มาสักที!เอฟเอแจงเหตุแบนยาวหม่อมเหยิน


ในที่สุดสมาคมฟุตบอลอังกฤษ(เอฟเอ)ก็ออกมาเผยถึงเหตุผลที่ตัดสินใจลงดาบแบนหลุยส์ ซัวเรซหัวหอกของลิเวอร์พูลนานถึง 8 นัด

จากข้อหาเหยียดผิวปาทริซ เอฟร่าแบ็กซ้ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโดยอ้างรายงานฉบับเต็มของคณะกรรมการวินัยอิสระที่มองว่า"หม่อมเหยิน"ขาดความน่าเชื่อถือและหลักฐานบางส่วนไม่สอดคล้องกับภาพที่บันทึกได้

เอฟเอประกาศลงโทษดาวยิงวัย 24 ปีด้วยการแบนยาว 8 นัดพร้อมปรับเงินอีก 40,000 ปอนด์สำหรับการเหยียดผิวเอฟร่า แต่ชัดเจนเลยว่ายอดทีมเมอร์ซี่ไซด์ไม่ยอมรับบทลงโทษดังกล่าวและพร้อมใช้สิทธิอุทธรณ์เพื่อต่อสู้กับข้อกล่าวหา

เอกสารความยาว 115 หน้าซึ่งลงรายละเอียดการสอบสวนในกรณีนี้ทั้งหมดได้ถูกเปิดเผยผ่านทางเว็บไซท์ของเอฟเอเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาและมีคำอธิบายรายละเอียดของบทสนทนาระหว่างนักเตะทั้งสองในเกมที่สนามแอนฟิลด์เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมรวมอยู่ด้วย

รายงานระบุว่าหลังถูกหัวหอกอุรุกวัยเตะทางเอฟร่าก็เข้าไปถามซัวเรซว่าทำไมถึงทำแบบนั้นกับเขาซึ่งศูนย์หน้าลิเวอร์พูลก็ตอบกลับมาเป็นภาษาสเปนที่แปลได้ว่า"เพราะเอ็งมันดำ"

เมื่อเอฟร่าท้าทายให้เขาลองพูดอีกครั้งโดยบอกว่าจะ"ซัดเขาให้คว่ำ"ทางซัวเรซก็บอกว่า"ข้าไม่พูดกับคนผิวดำ"

ทั้งนี้ซัวเรซได้สบถคำว่า"นิโกร"ออกมาถึง 7 ครั้งภายในเวลา 2 นาที

อย่างไรก็ตามจากรายงานพบว่าผู้เล่นทั้งสองไม่สามารถจำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามได้ทั้งหมดเพียงแต่ทางฝั่งของเอฟร่ามีหลักฐานที่น่าเชื่อถือมากกว่า

เอกสารได้สรุปรายละเอียดว่า"เอฟร่าเป็นพยานที่น่าเชื่อถือ เขาให้หลักฐานของเขาด้วยความสงบนิ่ง, ชัดเจนและส่วนใหญ่ก็สอดคล้องกันแม้ว่าทั้งเขาและซัวเรซไม่สามารถจดจำรายละเอียดของบทสนทนาระหว่างพวกเขาได้ทั้งหมดก็ตาม"

เหตุผลเบื้องหลังการแบนยังรวมถึงการที่กองหน้า"หงส์แดง"ไม่มีความน่าเชื่อถือแถมสิ่งที่เขากล่าวอ้างก็ไม่สอดคล้องกับเทปบันทึกภาพและหลักฐานอื่นๆ นอกจากนั้นรายงานได้ปฏิเสธข้อต่อสู้ของซัวเรซที่อ้างว่าคำ"นิโกร"สามารถใช้ในทางเป็นมิตรได้"

เอกสารระบุต่อไปอีกว่า"หลักฐานของคุณซัวเรซไม่น่าเชื่อถือในส่วนที่เป็นนัยสำคัญและบางส่วนยังไม่สอดคล้องกับหลักฐานอื่นๆโดยเฉพาะเทปบันทึกภาพ"

"ยกตัวอย่างซัวเรซบอกว่าเขาเหน็บแนมเรื่องผิวของเอฟร่าเพื่อพยายามลดความตึงเครียดของสถานการณ์ และเขายังบอกว่าการที่เขาใช้คำว่า"นิโกร"เรียกเอฟร่านั้นเป็นไปอย่างฉันมิตร ซึ่งเราขอปฏิเสธหลักฐานที่ว่านั้น"

"การอธิบายพฤติกรรมของเขาในแนวทางนั้นไม่สามารถใช้เป็นน้ำหนักได้ในเหตุการณ์ที่ผู้เล่นโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน การที่ซัวเรซนำเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาจึงเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจและทำลายความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานของเขาในเรื่องอื่นๆด้วย"

"นอกจากนั้นยังมีความไม่สอดคล้องกันระหว่างคำให้การของเขาในแต่ละครั้งถึงสิ่งที่เกิดขึ้น"

ทั้งนี้ลิเวอร์พูลมีเวลาในการยื่นอุทธรณ์คำตัดสินจนถึงวันที่ 13 มกราคมนี้และโทษแบนจะไม่มีผลใช้บังคับจนกว่าจะผ่านพ้นวันดังกล่าว

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์