เสมอเป็นอย่างเดียว!เป็ดแดงบุกเจ๊าหงส์ขาวจืดชืด 0-0


 
ศึกสงครามบอลเล่นบอลพื้นระหว่างสวอนซีและลิเวอร์พูลจบลงด้วยการเสมอแบบไม่มีใครเก่งกว่าใคร 0-0 โดยโอกาสใกล้เคียงสุดเป็นลูกยิงสุดสวยของราฮีม สเตอร์ลิ่งที่ชนคานดังสนั่นทำให้ลูกทีมเบรนแดน ร็อดเจอร์สเสมอเป็นเกมที่ 4 จาก 5 นัดหลังสุดอยู่อันดับ 11 อย่างว้าเหว่ต่อไป

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2555



สวอนซี ซิตี้ 0-0 ลิเวอร์พูล

สนาม : ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม

ประตู :


หงส์ขาวสวอนซีฟอร์มในบ้านถือว่าไม่ดีนักเหนักไปทางเสมอโดยแบ่งเป็นชัยชนะ 1 และแพ้ 1 เกมเท่านั้นโดยเกมล่าสุดพวกเขาสามารถตามตีเสมอเชลซี 1-1

ไมเคิ่ล เลาดรู๊ปไม่มีมิเชล ฟอร์มที่ยังเดี้ยงทำให้เทรมเมลรับหน้าที่เฝ้าเสาต่อไปแผงหลังนำทีมโดยชิโก้ ฟลอเรสและแอชลี่ย์ วิลลี่ยมส์ส่วนกองกลางโจนาธาน เด กุซมานกับลีออน บริตตันนำทัพและใช้มิชูกับเชชเตอร์ล่าตาข่าย

หงส์แดงลิเวอร์พูลไม่แพ้ใครมานาน 7 เกมนับตั้งแต่พ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมาโดยเป็นผลงานชนะ 3 เสมอ 4 นัดรั้งอันดับ 12 บนตาราง

เกมนี้เบรนแดน รอดเจอร์สกุนซือตาหวานตัดสินใจปรับเปลี่ยนแผงหลังถอนอันเดร วิสดอมแบ็คดาวรุ่งที่ไม่ผ่านความฟิตออกจากทีมโดยขยับเกล็น จอห์นสันมาประจำการด้านขวาตามถนัดส่วนด้านซ้ายเป็นหน้าที่ของเอ็นริเก้

แผงกองกลางมอบโอกาสให้จอร์แดน เฮนเดอร์สันลงสนามพิสูจน์ฝีเท้าคู่กับอัลเลนและเจอร์ราร์ดส่วนปีกซ้ายกลายเป็นดาวนิ่งที่ลงมาทำเกมคู่กับสเตอร์ลิ่งในด้านขวากองหน้าเป็นหลุยส์ ซัวเรซดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกที่กำลังฮอตเหลือเกิน


ครึ่งแรก

ราฮีมยิงเบาเข้ามือโกล
เกมมาถึงนาทีที่ 9 สวอนซีสกัดบอลไม่ดีมาเข้าเท้าของราฮีม สเตอร์ลิ่งที่จับบอลได้ในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนเจ้าหนูวัย 17 จะหาจังหวะสับด้วยขวาไปทางโคนเสาแรกแต่บอลยังไม่ผ่านเทรมเมล

เร้าท์เลดจ์อัดเต็มเรน่าเซฟได้
สวอนซีมีโอก้าขึ้นนำเหมือนกันในจังหวะที่เวย์น เร้าท์เลดจ์รับบอลทำชิ่งสั้นหน้ากรอบเขตโทษด้านขวาก่อนตัดสินใจยิงเต็มข้อไปทางเสาแรกทันทีแต่เรน่ายังปิดมุมได้ดีปัดออกหลังไปได้

อาเบะเข้าชาร์จยังไม่ตรง
นาทีที่ 17 เกล็น จอห์นสันเติมขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวาได้ดีก่อนเปิดเข้าไปจุดนัดหมายกลางประตูที่มีเอ็นริเก้พยายามสอดเข้ามาใช้ตัวบังคับบอลให้เข้ากรอบแต่โดนไม่ดีบอลหลุดเสาขวามือออกไป

อัลเลนเคลียร์มีเสียว
เกมผ่านมา 20 นาทีปาโบลลากบอลขึ้นมาริมเส้นฝั่งขวาได้สวยก่อนแทงไปให้เซชเตอร์หลุดไปถึงเส้นหลังในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนที่เจ้าตัวจะตบเข้ามากลางไปโดนอัลเลนเคลียร์ทิ้งแต่บอลก็ไปชนปาโบลกระเด้งออกหลังประตูไปอีกทีหนึ่งชินที่เรน่าใจหายวาบเหมือนกัน

จีเจหลุดเดี่ยว...ได้แค่ลุ้น
นาทีที่ 24 หงส์แดงน่าได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุดในจังหวะที่จอห์นสันทำชิ่งสั้นกับเอ็นริเก้หน้าปากเขตโทษของเจ้าถิ่นก่อนหลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้าโล่งๆระยะไม่ถึง 10 หลาแต่ดันยิงไปติดขาของเทรมเมลที่วิ่งออกมาบล็อกได้เร็วบอลกระเด้งข้ามคานออกไป

ปาโบลปั่นไกลออกเสาหวุดหวิด
ปาโบลเกือยทำให้เจ้าถิ่นได้เฮแล้วเมื่อครองบอลอยู่ในระยะ 25 หลาหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตัดสินใจยิงเร็วทันทีบอลโค้งไปทางเสาสองแต่ไม่พอหลุดเสาไปนิดเดียวเท่านั้นโดยเรน่าได้แค่ผวาไปไม่ถึงแล้ว

หัวขิงเฟอะหงส์เกือบซวย
สตีเว่น เจอร์ราร์ดเกือบมอบของขวัญให้สวอนซีเสียแล้วเมื่อตอกส้นกลับหลังจะให้อัลเลนแต่โดนตัดได้ก่อนที่เหล่านักเตะของสวอนซีจะเติมขึ้นมาถึง 5 คนแต่เด กุซมานกลับยิงออกไปอย่างน่าผิดหวัง

ราฮีมเต็มข้อชนคานสนั่น
โอกาสของลิเวอร์พูลมาอีกครั้งเมื่อเทรมเมลปัดไม่ดีมาเข้าทางซัวเรซได้อัดด้วยขวาเต็มๆในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่บอลไปติดบล็อคของรานเกลออกหลังไป

จากจังหวะเตะมุมกองหลังของสวอนซีโหม่งเคลียร์ไม่ขาดบอลมาเข้าเท้าของสเตอร์ลิ่งตรงหน้าเขตโทษโดยเจ้าหนูตะบันด้วยขวาเต็มๆแต่บอลไปชนคานดังสนั่นเลย

อาเบะยิงเข้าแต่ล้ำหน้า
นาทีที่ 33 หงส์แดงส่งบอลเข้าประตูไปได้แต่ดันเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนเมื่อซัวเรซที่ทำบอลชิ่งสั้นๆอยู่กับจอห์นสันตักบอลเร็วไปหน้าปากประตูให้เอ็นริเก้สอดเข้ามาจิ้มบอลเข้าประตูไปแต่ภาพช้าแสดงให้เห็นว่าท่อนแขนของเขาล้ำหน้าไปนิดเดียวเท่านั้น

หลังจากนั้นหงส์แดงยังเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์สวยๆทำให้จบเกมครึ่งแรกด้วยการเสมอกันไป 0-0


ครึ่งหลัง

เริ่มเกมครึ่งหลังคี ซุง-เยืองกองกลางเกาหลีใต้ได้โอกาสลงสนามมาปั้นเกมแดนกลางโดยเลาดรู๊ปถอดอีเตย์ เชซเตอร์ออกจากสนามแล้วดันมิชูยืนเป็นหน้าเป้าเพียงคนเดียว

ขิงได้ยิงครั้งแรก
โอกาสครั้งแรกในครึ่งหลังเป็นของลิเวอร์พูลในจังหวะที่เจอร์ราร์ดพยายามทำชิ่งจังหวะเดียวหน้าปากเขตโทษแต่โดนกองหลังสวอนซีบล็อคเอาไว้ได้บอลกลิ้งมาเข้าเท้ามิดฟิลด์หัวขิงอีกครั้งทำให้เขาตัดสินใจยิงด้วยซ้ายแต่บอลเบาลอยไปเข้ามือของเทรมเมลรับสบายๆในนาทีที่ 55

ถัดมาไม่กี่นาทีเจอร์ราร์ดแทงบอลให้ซัวเรซเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาซึ่งดายยิงอุรุกวัยตัดสินใจยิงด้วยขวาข้างถนัดทันทีแต่เทรมเมลก็ยังล้มตัวเซฟที่เสาแรกเอาไว้ได้้

มิชูโขกเข้ามือเรน่า
เกมผ่านมาครบ 1 ชั่วโมงพอดีหงส์ขาวมีโอกาสได้ลุ้นบ้างเมื่อปาโบลได้หลุดเข้าไปในเขตโทษด้านซ้ายก่อนตัดกลับมาให้มิชูขึ้นโขกกับแอกเกอร์แต่บอลไปเข้ามือของเรน่าที่ปักหลักรับเอาไว้ได้

หงส์รอดตายอัลเลนเคลียร์จากเส้น
นาทีที่ 62 เจ้าถิ่นยังพับสนามบุกอยู่ต่อเนื่องและพวกเขามีโอกาสได้ประตูอย่างที่สุดในจังหวะเตะมุมที่ซุง-เยืองเปิดเข้ามากลางประตูให้แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมได้ขึ้นโขกแต่อัลเลนยังเฝ้าเสาอยู่เตะทิ้งออกมาได้

ซัวเรซหลุดยิงออกเสาสอง
มาถึงนาทีที่ 70 จอห์นสันลากบอลขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาก่อนตบกลับมาให้หม่อมเหยินที่พยายามเลี้ยงเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาหาจังหวะกึ่งยิงกึ่งผ่านบอลออกเสาสองไปโดยไม่มีใครเข้าชาร์จ

หลังจากนั้นดาวนิ่งมัวแต่เงอะงะโดยดายเออร์ฉกบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษด้ายขวาแต่เรน่ายังออกมาเร็วทำให้ทั้ง 2 คนปะทะกันอย่างจังนายด่านสเปนดวงดีที่ไม่เจ็บมากแม้จะโดนปลายสตั๊ตของดายเออร์เข้าไปเต็มหัวทีเดียว

ตาหวานแก้เกมส่งจ้อน,โคลลงสนาม
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายรอดเจอร์สตัดสินใจแก้เกมเปลี่ยนเชลวี่ย์กับโจ โคลลงสนามไปแทนเฮนเดอร์สันและดาวนิ่งที่เล่นได้ไม่ดีทั้งคู่ในวันนี้

หงส์ได้สวนหม่อมเหยินยิงตรงตัว
นาทีที่ 83 หงส์แดงได้สวนกลับจากลูกที่เรน่าชกลูกเตะมุมออกมาบอลเข้าเท้าของซัวเรซหลุดไปกับสเตอร์ลิ่งอยู่ 2 คนแต่จังหวะสุดท้ายสเตอร์ลิ่งจ่ายกลับมาไม่ดีทำให้กองหลังสวอนซีกลับมาทันแต่หม่อมเหยินก็หาจังหวะยิงได้ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่บอลก็ยังไปตรงตัวของเทรมเมล

เรน่าบินเซฟฟรีคิกหงส์รอดหวิว
นาทีที่ 86 หงส์ขาวได้ฟรีคิกระยะเพียง 20 หลาปาโบลรับหน้าที่สังหารบอลผ่านกำแพงพุ่งไปทางเสาขวามือแต่เรน่ายังบินไปปัดออกหลังเอาไว้ได้หวุดหวิด

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บจอนโจ้ เชลวี่ย์ได้ตะบันไกลด้วยขวาระยะ 25 หลาบอลพุ่งสุดแรงแต่ทว่าเทรมเมลยังปัดป้องเอาไว้ได้เช่นกัน

หลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมก็ยังไม่สามารถทำอะไรกันได้ทำให้ต้องเจ๊ากันไปแบบไม่มีสกอร์โดยหงส์ขาวเก็บเพิ่มอีก 1 แต้มขึ้นไปอยู่อันดับ 8 บนตารางส่วนหงส์แดงรั้งอันดับ 11 มี 16 แต้มจากการลงสนาม 13 นัด

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

สวอนซี ซิตี้ : เจอร์ฮาร์ด เทรมเมล, ชิโก้ ฟอลเรส
, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, อันเคล รานเกล, เบน เดวิส, ลีออน บริตตัน, ปาโบล, เวย์น เร้าท์เลดจ์ (นาธาน ดายเออร์ น. 67), โจนาธาน เด กุซมาน (เคมี่ อกุสเตียน น. 85), มิชู, อีเตย์ เชชเตอร์ (คี ซุง-เยือง น. 46)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เดวิด คอร์เนลล์, แกร์รี่ มังค์, ดไวท์ เทียนเดลลี่, เลรอย ลิต้า

ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, ดาเนี่ยล แอกเกอร์, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง (โจ โคล น. 77), มาร์ติน สเคอร์เทล, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สั (จอนโจ้ เชลวี่ย์ น. 77), โจ อัลเลน, โฆเซ่ เอ็นริเก้, หลุยส์ ซัวเรซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : แบรด โจนส์, เซบาสเตียน โคอาเตส, เจมี่ คาร์ราเกอร์, นูริ ซาฮิน, ซูโซ่









 


แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ soccer suck

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์