกุนซือที่สามารถนำลิเวอร์พูลเป็น ทริปเบิ้ลแชมป์ หรือ 3 แชมป์ในฤดูกาลเดียวได้สำเร็จมาแล้วในฤดูกาล 1983-84 คือเป็นทั้งแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ, แชมป์ดิวิชั่น 1 และแชมป์ลีก คัพ...แต่เมื่อดูจากผลงานโดยรวมทั้งหมดบ๊อบ เพสลี่ย์ แล้ว 13 แชมป์ในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 9 ปี...และที่สำคัญระดับสุดยอดที่สุดก็คือการที่เขานำลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ได้ถึง 3 สมัย นั้นก็เพียงพอและบ่งบอกให้เห็นเป็นอย่างดีที่สุดแล้วว่า เขาเหมาะสมที่จะได้รับบรรดาศักดิ์ เป็น ท่านเซอร์ ของราชวงศ์อังกฤษมากเพียงใด เพราะในความเป็นจริงอย่างหนึ่งก็คือ ในประวัติศาสตร์ของถ้วยยูโรเปี้ยน คัพ มาจนถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในเวลานี้เกือบครึ่งศตวรรษเข้าให้แล้ว ยังไม่เคยมีกุนซือคนใดที่นำทีมผงาดสู่การเป็นเจ้าสโมสรยุโรปในถ้วยใบสุดท้ายที่ว่านี้ได้ถึง 3 สมัย เลยแม้แต่คนเดียว...ยกเว้น บ๊อบ เพสลี่ย์
     

  • เครดิต :
     

    ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
    กระทู้เด็ดน่าแชร์