แค่นี้...ยังอ่อนหัดอยู่นะ ผีสู้ไม่ไหว พ่ายหงส์ 3-1

รู้ว่าเธอว์เจ็บ!เคาท์แฮทริคหงส์สอนบอลผี 3-1

หงส์แดงลิเวอร์พูลบรรยากาศพาไปอีกแล้วหลังเปิดรังแอนฟิลด์เล่นโคตรเทพดับจ่าฝูงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดง่อยรับประทาน 3-1 จากผู้รับเหมาเดิร์ก เคาท์ทำแฮทริคก่อนอาร์เซนอลรับอนิสงฆ์ตาม 3 แต้มเท่าเดิมแต่ลูกทีมท่านเซอร์ลงเตะมากกว่าหนึ่งเกมแล้ว

พรีเมียร์ ลีก

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2554


ลิเวอร์พูล 3 - 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู : 1-0 เดิร์ค เค้าท์ น.34, 2-0 เดิร์ค เค้าท์ น.39, 3-0 เดิร์ค เค้าท์ น.65,3-1 ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ น.90+1


เจ้าถิ่นจัดทัพแบบอัดกลาง 5 ตัวโดยใส่หลุยส์ ซัวเรซเป็นหน้าเป้าตัวเดียวขณะที่ฟูลแบ๊คใช้ฟาบิโอ ออเรลลิโอแทนที่ของแดนนี่ วิลสันและโยกเกล็น จอห์นสันกลับไปประจำการแบ๊กขวาแทนที่ของมาร์ติน เคลลี่ที่พักยาวราว 1 เดือนขณะที่แอนดี้ แคร์โรลล์มีชื่อเป็นตัวสำรองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาจากนิวคาสเซิ่ล

เซอร์ อเล็กซ์จัดเซ็นเตอร์ฮาล์ฟขัดตาทัพด้วยการส่งคริส สมอลลิ่งยืนคู่กับเวส บราวน์แทนที่เนมานย่า วีดิชที่ติดโทษแบนและริโอ เฟอร์ดินานด์ที่ยังไม่หายเจ็บขณะที่หัวหอกวางดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟคู่กับเวย์น รูนี่ย์ตามคาด

ครึ่งแรก

หงส์คึกคักทักทาย
เกมเปิดมา 3 นาทีแรกลิเวอร์พูลดูเคลื่อนที่กันอย่างคึกคักและหวิดจะได้โอกาสนำเร็วจากบอลทีจ่ายยัดเข้ามาของเมเรเลสแต่ซัวเรซตั้งตัวไม่ทันและถัดมาอีก 2 นาทีมักซี่ก็ลากบอลเข้ามาลองซัดบ้างแต่บอลก็ผ่านหน้าปากประตูออกไป

ผีพยายามใช้ความนิ่งสยบ
เกม 10 นาทีแรกต้องบอกว่าเจ้าถิ่นหวือหวามากกว่าพอตัวโดยพยายามขึ้นเกมจี้ทางเอฟร่าแต่จ่าฝูงก็พยายามจะใช้ความนิ่งเพื่อประคองเกมช้ามาเป็นเล่นเกมของตัวเองให้ได้

เบิร์บพิฆาตเสา
นาที 16 โอกาสเสียวครั้งแรกก็เกิดขึ้นจากจังหวะที่เบอร์บาตอฟได้วอลเล่ย์จังหวะเดียวหน้ากรอบเขตโทษบอลตกพื้นกระดอนมาชนเสาเหลี่ยมนอกออกไป

เค้าท์ช้าไปแค่ครึ่งก้าว
ถัดมานาทีเดียวลิเวอร์พูลก็เกือบจะได้บ้างจากบอลครอสของซัวเรซแล้วเมเรเลสพยายามจะโหม่งตั้งให้เค้าท์พุ่งเข้าชาร์จแต่เค้าท์มาช้าไปประมาณครึ่งวิทำให้บอลเลยไปเข้ามือน้าซาร์รับกิน

ออเรลลิโอเล่นไม่ไหวถูกเปลี่ยน
เกมผ่านมาถึงครึ่งทางของครึ่งแรกออเรลลิโอก็ต้องกะเผลกออกจากสนามไปและก็เป็นไอ้หนุ่มผมยาวคีร์เกียกอสลงไปเล่นแทนโดยพี่เคนต้องโยกเอาคาร์ร่าไปยืนแบ๊กซ้ายแทน

ฟรีคิกขิงไม่ได้ลุ้น
เกมครึ่งชั่วโมงแรกเต็มไปด้วยความระมัดระวังกันทั้งสองฝ่ายและนาที 33 เจอร์ราร์ดได้ลองฟรีคิกแต่เจอร์ราร์กลับยิงได้แบบน่าผิดหวังก่อนจะหันไปโวยผู้ตัดสินแก้เก้อว่าสโคลส์นั้นพุ่งบล็อคเร็วเกินไป

พี่เหยินตีนตะขอ!!!ล็อกหลบ 3 หงส์นำแล้ว
นาที 34 ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำจากความสามารถเฉพาะตัวของหลุยส์ ซัวเรซที่แตะลอดขาราฟาเอลก่อนที่จะมาแตะหลบคาร์ริคและบราวน์เข้าไปจิ้มลอดขาน้าซาร์บอลไหลจะเข้าประตูอยู่แล้วแต่เค้าท์ก็เข้ามาอัดเต็มข้อเพื่อความชัวร์ทำให้ประตูนี้เป็นของเดิร์ก เค้าท์ไป

เค้าท์เบิ้ล2-0!นานี่แอสซิสต์งามหยด
หลังได้ประตูนำแผงหลังขัดตาทัพของจ่าฝูงก็เริ่มออกอาการรวนและก็มาเสียลูกที่ 2 จากลูกโยนของซัวเรซที่ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ไม่รู้ว่านานี่เหม่อคิดถึงสูตรทำโรตีอยู่หรือเปล่าทำให้โหม่งผิดเหลี่ยมบอลย้อนกลับไปหน้าประตูทำให้เค้าท์ได้โขกกดลงพื้นผ่านตัวฟานเดอร์ซาร์เป็นประตูที่ 2 ของเค้าท์และทำให้ลิเวอร์พูลได้เฮสนั่นแอนฟิลด์กันอีกรอบ

คาร์ร่าเสียบโคตรโหด!อาบังหลั่งน้ำตา
หลังจากที่เสียไป 2 ประตูติด ๆ กัน จ่าฝูงก็ดูสูญเสียความมั่นใจไปเยอะต่อบอลขาด ๆ เกิน ๆ กันตลอดและก่อนหมดครึ่งแรก 1 นาทีก็เกิดจังหวะปัญหาเมื่อคาร์ราเกอร์พุ่งเข้าเสียบที่หัวเข่าของนานี่แบบน่าเกลียดจนเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายจนผู้ตัดสินต้องแจกใบเหลืองว่อนและนานี่ถึงกับร้องไห้โฮจากอาการบาดเจ็บซึ่งเป็นภาพที่แฟน ๆ อาจไม่คุ้นเท่าไรนัก

ราฟาเอลเอามั่งแต่ยังดีเทพลูคัสไหวตัวทัน
เกมเดือดจนฟิล ดาวน์ต้องทดเจ็บไปกว่า 4 นาทีและเกมหวิดเดือดอีกครั้งเมื่อราฟาเอลปรี่เข้าไปเสียบขาคู่ใส่ลูคัสร้อนถึงสเคอร์เทลพุ่งเข้ามาเอาเรื่องกับราฟาเอลจนเพื่อน ๆ ต้องเข้ามาห้ามทัพกันให้วุ่นและเรื่องก็จบลงด้วย 2 ใบเหลือง

เกมแดงเดือดจบครึ่งแรกไปแบบสมชื่อด้วยความร้อนระอุแต่สกอร์นั้นต้องบอกว่าเป็นเจ้าถิ่นที่ค่อนข้างสบายใจไม่น้อยกับสกอร์ที่นำจ่าฝูงอยู่ 2-0

ครึ่งหลัง

ป๋าจัดหน้า3-กิ๊กซี่ตะบันข้ามคาน
เกมครึ่งหลังเปิดมาป๋าเฟอร์กี้ปรับทัพวางหัวหอก 3 ตัวโดยฉีกเอารูนี่ย์ออกไปอยู่ทางซ้ายเบอร์บาตอฟไปอยู่ฝั่งขวาโดยให้เฮอร์นันเดซหุบเข้าไปเล่นตรงกลางและนาที 53 รูนี่ย์ก็เปิดเร็วเข้ากลางให้กิ๊กส์วิ่งเข้ามาวอลเล่ย์หน้ากรอบเขตโทษเต็มข้อแต่บอลก็ข้ามคานออกไป

เมเรเลสเซฟให้หงส์ยังคลีนชีทต่อ
แมนฯ ยูฯกดดันลิเวอร์พูลกันหนักขึ้นและนาที 59 ก็เกือบได้ประตูตีไข่แตกเมื่อรูนี่ย์เปิดจากซ้ายมาที่เสาสองเฮอร์นันเดซโขกตั้งเน้นๆ เรน่าพยายามจะบินปัดแต่สุดปลายมือทำให้เบอร์บาตอฟที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดีตั้งหลักโขกเน้น ๆ แต่บอลไปชนหน้าอกของเมเรเลสเด้งออกมา แต่แข้งจอมอาร์ทกลับขอเป็นลูกแฮนด์บอล

หงส์จี้จุดแผงหลังผี
เกมสนุกอย่างต่อเนื่องนาที 62 แมนยูเช็คไลน์พลาดปล่อยให้เค้าท์จ่ายให้เมเรเลสที่วิ่งไปรับบอลดวลกับฟานเดอร์ซาร์แต่มุมแคบเกินไปทำให้เมเรเลสยิงไปติดเซฟก่อนที่เอฟร่าจะมาเคลียร์ออกไปได้

แฮททริค!!!เค้าท์ยืนถูกที่ตาล๊อดดด
นาที 65 เดอะค็อปได้ส่งเสียงเฮกึกก้องเป็นรอบที่ 3 จากฟรีคิกของซัวเรซที่ปั่นด้วยขวาข้ามกำแพงและฟานเดอร์ซาร์รับกระฉอกมาเข้าทางเค้าท์ที่พุ่งมาซ้ำราวจรวดบอลตุงตาข่ายเป็นแฮททริคแรกของเค้าท์ตั้งแต่ปี 2005 เลยทีเดียว

แคร์โรลล์ยิ้มแฉ่งเปิดซิง
ยิ่งเล่นลิเวอร์พูลยิ่งย่ามใจบุกใส่แบบวันเวย์โดยฝั่งผู้มาเยือนแทบจะยอมแพ้แบบกลาย ๆ และนาที 73 หัวหอกตัวใหม่ค่าตัว 35 ล้านปอนด์แอนดี้ แคร์โรลล์ได้สัมผัสกับการเป็นผู้เล่นของลิเวอร์พูลเป็นครั้งแรกท่ามกล่างเสียงต้อนรับกึกก้อง

หงส์ย่ามใจกะเอาเม็ด 4
นาที 82 ลิเวอร์พูลหวิดได้ลูกที่ 4 แต่มักซี่ยิงวืดไปแบบน่าเสียดาย ถัดมา 2 นาทีเจอร์ราร์ดได้จังหวะเก็บตกจากความผิดพลาดของแมนฯ ยูฯส่องไกลอีกครั้งแต่บอลก็เฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว

ถั่วน้อยตีไข่แตก
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บแมนณ ยูไนเต็ดได้ประตูปลอบใจจากการเปิดของเบอร์บาตอฟมาให้เฮอร์นันเดซโขกลงพื้นเข้าไปง่าย ๆให้แมนยูไล่มาเป็น 3-1

จบเกมลิเวอร์พูลถอนแค้นเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดไปได้ 3-1 ทำให้จ่าฝูงยังมีแต้มนำอาร์เซน่อลอยู่ 3 แต้มเท่าเดิมแต่แข่งมากกว่าไป 1 นัดขณะที่เจ้าถิ่นแซงกลับขึ้นไปรั้งอันดับ 6 ไว้ได้อีกครั้ง

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
เปเป้ เรน่า 6, เกล็น จอห์นสัน 6.5, เจมี่ คาร์ราเกอร์ 5 , มาร์ติน สเคอร์เทล 7 , ฟาบิโอ ออเรลลิโอ 6(คีร์เกียกอส น.23 7), สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 6.5, ลูคัส เลว่า 7.5, ราอูล เมเรเลส 7.5(แคร์โรลล์ น.74 6.5), มักซี่ โรดริเกวซ 7, เดิร์ค เค้าท์ 9**, หลุยส์ ซัวเรซ 8.5(โคล น.89 -)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 5 , ราฟาเอล ดา ซิลวา 4.5 (โอเช น.76 6), คริส สมอลลิ่ง 5, เวส บราวน์ 5, ปาทริซ เอฟร่า 5, นานี่ 4(เฮอร์นันเดซ น.45 6.5), ไมเคิ่ล คาร์ริค 4.5, พอล สโคลส์ 5 (เฟล็ทเชอร์ น.84 -), ไรอัน กิ๊กส์ 6, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 6.5, เวย์น รูนี่ย์ 5

























 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์