หงส์ยังไร้เจิด,ลุ้นตอร์ยิง!ล้างอายวูล์ฟส์

  หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยังคงไร้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ติดโทษแบนนัดสุดท้าย ส่วน เฟร์นานโด ตอร์เรส ยังคงเป็นตัวความหวังลุ้นยิงประตูเช่นเคย ด้าน หมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน เจ้าบ้านจะได้ คาร์ล เฮนรี่ กัปตันทีม และ โจดี้ แคร็ดด็อก สองปราการหลังฟิตกลับมาช่วยทีม ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 22 มกราคมนี้


ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 22 มกราคม 2554
วูล์ฟส์ - ลิเวอร์พูล



สนาม : โมลินิวว์ 
เวลา : 19.45 น.

     หมาป่า ของกุนซือ มิค แม็คคาร์ธี่ เรียกความมั่นใจกลับมาได้ในระดับหนึ่ง หลังจากที่เปิดบ้านถล่ม ดอนคาสเตอร์ 5-0 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบสาม นัดรีเพลย์เมื่อกลางสัปดาห์ หลังจากที่ออกไปโดน แมนฯ ซิตี้ หั่นหวุดหวิด 4-3 ในลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 

     ในการเปิด โมลินิวซ์ โดยมีเป้าหมายเอาชนะ ลิเวอร์พูล แบบไปกลับให้ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ทางด้านของ บิ๊กแม็ค เตรียมบรรจุชื่อ อดัม แฮมมิลล์ เด็กเก่า หงส์แดง ที่เพิ่งคว้ามาจาก บาร์นสลี่ย์ ไว้ในทีมด้วย 

     แต่ในรายของแบ๊กซ้ายร่างตัน จอร์จ เอโลโกบี้ ยังต้องชดใช้โทษแบนเป็นนัดสุดท้ายจากทั้งหมดสามนัด ขณะที่ เดฟ เอ๊ดเวิร์ดส์ ก็ยังไม่แน่ว่า จะหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าทันหรือไม่ ส่วน ซิลแว็ง อีแบ๊งค์ส เบล็ค กองหน้าผิวหมึก ก็มีปัญหาเจ็บน่อง 

     แม็คคาร์ธี่ เตรียมจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม โดย คาร์ล เฮนรี่ กัปตันทีม และ โจดี้ แคร็ดด็อก กองหลังที่ต่างฟิตกลับมาเป็นตัวจริงได้ พร้อมลุยต่อไป ขณะที่พวกที่ได้พักเมื่อมิดวีกอย่าง แม็ตต์ จาร์วิส, สตีเฟ่น วอร์ด และ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ก็พร้อมออกสตาร์ท 

     ด้าน หงส์แดง ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยภายใต้การนำของกุนซือ เคนนี่ ดัลกลิช หลังจากที่เริ่มต้นด้วยความพ่ายแพ้ต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1 ในศึก เอฟเอ คัพ ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ ก็ตามมาด้วยการออกไปโดน แบล็คพูล แซง 2-1 ในพรีเมียร์ลีก และล่าสุดคือการเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 2-2 ในศึก เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ 

     สำหรับการนำ ลิเวอร์พูล ไปเยือน หมาป่า วันเสาร์นี้ คิง เคนนี่ เตรียมใส่ชื่อ โจ โคล มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติอังกฤษไว้ในทีมด้วย 

     โคล อดีตนักเตะ เวสต์แฮม และ เชลซี เพิ่งผ่านเกมทีมสำรอง 45 นาทีเมื่อวันพุธ และทำผลงานได้น่าประทับใจจน ดัลกลิช แย้มๆ ว่า น่าทำประโยชน์ให้กับทีมได้ไม่น้อยเลย 

     อย่างไรก็ตาม ในรายของ มิลาน โยวาโนวิช มีอาการป่วย และไม่น่ามีชื่อในทีมด้วย แต่กัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยังหมดสิทธิ์ช่วยทีม เพราะติดโทษแบนนัดที่สามเป็นนัดสุดท้าย 

     นอกเหนือไปจาก เจมี่ คาร์ราเกอร์ (ไหล่) แล้ว ถือว่า ดัลกลิช มีขุมกำลังชุดที่สมบูรณ์ทีเดียวให้เลือกใช้งาน โดยแดนหลัง มาร์ติน เคลลี่ น่าได้รับโอกาสให้เล่นแบ๊กขวาต่อไป พร้อมกับที่ เกล็น จอห์นสัน จะโดนโยกไปเล่นทางซ้ายต่อ ส่วนแดนกลางเจ้าหนู เจย์ สเพียริ่ง ก็พร้อมลุยเช่นเดิม 

     คิง เคนนี่ กำชับให้ลูกทีมเน้นเต็มที่ในเกมนี้ควานหาชัยชนะนัดแรกให้ตนเองนับตั้งแต่หวนเข้ามารับงาน โดยแดนหน้ามีดาวยิงตัวเก่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวความหวังเช่นเดิม
 


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


     วูล์ฟส์ (4-4-2) :
เวย์น เฮนเนสซี่ย์ - โรนัลด์ ซูบาร์, โจดี้ แคร็ดด็อก, คริสตอฟ เบอร์ร่า, สตีเฟ่น วอร์ด - แม็ตต์ จาร์วิส, เนนาด มิลิยาส, คาร์ล เฮนรี่, สตีเฟ่น ฮันท์ - เควิน ดอยล์, สตีเว่น เฟล็ทเชอร์


     ผู้จัดการทีม :
มิค แม็คคาร์ธี่

     ดาวซัลโว :
สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ 5 ประตู (ในลีก 4)



     ลิเวอร์พูล (4-5-1) :
โฆเซ่ เรน่า - มาร์ติน เคลลี่, แดน แอ๊กเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เกล็น จอห์นสัน - เดิร์ค เค้าท์, ราอูล เมยเรเลส, เจย์ สเพียริ่ง, ลูคัส เลวา, มักซี่ โรดริเกซ - เฟร์นานโด ตอร์เรส

     ผู้จัดการทีม :
เคนนี่ ดัลกลิช

     ดาวซัลโว :
สตีเว่น เจอร์ราร์ด 8 ประตู (ในลีก 4), ดาวิด เอ็นก๊อก 8 ประตู (ในลีก 2)



คิงเคนนี่กระตุ้นเด็กบุกเก็บ 3 แต้ม


     ด้าน เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า ทีมจำเป็นต้องบุกไปเก็บ 3 คะแนนเต็มให้ได้ในเกมลีกนัดเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่สนามโมลินิวส์ กราวด์ วันเสาร์ที่ 22 มกราคมนี้ หลังจากที่เขายังไม่สามารถนำทีมคว้าชัยชนะได้เลยนับตั้งแต่เข้ามากุมบังเหียนในถิ่นแอนฟิลด์รอบ 2 

     ใช่ มันสำคัญ ผมไม่รู้ว่าคุณมองว่ามันสำคัญแค่ไหน แต่เราอยากคว้าชัยชนะ แม้ว่าเราต้องเหนื่อยและชนะแค่ 1-0 มันก็ไม่เป็นไร มันจะยังช่วยยกระดับจิตใจให้กับทุกคน ถ้านักเตะยังคงทำสิ่งที่เขาทำต่อไป ชัยชนะก็อยู่ไม่ไกล ดัลกลิช กล่าว  

     ลิเวอร์พูล ปัจจุบันอยู่อันดับ 13 ของตาราง มีแต้มเหนือกว่าโซนตกชั้นเพียง 4 คะแนนเท่านั้น หลังจากแพ้ 6 จาก 10 นัดหลังสุดในลีก รวมทั้งยังถูก วูล์ฟส บุกมาเอาชนะถึงแอนฟิลด์ 1-0 มาแล้วเมื่อเดือนธันวาคม

หงส์หนัก! ไม่ชนะบ้านหมาป่า 6 นัดติด

     ลิเวอร์พูล เจองานหนักเสียแล้วในการบุกเยือน โมลินิวซ์ กราวด์ ของ วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เพราะพวกเขาไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย ตลอด 6 นัดหลังที่มาเยือนสนามแห่งนี้ นับตั้งแต่ อลัน แฮนเซ่น ยิงประตูชัย 1-0 ในปี 1979 ตลอด 6 นัดหลังสุด ที่ โมลินิวซ์ เป็นการพบกันในลีกสูงสุดทั้งหมด ฤดูกาล 1979-80 วูล์ฟส์ ชนะ 1-0, ฤดูกาล 1980-81 วูล์ฟส์ ถล่ม 4-1, ฤดูกาล 1981-82 วูล์ฟส์ ชนะ 1-0, ฤดูกาล 1983-84 เสมอกัน 1-1, ฤดูกาล 2003-04 เสมอกัน 1-1 และ ฤดูกาล 2009-10 เสมอกัน 0-0 

     ชัยชนะ 3-1 ที่ โมลินิวซ์ เมื่อฤดูกาล 1977-78 เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ ลิเวอร์พูล คนปัจจุบัน ซัลโวคนเดียวสองประตู แต่ก็ล้มเหลวที่จะยิงประตู วูล์ฟส์ อีกในการมาเยือนที่นี่อีก 5 นัดถัดมา



วูล์ฟแฮมป์ตัน
- นับจั้งแต่ที่ อลัน แฮนเซ่น พังประตูให้ลิเวอร์พูลบุกมาชนะ 1-0 เมื่อเดือนเมษายน 1979 หลังจากนั้นพบกันอีก 6 นัดหลังสุดที่พบกันในโมลินิวซ์ กราวด์ ปรากฎว่าวูล์ฟส์ยังไม่เคยแพ้ (ชนะ 3 เสมอ 3)
- แพ้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (13 นัด - มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก)
- มีผลงาน 8 นัดหลังสุดเท่ากันที่ ชนะ 4 แพ้ 4
- ไม่เสียประตูจาก 3 จาก 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก หลังจากก่อนหน้านี้ 16 นัดแรกของฤดูกาลเสียประตูมาตลอด
- แพ้ 3 นัดในฤดูกาลที่ยิงประตูขึ้นนำคู่แข่งไปก่อน



ลิเวอร์พูล
- สมัยที่เป็นนักเตะ เคนนี่ ดัลกลิช ยิง 2 ประตูในการมาเล่นครั้งแรกที่โมลินิวซ์ กราวด์ ในชัยชนะ 3-1 เมื่อเดือนมีนาคมปี 1978 แต่การมาเยือนหลังจากนั้นอีก 5 ครั้ง คิง เคนนี่ ไม่สามารภทำประตูได้เลย
- เคนนี่ ดัลกลิช กลายเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลที่ออกสตาร์ทได้แย่ที่สุด นับตั้งแต่ รอย อีแวนส์ (ไม่ชนะ 3 นัดแรกในปี 1994) และถ้าหากยังไม่ชนะเกมนี้อีกจะทำให้กลายเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวคนแรกในรอบ 83 ปีที่ไม่ชนะจากการคุมทีม 4 นัด ต่อจาก จอร์จ แพ็ตเตอร์สัน (ไม่ชนะ 6 นัดแรก)
- ชนะแค่ 1 จาก 6 นัดหลังสุด (ชนะโบลตัน 2-1 ในแอนฟิลด์จากประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ โจ โคล)
- แพ้ 6 นัดเยือนหลังสุดติดต่อกันเป็นผลงานแย่ที่สุดในการเล่นลีกสูงสุด นับตั้งแต่ที่เคยแพ้ติดต่อกัน 20 นัดเป็นสถิติสโมสรที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม 1953-มกราคม 1954
- ทำหล่นไป 17 คะแนนในเกมที่ทำประตูออกนำคู่แข่งไปก่อน



โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
19.45 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน - ลิเวอร์พูล 
22.00 น. อาร์เซน่อล - วีแกน  
22.00 น. แบล็คพูล - ซันเดอร์แลนด์  
22.00 น. เอฟเวอร์ตัน - เวสต์แฮม  
22.00 น. ฟูแล่ม - สโต๊ค ซิตี้  
22.00 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - เบอร์มิงแฮม  
22.00 น. นิวคาสเซิ่ล - สเปอร์ส   
00.30 น. แอสตัน วิลล่า - แมนฯ ซิตี้


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์