สุขกันเถอะเรา ^_^

หลังจบเกมส์เชื่อว่า อันเช จะรู้จัก ดัลกลิชมากขึ้นแน่ๆ

เจ็บมาเยอะ เหนื่อยมาเยอะ ถึงเวลามีความสุขกันบ้างแล้ว เดอะค็อปเอ๋ย.
นานเท่าไหร่แล้วหนอ? ที่เราต้องจมอยู่ด้วยความรู้สึกที่เหมือนหายใจไม่ออก หายใจไม่เต็มปอด ความรู้สึกของผู้ที่ถูกล่า หวาดกลัว หวาดระแวงไปรอบตัว ทุกย่างก้าวด้วยความไม่มั่นใจ แม้ในระยะช่วงสั้นๆที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในทีม เปลี่ยนถ่ายไม่ว่าผู้บริหาร ผู้จัดการทีม นักเตะ เราก็รู้สึกฮึดขึ้นมาชั่วครู่หนึ่ง แล้วก็ลงเอยแบบเดิมๆ ซ้ำซาก ที่ของเรา ที่ผ่านมา ที่4ก็บุญหัวแล้ว (ขออภัยหากแรงไป) แม้ครั้งหนึ่ง เราไปถึงที่2 แบบมีลุ้นแชมป์ แต่เราก็ไม่ถึงฝันอยู่ดี และปีต่อมา เราก็คิดว่าปีนี้แหระ เรามีลุ้นที่สุด จากฟอร์มที่ร้อนแรง แต่สุดท้าย จบที่7 แบบน่าอดสูที่สุด
สำหรับปีนี้ก็เช่นกัน การได้ผู้จัดการทีมคนใหม่ รอย ฮัดสัน ผู้มีดรีกรี สร้างทีมฟูแล่ม จนเป็นรองแชมป์บอลยุโรปถ้วยเล็ก จากการทีมฟูแล่มเป็นทีมเล็กๆ นั่นทำให้การมาของเค้า จึงเป็นความหวังน้ำบ่อหน้าของลิเวอร์พูลไปโดยปริยาย จากการตัดสินใจของอดีตเจ้าของทีม คู่หูนรกสั่งมาเกิด ช่วงนั้นแฟนลิเวอร์พูลที่เอือมระอา เบนิเตช ก็ออกมาสนับสนุน ปู่รอยให้สามารถนำความยิ่งใหญ่กลับมาแอนฟิลอีกครั้ง แต่บทสรุปของปู่รอย น่าใจหาย และเรียกว่าเสียราคากันที่เดียว
อย่างที่ทราบกันดี เราได้ผู้บริหารคนใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ ถึงจะอเมริกันเหมือนคู่หูนรกสั่งมาเกิด แต่ก็ดูสุขุม และน่าเลื่อมใสกว่าเยอะ แต่กระนั้น เจ้าของทีมคนใหม่ก็ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากเอะค็อปทั่วโลก ผู้กระหายความสำเร็จของทีมรัก John Henry ไม่ใช่ประเภท เสี่ยสั่งลุย จึงดูไม่ทันใจวัยกระหายของเดอะค็อปทั้งหลาย ตั้งข้อสังเกตว่า แกจะเข้าอีกหลอบเดิม เป็นปลิงมะกันตัวใหม่ แต่ระยะทางจะพิสูจน์ม้า กาลเวลาจะพิสูจน์คน มาถึงวันนี้ เราเห็นแล้วถึงความเปลี่ยนแปลงให้ทีมรักของเรา
ซีอีโอใหม่  ผู้จัดการคนใหม่ แมวมองคนใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ แม้ตำแหน่งใหม่ แต่ฝีไม้ลายมือ เข้าขั้นเทพทุกคนและกำลังจะประสานกันเป็นทีมเบื้องหลังที่ทรงประสิทธิภาพ(มั่นใจส่วนตัว ว่าจะเป็นเช่นนั้น)

ภาพสะท้อนอย่างเป็นรูปธรรม
1. เรามีการผ่องถ่ายนักเตะ แม้เราต้องสูญเสียตอเรส ที่เป็นทีรักของเดอะค็อปทั่วโลก ไป ซึ่งหากไม่ได้ความเก๋าของเหล่าทีมงานที่พึ่งสร้างขึ้นมา เราอาจไม่ได้ถึง 50ล้านปอนด์ก็ได้ครับ อย่าลืมว่า เชลซีเสนอมาครั้งแรก ไม่ใช่ราคานี้ น้อยกว่านี้เยอะ หากไม่เก๋าพอ เสร็จโรงเรียนสแตมป์ฟอร์บริจ ในราคาน้อยกว่านี้แน่ครับ
2 เราได้นักเตะที่ มีความสามารถ และมีอนาคต (ผมมั่นใจอย่างนั้น) มาแบบเส้นยาแดงเหมือนกัน ซึ่งบ่งบอกถึงความจัดเจนและมากประสบการณ์ของทีมงาน เราอาจเจอการซื้อตัวแบบ โง่ๆ ราคาโอเวอร์มากกว่านี้ ถ้าไม่ได้ความเก๋าของทีมงานในเรื่องนี้
3 เราได้สปิริตในลิเวอร์พูล กลับมาจริงๆ ที่พูดแบบนี้ พอแสดงความคิด แบบรวมๆไม่ลงลึกว่า ไม่เพียงแต่ในสนามเท่านั้น ที่เราสามารถวัดอะไรออกมาได้ครบถ้วน ไม่ได้แสดงออกมาทางนักเตะและชัยชนะเท่านั้น หากแต่เวลานี้ ลิเวอร์พูลแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในหลายๆส่วน ทั้งผู้บริหาร ทีมงานบริหาร ผู้จัการทีม เทรนเนอร์ และทีมนักเตะ ความสัมพันธ์ค่อยๆ ถูกสร้างอย่างเป็นระบบ และเข้าใจในแนวทางเดียวกัน การเข้าถึงปรัชญา การเป็นสโมสรลิเวอร์พูล มีเป้าหมายเดียวกัน ที่สำคัญ ที่คนรู้จักหน้าที่ ประสานกัน ไม่ขัดแข้งขัดขากัน ไม่เกี่ยงกัน เป้าหมายของทุกคนคือ เพื่อสโมรสร 

นั่นคือสิ่งที่พวกเราเริ่มรู้สึกได้ และคือกำแพงปราการเหล็กซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากต่อการสร้างองค์กรที่หลายๆคนอาจมองข้าม 

และมันสะท้อนออกมาให้เห็น จากการทำงานของ เดอะคิง เคนนี่ ดัลกลิช.
เค้าเริ่มต้นด้วยการออกไปแพ้ และเสมอ และชนะ สรุปว่า ครบเลย ถึงเวลานี้ แทบไม่ต้องพูดอะไรมากมายกับสิ่งที่ทุกๆคนเห็นแล้วว่าเกิดอะไรกับทีมเราบ้าง ชัยชนะที่ต่อเนื่อง 4นัดรวด แบบไม่เสียประตู ดูจะไม่สำคัญมากไปกว่า การเห็นทีมที่มีประสิทธิภาพ นักเตะเล่นกันด้วยความเข้าใจมากขึ้น เล่นแบบมีแบบแผน และเล่นเต็มประสิทธิภาพ จากทีมที่เราคิดว่าควรซื้อโน่นนี่ ควรขายโน่นนั่น ก็ทีมชุดเดียวกันแท้ๆกับสองผู้จัดการทีมก่อนหน้านั้น แต่ทำไมช่างเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะทีม (ที่จริงในส่วนนี้ผมอยาก บรรยายออกมาเป็นส่วนๆมากเลย แต่เกรงจะยืนยาว) และที่สำคัญ เวลาที่ผ่านมา เราได้ผู้จัดการที่ดูเป็นตัวตลกของวงการมามากแล้ว แต่คิงไม่ใช้ตัวตลก ทุกถ้อยคำ การแสดงออก ดูเป็นสุภาพบุรุษ ไม่แพ้ใครเลยในโลก และที่สำคัญ ทุกคนยอมรับเค้ามาก ในส่วนนี้ครับหากเราถามตัวเองเดอะค็อปทั้งหลาย การที่ผลงานออกมาดูดีขึ้นมาก แต่เราแทบจะไม่เล่นประเด็นที่ว่า มั่นใจว่าหงส์จะจบที่4 ซิวโควต้าแชมป์เปี้ยนลีก ไม่เหมือนเมื่อก่อน จนถูดค่อนคอดจากทีมอื่นว่า ชนะนัดเดียวมองถึงแชมป์ เพราะอะไรนั่นเหรอครับ ลองสังเกตด้วยตัวเองดู เราได้รับความสุขุม มาจากดัลกลิชนั่นเอง เราไม่เคยได้ยินเลยใช่ไหมว่าเค้าบอกอย่างนั้นตั้งแต่เค้ามาคุมทีม ไม่เบาปัญญาพอที่จะกดดันตัวเองหรอกครับ จนทำให้พวกเรา ค่อยๆมองความสำเร็จไปทีละสเต็ป แต่หากผมอ่านใจดัลกลิช เค้ามีเป้าหมายแน่นอนครับ ที่จะเอาของขวัญมาให้เดอะค็อป ด้วยการจบที่4 โคว้ต้าแชมป์เปี้ยนลีก

ที่จริงมีอีกหลายประเด็น รวมถึงเกมส์เมื่อคืนด้วย จริงๆแล้วคันมือมากครับ อยากเขียน แต่เกรงใจเนื้อที่ส่วนรวม ไว้มีโอกาส จะขออนุญาติสมาชิก มารบกวนเนื้อที่อีกครับ 

ณ.โอกาสนี้ ขอร่วมความสุขกับเหล่าเดอะค็อปทั้งหลาย ด้วยครับ มีสุขเราก็ร่วมสุข ที่ทุขก์ เราไม่ทอดทิ้งกัน ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ในความเป็นเดอะค็อป เราจะไม่ปล่อยให้ใครต้องเดียวดาย You'll never walk alone.

InRed.


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์