ไฮไลท์ หงส์เริงร่ายิงโบลตันไส้แตก 4 - 0 พร้อมขยับขึ้นที่ 3 แล้วจ้า

vs.
Liverpool 4 - 0 Bolton W.
17' [1 - 0] S. Hyypia
http://www.super-goal.info/vdo_clip.php?catid=20&id=3779

45' [2 - 0] F. Torres
http://www.super-goal.info/vdo_clip.php?catid=20&id=3780

56' [3 - 0] S. Gerrard (pen.)
http://www.super-goal.info/vdo_clip.php?catid=20&id=3781

86' [4 - 0] R. Babel
http://www.super-goal.info/vdo_clip.php?catid=20&id=3782





Credit Remad2, Geo5, RAWI


ลิเวอร์พูล 4-0 โบลตัน

ประตู :
1-0 ฮูเปีย น.17,2-0 ตอร์เรส น.45,3-0 เจอร์ราร์ด น.56(จุดโทษ),บาเบิ้ล น.86

ราฟาเอล เบนิเตซไม่ยอมโรเตชั่นเฟอร์นานโด ตอร์เรสดาวยิงเบอร์หนึ่งคนปัจจุบันแต่เปิดโอกาสให้เคราช์และคิวล์ซึ่งเล่นดีมาจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีกได้พิสูจน์ตัวเองในเกมนี้

ด้านแกรี่ เม็กสันมีปัญหาในการจัดทัพเพราะนิคกี้ ฮันท์กับเควิน โนแลนกัปตันทีมดันติดโทษแบนส่วนแดนนี่ กูธีร์แข้งจอมบู๊ก็หมดสิทธิ์ลงสนามเพราะยืมมาจากลิเวอร์พูลนั่นเอง

แค่นาทีที่ 5 หงส์แดงน่าจะขึ้นนำสุดๆจากจังหวะที่คิวล์ไหลบอลให้เบนายูนแตะหนียัสเคไลเน่นนแต่บอลล้นถึงเส้นหลังแต่ก็ยังไวตบกลับมาให้เคราช์แปเน้นๆแค่ 6 หลาแต่ติดขาหลังมิชาลิคที่ล้มตัวเคลียร์บนเส้นอย่างไม่น่าเชื่อ

เจ้าถิ่นหาทางเจาะเน้นๆลำบากเลยเพราะถูกแนวรับโบลตันคุมโซนต่ำพอแทงทะลุช่องก็เกือบๆจะถึงเส้นหลังอยู่แล้วและอีก 2 นาทีต่อมาเบนายูนก็ไหลให้ตอร์เรสวิ่งตัดเข้าเขตโทษแต่ถูกรุมบีบจนบอลออกไป

แต่นาทีที่ 10 ลิเวอร์พูลเกือบโดนบ้างหลังดิยุฟเตะมุมมาเสาแรกเป็นเดวี่ส์ที่แม้จะถูกคาร์ราเกอร์ตามตั้นอยู่แต่ก็ยังอุตสาห์ย่อมตัวสะบัดโขกจนเรน่าผวาปัดทันควันก่อนผู้เล่นเจ้าถิ่นจะเคลียร์ทิ้งออกมา

อีกนาทีเดียวดิยุฟซึ่งถูกเดอะค็อปรุมโห่ตั้งแต่ได้บอลก็มารับใบเหลืองหลังเปิดปุ่มยันใส่อาร์เบลัวอย่างน่าหวาดเสียว ตอนนี้เสียงโห่หัวเห็ดยิ่งหนักเข้าไปอีก

นาที 13 เจอร์ราร์ดสไลด์ตัดบอลหน้ากรอบโทษโบลตันก่อนมาเข้าทางเบนายูนที่จ่ายสั้นให้เคราช์แตะหลบตัวประกบหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยอีขวานอกกรอบแต่บอลไม่แรงไปเข้ามือยัสเคไลเนนแบบมีเสียวนิดนึง

หลังจากนั้นโบลตันเริ่มตั้งเกมติดและได้ต่อบอลทำเกมขึ้นมาได้เป็นพักๆแต่ก็ยังไร้ความแน่นอนทำให้แนวรับเจ้าถิ่นยังไม่ต้องออกแรงอะไรมากนัก

แต่แล้วนาทีที่ 17 ลูกฟรีคิกไกลเยื้องๆออกไปทางซ้ายหลังเคราช์ถูกทำฟาว์ลเป็นเจอร์ราร์ดที่ปั่นไซด์บอลเลยคิวล์มาถึงฮูเปียที่ขวิดตัดหน้าตัวประกบบอลเสียบมุมชนิดยัสเคไลเน่นไม่ทันแม้แต่จะพุ่งรับ จากภาพช้าเหมือนจะล้ำหน้าด้วยแต่ถึงอย่างไรเสียลิเวอร์พูลก็ออกนำเร็ว 1-0

ทีมเยือนชักป่วนและต้องใช้การทำฟาว์ลตัดเกมเป็นว่าเล่นและตอร์เรสเป็นเหยื่ออีกคนหลังถูกการ์ดเนอร์ดักเข่าจังหวะที่กำลังจะหลุดเข้าเขตโทษ

ก่อนถึงครึ่งชั่วโมงไม่กี่วินาทีฮูเปียวางบอลยาวจากแดนหลังไปยังปีกซ้ายเป็นริเซ่โขกชงกลับเข้าในให้คิวล์ตั้งป้อมยิงไกลบอลแหวกคานออกไป

นาที 34 ตอร์เรสโชว์สไตล์กล้าเล่นกล้าลุยให้เห็นหลังการ์ดเนอร์จ่ายบอลเข้ากลางพลาดเป็นตอร์เรสที่ฉกแล้วม้วนกระชากหนีก่อนแตะหลบมิชาลิคไปทางขวาแม้มุมจะอับแต่ก็ยังหักข้อยิงบอลถากเสาสองออกไปไม่ถึงคืบ เดอะค็อปปรบมือกันเกรียว

อีก 3 นาทีต่อมาโบลตันได้สวนกลับและเกือบตีเสมอหลังคัมโป้แทงออกปีกให้เดวี่ส์หนีกับดักล้ำหน้าก่อนมาตบบอลจากเส้นหลังบอลเข้ากลางเลยเรน่าที่พยายามพุ่งปัดแต่ไม่ถึงแถมอาร์เบลัววิ่งมาสกัดที่เสาสองเกือบเข้าประตูตัวเอง ยังดีบอลปลิ้นออกหลังเสียเตะมุมไป

แต่ก่อนหมดเวลา 7 นาทีโบลตันน่าจะตีเสมอได้สุดๆและเรียกว่าช็อกแฟนบอลทั้งโลกหลังลูกสาดจากกลางสนามเป็นคาร์ราเกอร์ตีคู่มากับอเนลก้าแต่เรน่าออกมาหวดแล้วบวกกับพี่เอ๋อจนหัวทิ่มทำให้นิโก้ได้หลุดโล่งๆไร้ผู้คนแถมยังมีเวลาหันมามองด้านหลังด้วยแต่ดันแปหลุดข้างออกไปเยอะ ราคาจาก 15 ล้านตอนนี้เหลือแค่ 15 บาทยังแพงไปด้วยซ้ำ เจ้าตัวแยกเขี้ยวเอามือลูบกบาลแก้เขิน

หงส์แดงมาได้ประตูสำคัญในนาทีสุดท้ายและต้องบอกว่าเป็นการจ่ายแค่สองครั้งจากเจอร์ราร์ดที่เปิดบอลจากครึ่งวงกลมบอลเลียดทะลุให้ตอร์เรสวิ่งควบไปกับตัวมิชาลิค ทุกอย่างเหมือนวันที่ยิงเชลซีช่วงต้นซีซั่นแล้วเหลือบมองเห็นยัสเคไลเน่นวิ่งออกมาปิดมุมเลยชิพสวนตัวบอลเข้ากลางประตูง่ายๆ หมดครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำ 2-0 แบบมีโชคช่วยหนุนด้วย

ครึ่งหลังเล่นมาแค่นาทีเดียวเคราช์น่าจะบวกให้ทีมขึ้นนำ 3-0 หลังคิวล์เปิดบอลจากปีกซ้ายให้โหม่งแค่ 8 หลาแต่บอลหลุดเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 50 ลิเวอร์พูลมาอีกชุดคราวนี้เป็นเครช์แตะคืนหลังให้เจอร์ราร์ดซึ่งติดเครื่องกระชากบอลมุ่งหน้าเข้าเขตโทษหลบสองกองหลังแล้วยิงล่อเป้าใส่ยัสเคไลเนนที่กวาดขาเซฟบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

อีกนาทีเดียวคาร์ราเกอร์เจ็บเล่นต่อไม่ไหวเลยเป็นแจ็ค ฮอบบ์กองหลังดาวรุ่งได้ลงเล่นแทน

แต่นาที 54 ลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษง่ายๆหลังเคราช์ถูกไมเต้ผลักจากด้านหลังจังหวะที่กำลังวิ่งเข้าหาลูกโด่งในกรอบเขตโทษ เจอร์ราร์ดรับสังหารส่งยัสเคไลเน่นพุ่งไปอีกทาง นำห่าง 3-0 แล้วพร้อมสถิติหัวขิงยิงหนึ่งจ่ายสอง

ตอร์เรสยิ่งเล่นยิ่งสนุกเพราะมีพื้นที่เล่นเยอะมากนาที 63 กระชากหลบคัมโป้จนหัวทิ่มแล้วกระชากเข้าเขตโทษแถมไปหลอกมิชาลิคจนหลังหักแต่จังหวะปั่นไซด์หมายให้โค้งเสียบสามเหลี่ยมดันข้ามคานออกไปสุดเสียดาย

ตอนนี้หงส์แดงมีโอกาสยิงเยอะจนเกี่ยงกันนาที 66 ตอร์เรสไปกั๊กกับคิวล์ในเขตโทษแต่ปีกออสซี่ยังได้เจาะยางยิงแต่ไปตรงตัวยัสเคไลเน่นและเป็นแอคชั่นสุดท้ายเพราะราฟาส่งบาเบิ้ลลงมาแทนปีกจอมเจ็บทันที

โบลตันเริ่มทำฟาว์ลหน้าเขตโทษบ่อยเพราะเจอตัวเร็วเลี้ยงจี้ป่วนตลอดล่าสุดบาเบิ้ลโดนเสียบหัวทิ่มแต่เจอร์ราร์ดทำท่าจะวิ่งยิงจากลูกเขี่ยของริเซ่เหมือนนัดที่พบนิวคาสเซิ่ลแต่กัปตันพลังไดนาโมเขี่ยต่อให้ลูตัสวิ่งมายิงแต่ติดบล็อกซะงั้น

ลิเวอร์พูลเล่นอย่างสบายอารมณ์เพราะนำเยอะทำให้จังหวะสวนได้เสียวมีเม็ดสี่ตลอดแต่จะว่าไปแล้วตอร์เรสไม่เน้นเพราะเล่นหลายจังหวะเลยกลายเป็นขำๆไป

ก่อนหมดเวลา 5 นาทีหลังลิเวอร์พูลเล่นเนือยๆก็มาได้เม็ดสี่จากจังหวะที่เจอร์ราร์ดลงไปช่วยลูคัสแล้วฉกบอลก่อนควบขึ้นมาเองแล้วป้ายต่อให้เคาท์ซึ่งวิ่งทำทางตะบันนอกเขตแม้ว่าบอลไม่แรงแต่พุ่งเข้ามุมทำให้ยัสเคไลเน่นพุ่งสุดแขนปัดแต่โชคร้ายไปเข้าทางบาเบิ้ลที่วิ่งมาแปจ่อๆด้วยอีซ้ายไม่มีเหลือ ลิเวอร์พูลนำกระจาย 4-0

ยิ่งเล่นยิ่งมันส์ก่อนหมดเวลา 2 นาทีหงส์แดงน่าจะได้เม็ดห้าแต่บาเบิ้ลซึ่งได้บอลตั้งจากเส้นหลังของเบนายูนซึ่งดึงยัสเคไลเน่นออกมาแล้วแต่ดันแปไปชนบล็อกองหลังโบลตันทั้งๆที่มุมอื่นมีตั้งเยอะแยะ

เวลาที่เหลือลิเวอร์พูลบอกปิดเกมดีกว่าเลยเล่นประครองท่ามกลางเสียงเพลงยูวิวเนฟเวอร์ วอล์ก อโนลนเอาชนะไปสบายๆ 4-0 พร้อมทำสถิติยังไม่แพ้ใครขึ้นมายืนอันดับสามเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและมีประตูได้เสียเท่าอาร์เซนอลที่ 20 ลูกและ 5 นัดหลังสุดแข้งราฟายิงไปแล้วถึง 21 เม็ดเข้าให้แล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า 6,อัลบาโร่ อาร์เบลัว 6,ซามี่ ฮูเปีย 7,เจมี่ คาร์ราเกอร์ 5(ฮอบบ์ น.51,6),ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่ 7,ยอสซี่ เบนายูน 7,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 9*,ลูคัส ไลว่า 7,แฮร์รี่ คิวล์ 6(บาเบิ้ล น.67,7),เฟอร์นานโด ตอร์เรส 8(เคาท์ น.77,6),ปีเตอร์ เคราช์ 6

สำรองไม่ได้ลงสนาม : ชาร์ลส อีตองด์เช่,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่

โบลตัน : ยุสซี่ ยัสเคไลเนน 6,เจลอยด์ ซามูเอล 6,อับดุลาเย่ ไมเต้ 5,ลูโบเมียร์ มิชาลิค 5,ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ 6,กาวิน แม็คคาน 5,อีบัน คัมโป้ 6,แกรี่ สปีด 6,เควิน เดวี่ส์ 6,นิโกลาส์ อเนลก้า 5,เอลฮัดจิ ดิยุฟ 5(จิอันนาโคปูลอส น.66,6)

สำรองไม่ได้ลงสนาม : อาลี อัล ฮาบซี่,คริสเตียน วิลเฮล์มส์สัน,อันดรานิค เทย์มูเรียน,มิเกล อลอนโซ่


 


ที่มา www.lentee.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์