จบเกมลิเวอร์พูลชนะแมนฯยูฯแบบหมดจด 3-1 พร้อมกับแฮตทริกของ เดิร์ค เค้าท์!!!

http://www.hotleague.com/picture/pic_new_tmp/19833_Untitled-1.jpg


ลิเวอร์พูล vs แมนฯยูไนเต็ด


สนาม : แอนฟิลด์
ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์
เวลา : 20.30 น.

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : เรน่า, จอห์นสัน, ออเรลิโอ, คาร์ราเกอร์, สเคอร์เทล, เมยเรเลส, เจอร์ราร์ด, มักซี่, ลูคัส, ซัวเรซ, เค้าท์
แมนฯยูไนเต็ด : ฟาน เดอร์ ซาร์, เอวร่า, บราวน์, สมอลลิ่ง, ราฟาเอล, กิ๊กส์, คาร์ริค, นานี่, สโคลส์, เบอร์บาตอฟ, รูนี่ย์

ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งจากเกมที่แพ้ เวสต์แฮม เมื่อวันอาทิตย์ก่อน ด้วยการส่ง ฟาบิโอ ออเรลิโอ ลงมาเล่นแทน มาร์ติน เคลลี่ ที่มีอาการบาดเจ็บ แล้วโยก เกล็น จอห์นสัน มาเล่นแบ็คขวา ส่วน แอนดี้ คาร์โรลล์ มีชื่อบนม้านั่งสำรอง ขณะที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งๆ ที่มีอาการบาดเจ็บขาหนีบ

ส่วน แมนฯยูไนเต็ด เกมนี้จะเป็นเกมที่ 607 ของ ไรอัน กิ๊กส์ ซึ่งทำลายสถิติสูงสุดของสโมสร ที่ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ทำไว้ที่ 606 นัด อย่างไรก็ดีเกมนี้จะยังไม่มี ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่ยังเจ็บ และ เนมานย่า วิดิช ที่ติดโทษแบน

http://www.hotleague.com/picture/pic_new_tmp/19835_kennydalglish.jpg


ครึ่งแรก


แมนฯยูฯ ได้เขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน แต่เป็นฝั่งเจ้าถิ่นที่เปิดตัวได้ดีกว่า แค่นาทีที่ 3 ซัวเรซ ต่อบอลกับ เมยเรเลส หน้าเขตโทษ กองกลางโปรตุเกสกึ่งยิงกึ่งผ่านให้ซัวเรซที่หลุดขึ้นมาแต่ดันทำบอลลั่นจับบอลไม่อยู่บอลพุ่งออกหลังโกล

นาทีถัดมามักซี่หลุดขึ้นมาทางขวามีเค้าท์กับเมยเรเลศกำลังวิ่งสอดขึ้นมาแต่ปีกอาร์เจนไตน์กลับตัดสินใจยิงเองแบบแป๊กๆหลุดกรอบแบบหมดลุ้น นาทีที่ 7 ซัวเรซได้จังหวะยิงอีกครั้งจากลูกจ่ายของลูคัสแต่ก็ข้ามคานออกไป

อีก 3 นาทีต่อมาฝั่งยูไนเต็ดได้ทักทายหนแรกจ่ายลูกจ่ายของคาร์ริควางให้กับกิ๊กส์ แต่ปีกตัวเก๋าดันยิงแป๊ก

15 นาทีแรกเป็นหงส์แดงที่บุกกดดันปีศาจแดงได้มากกว่า แต่อาคันตุกะดันได้โอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดจากการเปิดบอลยาวของเอวร่า รูนี่ย์โหม่งเช็ดให้เบอร์บาตอฟสับไกนอกกรอบบอลติดไซด์ก้อยจนสเคอร์เทลต้องหลบ บอลกำลังจะฮุคเข้ากรอบอยู่แล้วแต่ชนเสาไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 17 ลิเวอร์พูลก็หวิดได้ประตูจากลูกเค้าน์เตอร์แอตแท็คบ้าง เมื่อซัวเรซเปิดจากกราบขวาให้กับเมยเรเลสจะโหม่งย้อนให้เค้าท์แต่น่าเสียดายที่สตาร์ทีมชาติฮอลแลนด์เข้าไม่ถึงบอล

เล่นเพียงแค่ 22 นาที ฟาบิโอ ออเรลิโอ เกิดมีปัญหาอาการบาดเจ็บจนต้องส่ง คีร์เกียคอส ลงมาเล่นแทน และปรับ คาร์ราเกอร์ ลงมายืนแบ็คขวา ให้ จอห์นสัน ยืนซ้ายแทน แล้ว แมนฯยูฯ ได้ลูกเตะมุมทางซ้าย กิ๊กส์เปิดมาให้บราวน์  โหม่งเบาจนเมยเรเลสที่ยืนข้างเสาอยู่หวดทิ้งออกไปได้

อีก 5 นาทีถัดมาเบอร์บาตอฟเริ่มได้บอลมากขึ้นและมีโอกาสหวดเต็มข้อถึง 2 หน แต่ไลน์แมนตีธงล้ำหน้าทั้งหมด

เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมงลิเวอร์พูลได้ฟรีคิก ซัวเรซเขี่ยให้เจิดซัดเรียดบอลโดนนักเตะแมนฯยูฯออกหลัง

Goal! อีก 4 นาทีถัดมาซัวเรซโชว์เหนือล็อคหลบนักเตะผี 3 คนก่อนจะจิ้มบอลลอดขาฟาน เดอร์ ซาร์ ออกมาถึงเค้าท์ยิ่งจ่อๆ เป็นประตูขึ้นนำ 1-0!


http://www.hotleague.com/picture/pic_new_tmp/19835_001.jpg

Goal! ลิเวอร์พูลยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ นาทีที่ 38 ซัวเรซเปิดบอลเลยเสาสองนานี่โหม่งผิดเหลี่ยมโด่งมาถึงเค้าท์เข้าโหม่งจ่อๆ ระยะเผาขน หงส์แดงติดปีก 2-0!!


http://www.hotleague.com/picture/pic_new_tmp/19835_51544615.jpg

นาทีที่ 45 คาร์ราเกอร์ไปเปิดปุ่มใส่หน้าแข้งของนานี่ที่พยายามจะกระดกบอลหลบจนผู้เล่นทั้งสองฝ่ายหวิดจะวางมวยกันพักใหญ่ ผู้ตัดสิน ฟิล ดาวด์ ตัดสินใจควักใบเหลืองให้กองหลังตัวเก๋าเป็นการเตือน


http://www.hotleague.com/picture/pic_new_tmp/19835_002.jpg

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็มีมวยกันอีกยก เมื่อราฟาเอลไปเข้าบอลหวาดเสียวใส่มักซี่และลูคัสจนคนหลังถึงกับรวง สเคอร์เทลถึงกับเดือดแทนเพื่อนร่วมทีมตัวเองวิ่งเข้ามาเอาเรื่องกับราฟาเอลมีปากเสียงกันพักใหญ่ สุดท้ายกรรมการเรียกทั้ง ราฟาเอล และ สเคอร์เทล มารับไปคนละเหลือง


http://www.hotleague.com/picture/pic_new_tmp/19835_0114590951.jpg

ใกล้จบครึ่งแรก ท่านเซอร์ต้องส่ง ชิชาริโต้ ลงมาแทน นานี่ เนื่องจากเล่นไม่ไหว


จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำแมนฯยูไนเต็ด 2-0

http://www.hotleague.com/picture/pic_new_tmp/19835_match.JPG


ครึ่งหลัง


เริ่มครึ่งเวลาหลังลิเวอร์พูลยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 47 ซัวเรซกระดกบอลเข้าเขตโทษมาให้กับเมยเรเลสจะกระดกเข้ากลางให้เพื่อนอีกที ยังดีที่ฟาน เดอร์ ซาร์ตะปบไว้ได้

นาทีที่ 50 รูนี่ย์ได้บอลตะลุยวิ่งเข้าหาเขตโทษแล้วจ่ายให้ชิชาริโต้แต่หัวหอกเม็กซิกันเกี่ยวบอลไม่ติดบอลไหลออกหลัง

อีก 5 นาทีถัดมาสโคลส์วางยาวให้รูนี่ย์เปิดมาให้กิ๊กส์ซัดขึ้นมาวอลเล่ย์ด้วยซ้ายเหินข้ามคานไปนิดเดียว

นาทีที่ 57 แมนฯยูฯใกล้เคียงจะได้ประตูอย่างที่สุด เมื่อรูนี่ย์เปิดบอลไปเสาสองชิชาริโต้โหม่งย้อนให้เบอร์บาตอฟโหม่งโดนตัวเมยเรเลสที่ยืนอยู่บนเส้น กองหน้าบัลแกเรียพยายามจะฟ้องว่าเป็นแฮนด์บอลแต่ภาพช้ามันชี้อยู่แล้วว่าไม่ใช่

อีก 2 นาทีถัดมาผีแดงได้ฟรีคิกบริเวณหัวกระโหลก กิ๊กส์ซัดเหินข้ามคานออกไป

เกมดำเนินจนครบหนึ่งชั่วโมง ลิเวอร์พูลหวิดจะได้ลูกที่ 3 เมื่อเค้าท์แทงทะลุช่องให้เมยเรเลสตวัดยิงไปติดมือฟาน เดอร์ ซาร์กระดอนออกมา เอวร่าต้องหวดทิ้ง

Goal! แล้วแมนฯยูฯก็ไม่รอดพ้นเงื่อมมือลูกที่ 3 ในนาทีที่ 65 เมื่อหงส์แดงได้ฟรีคิกทางกราบขวา ซัวเรซปั่นอ้อมกำแพงบอลฮอุลงเสาแรก น้าซาร์ตะครุบไม่อยู่บอลทะลักมาถึงเค้าท์ที่ปรี่เข้ามาซ้ำเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้

นาทีที่ 73 คิง เคนนี่จัดหนักส่ง แอนดี้ คาร์โรลล์ ลงมาแทน ราอูล เมยเรเลส พอมาสัมผัสแรกก็ได้โหม่งตรงกรอบก่อนเลย

นาทีที่ 75 ผีแดงเปลี่ยนตัวคนที่สองส่ง จอห์น โอเช ลงมาแทน ราฟาเอล

หลังจากลิเวอร์พูลทิ้งห่าง 3-0 รูปเกมก็ดูเนือยๆ ลงไปทั้งสองฝั่ง อีก 2 นาทีต่อมา ไรอัน กิ๊กส์ ปั่นฟรีคิกทางกราบขวาไม่ตรงกรอบ แต่หลังจากนั้นไม่ถึงนาทีมักซี่วางบอลให้คาร์โรลล์โหม่งคืนหลังให้เค้าท์สอดขึ้นมาวอลเล่ย์หวดเต็มแรงข้ามคาน

นาทีที่ 82 สโคลส์โดนใบเหลืองจากการไปขัดขาซัวเรซ อีก 2 นาทีถัดมา เวส บราวน์ เข้าหนักใส่ ซัวเรซ ผู้ตัดสินให้เล่นต่อ เจอร์ราร์ด ตัดบอลมาได้แล้วส่องไกลเฉี่ยวเสาแรกไปนิดเดียว

นาทีที่ 85 หลุยส์ ซัวเรซ ทำให้เดอะ ค็อปต้องซี๊ดซ๊าดอีกครั้ง เมื่อเตะบอลลอดขาเอวร่าแล้วแตะอ้อมตัวบราวน์อีกที แต่จังหวะสุดท้ายทำเสียของยิงออกแบบไม่ได้ลุ้น ซึ่งวันนี้สตาร์ทีมชาติอุรุกวัยเล่นได้เด่นจริงๆ

3 นาทีต่อจากนั้นดัลกลิชจัดการเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายเอา โจ โคล ลงมาแทน ซัวเรซ ซึ่งตำนานหมายเลข 7 คนใหม่ได้รับการสแตนดิ้ง โอเวชั่นจากแฟนๆ ด้วย นาทีถัดมาเจอร์ราร์ดเกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ดเมื่อได้จังหวะแปเน้นๆ หลุดเสาแรกแค่คืบ

Goal! ทีมเยือนมาตีไข่แตกได้จากจังหวะที่ไรอัน กิ๊กส์ม้วนบอลเปิดมาให้ชิชาริโต้ขึ้นโขกกดลงพื้นบอลเด้งตุงตาข่ายไปในนาทีที่ 90+1
 


จบเกมลิเวอร์พูลชนะแมนฯยูฯแบบหมดจด 3-1 พร้อมกับแฮตทริกของ เดิร์ค เค้าท์!!!

ข่าวจาก http://www.hotleague.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์